"นัท" รับทำใจได้หลังคุณแม่สิ้นใจ

        บันเทิง คมชัดลึก - หลังจากที่คุณแม่ป่วยด้วยโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง หรือ ALS มานานกว่า 11 ปี ล่าสุด นัท มีเรีย  ได้สูญเสียมารดา  คุณแม่จินดา เต็งมีศรี  (อายุ 71 ปี) ไปอย่างไม่มีวันกลับ ด้วยอาการติดเชื้อในท่อปัสสาวะ ในคืนวันจันทร์ที่ 7 มกราคม 2562 เวลา 22.46 น. ที่โรงพยาบาลศิริราช ตึก84 ปี 

         เมื่อเวลา 15.30 น. ได้เคลื่อนศพคุณแม่จินดา จากโรงพยาบาลมาที่ วัดพระศรีมหาธาตุวรวิหาร บางเขน ศาลาทักษิณาประดิษฐ์ โดยทำพิธีรดน้ำศพเมื่อเวลา 18.00 น. โดยมีแขกผู้มีเกียรติอาทิ อ้อม พิยดา สายฟ้า เศรษฐบุตร ป้อง ณวัฒน์ "เป๊ก" สัญชัย ธัญญาเรศ ฯลฯ หลังสวดพระอภิธรรมเสร็จ  นัท มีเรีย และ "อั้ม" อธิชาติ ชุมนานนท์ ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน

         โดย นัท มีเรีย กล่าวว่า "วันนี้เป็นวันรดน้ำวันแรกและสวดคืนแรกนะคะ ก็จะสวดทั้งหมด 5 คืนจนถีงคืนวันเสาร์ และวันอาทิตย์ที่ 13 ก็จะฌาปนกิจคุณแม่ คุณแม่ก็ป่วยมานานนะ 11 ปี เป็นกล้ามเนื้ออ่อนแรง และติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ ก็ใช้สายเกี่ยวกับทางเดินปัสสาวะมานานหลายปี ก็คงจะมีอาการติดเชื้อ ไข้ขึ้นสูง ก็ไปอย่างสงบ ก็เป็นช่วงกลางคืน เพราะช่วงเช้านัทจะไลน์คอลคุยกันอยู่ ก็ยังเห็นคุณแม่ยังลืมตานิดๆ เหมือนพยายามจะบอก หรือพยายามจะสื่อสารกับเรา พอตอนกลางคืนสัก 4 ทุ่มกว่าๆ คุณแม่ก็ไม่อยู่แล้ว แต่ว่าเราก็ไปหาเขาและไปดูแลตามปกติ อาบน้ำสระผมเปลี่ยนชุดให้ ช่วงที่ทางโรงพยาบาลโทรมาก็คุยทางโทรศัพท์ด้วย ก็พูดกับคุณแม่เยอะ พูดไปหมดแล้ว (ยิ้ม) พูดทุกวัน พูดเหมือนที่เคยพูด มันไม่ได้มีอะไรที่ต้องพูดเป็นพิเศษ เพราะเราก็พูดกันทุกวันอยู่แล้ว คุยกันเกือบจะทุกวัน11 ปีคุณแม่ป่วยมันเหมือนเป็นประโยคที่เราเจอคุณพ่อคุณแม่เราทุกวัน"

         "ถามว่าเตรียมใจไว้ก่อนมั้ย เตรียมไว้ตลอดคิดว่ามันต้องมีวันนี้อยู่แล้วสักวันนึง แต่ก็พยายามจะมีสติให้มาก และโชคดีที่มีญาติพี่น้องเพื่อนๆ พี่ๆ อยู่ในวันนั้นพอดี ทานข้าวกันที่บ้านพอดี ทุกคนก็เลยร่วมแรงร่วมใจแยกย้ายทำหน้าที่แต่ละคนไปโดยที่ทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดีจริงๆ ขอบคุณจริงๆ ขอบคุณสถานการณ์ทุกอย่าง ขอบคุณอั้มด้วย (ยิ้ม) ต้องบอกเลยว่าที่นัทเป็นได้อย่างทุกวันนี้ อย่างที่ทุกคนเห็นว่านัทเป็นยังไง ก็ต้องขอบคุณคุณแม่จริงๆ ขอบคุณคุณพ่อคุณแม่ที่ปลูกฝังเลี้ยงดูนัทมาอย่างดี คุณแม่เป็นคนเข้มแข็ง เป็นคนรักครอบครัว เป็นคนดูแลคนอื่น เราก็เห็นตรงนี้มาตลอด ก็เลยทำให้รู้สึกว่าที่เราเข้มแข็งได้วันนี้มันก็มาจากที่คุณแม่เขาทำให้เราเรียนรู้ไปพร้อมๆ กันจากที่เราเข้มแข็งน้อย เราก็ค่อยๆ เข้มแข็งมากขึ้น จริงๆ เราเข้มแข็งมากกว่าเขาอีก เพราะว่าเขาป่วยเนอะ เขาค่อนข้างจะทนทุกข์ทรมานกว่าเราเยอะ แต่เราก็มีหน้าที่ของเราที่เป็นลูกให้ดีที่สุด ตัวเขาก็ดำรงค์ชีวิตของเขาและชีวิตของเราให้ไปด้วยกันแบบเรียนรู้ชีวิตซึ่งกันและกัน"

         "ถามว่าคุณแม่มีห่วงอะไรอีกมั้ย จริงๆ นัทไม่ทราบ แต่นัทเชื่อว่าที่ได้เห็นภาพเมื่อวาน สถานการณ์ต่างๆ นัทเชื่อว่าคุณแม่น่าจะหลับสบาย เพราะว่าคุณแม่สวยงามมาก ตาปิดสนิท เหมือนคนนอนหลับไปเฉยๆ เลย นัทก็อาบน้ำสระผมแต่งตัวให้ อยู่ด้วยกันหลายชั่วโมงมากเลย รู้สึกเหมือนเขานอนไปเฉยๆ เหมือนเขาแพลนทุกอย่างไว้ให้เราดีหมดแล้ว ทุกอย่างของคุณแม่อยู่ในใจเราตลอดมา มันเป็นอะไรที่เราแค่คิดเราก็มีความสุขแล้ว บางอย่างเราได้ปฎิบัติในขณะที่เขายังปกติดี และตอนที่เขาอาจจะดูแลตัวเองไม่ได้ และเราก็ดูแลทำหน้าที่ของเรา เราก็เดินหน้าต่อไป ยังมีอะไรอยากจะทำให้ท่านอีกมั้ยเหรอ ไม่มี บอกเลยว่าที่ผ่านมาทุกคนในครอบครัว เวลาเราทำอะไรเราก็จะนึกถึงคุณพ่อคุณแม่ผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว เราทำบุญก็อุทิศให้กับทุกคนที่เราเอ่ยชื่ออยู่แล้ว ก็เลยคิดว่ามันน่าจะเป็นอะไรที่เราทำเป็นประจำจนเรารู้สึกปกติ จนไม่รู้สึกว่ามีิอะไรต้องพิเศษค่ะ มันเป็นเหมือนทุกๆ วัน"

         "วันนี้ก็ได้ทุกๆ คนช่วยเยอะนะ ตั้งแต่คนในครอบครัว รวมไปจนถึงเพื่อนสนิท เพื่อนทุกๆ คน เพื่อนทั้งในวงการ นอกวงการ คือแทบจะไม่ต้องทำอะไรมากเลย ทุกคนทำหน้าที่ให้นัทหมดเลย จนนัทรู้สึกปลื้มใจ และอยากจะขอบคุณจากใจจริงๆ สำหรับทุกๆ ท่านที่ให้การช่วยเหลือนะ และดูแลนัทเสมอมา และที่สำคัญก็เป็นพระมหากรุณาธิคุณสำหรับครอบครัวนัททื่สมเด็จพนะนางเจ้าพระบรมราชินีนาถท่านทรงเมตตาอนุเคราะห์ ท่านทรงดูแลและให้ความเมตตาอย่างยิ่งกับครอบครัวของนัทนะคะ อันนี้เป็นพระมหากรุณาอย่างหาที่สุดไม่ได้จริงๆ เหนือเกล้าเหนือกระหม่อมจริงๆ เป็นอะไรที่ครอบครัวเราทุกคนปลื้มใจ" นัทกล่าวยิ้มๆ 

         ในขณะที่ "อั้ม" อธิชาติ สามีของนักร้อง-นักแสดงสาวกล่าวเสริมว่า "ก็ตั้งแต่รู้จักคุณนัทมา ก็จะเห็นคุณนัทมีความเป็นห่วงคุณแม่อยู่ตลอดเวลานะครับ คุณแม่ป่วยคุณนัทก็จะหาเวลาทุกครั้ง ไม่ว่าจะมีงานมากหรือน้อยแค่ไหนก็จะต้องหาเวลาไปหาคุณแม่ให้ได้ และจะเห็นเป็นประจำคือคุณนัทจะต้องไลน์คอล โทรหา ส่งเสียงพูดคุยให้คุณแม่ได้ยิน ผมก็เชื่อว่าอย่างที่ทุกคนได้เห็นว่าคุณนัทก็ทำทุกสิ่งทุกอย่างให้กับคุณแม่มาอย่างเต็มที่ที่ลูกคนนึงจะสามารถทำให้คุณแม่ได้ ทั้งเรื่องของบุญกุศล ทั้งเรื่องของทานกุศลต่างๆ เชื่อว่าคุณแม่ได้สะสมบุญบารมีที่คุณแม่ได้ทำ รวมถึงที่คุณนัทในฐานะลูกได้ทำให้คุณแม่อย่างเต็มที่แล้ว คุณนัทก็ทำใจไว้แล้วล่ะครับ ในเรื่องของการทำใจก็เป็นเรื่องปกติของมนุษย์ คุณแม่ก็ได้ไปอย่างสงบ" อั้มกล่าว

          อ้อม พิยดา จุฑารัตนกุล กล่าวถึงความรู้สึกที่มาร่วมงานในวันนี้ว่า  "มาให้กำลังใจ และแสดงความเสียใจกับนัท พอเจอหน้าก็พยักหน้า สลับกันไปนะเพื่อนก็ดูแลกันไป เพราะพี่นัทเพิ่งไปงานพ่อเรา ตอนนี้ก็เร็วไป ติดกันเกินไป ช่วงนี้เหมือนจะให้เล่นละครดราม่า ขยี้กัน (ทราบข่าวตกใจไหม) ตกใจ เราก็นึกว่าใช่เหรอ แต่ก็พอทราบอยู่แล้วว่าคุณแม่อยู่ที่โรงพยาบาล แต่เสียภายในช่วงเวลาที่ใกล้ๆ กัน ก็เป็นกำลังใจให้กันนี่แหละ (สภาพจิตใจคุณนัทเป็นอย่างไร) พี่นัทโอเคนะ อ้อมว่าพี่นัทโอเคเพราะมีเวลาได้ดูแล คือไม่ติดข้อง ขัดข้อง หรือมีเรื่องอะไรที่ติดค้างในใจ คือดี จริงๆลูกๆก็น่าจะดูแบบอย่างจากพี่นัทและตัวเราหน่อย(แล้วสภาพจิตใจของตัวเองเป็นอย่างไร) ก็ดีขึ้น เหมือนทุกอย่างมันต้องใช้เวลา อันนี้เราทำอะไรไม่ได้เลย แม้ว่าเราจะอายุเยอะแล้วมีวิจารณญาณ มีสติสัมปชัญญะ กับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่พอเลามันเกิดขึ้นกับเรา มันทำไม่ได้ ตอนนี้เพิ่งเริ่มมีสติเดี๋ยวเวลานี่แหละก็จะเป็นตัวช่วย " อ้อมกล่าว 

          กำหนดสวดพระอภิธรรม ตั้งแต่วันอังคารที่ 8 - เสาร์ที่ 12 มกราคม เวลา 19.00 น. ส่วนกำหนดณาปนกิจศพจะจัดในวันอาทิตย์ที่ 13 มกราคม 2562  เวลา 16.00 น.