ชาร์ตเพลงที่หายไป

          Billboard ชาร์ตเพลงที่ทรงอิทธิพลที่สุดของโลกตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันและมีแนวโน้มว่าในอนาคต Billboard ก็ยังจะคงเป็น “เบอร์หนึ่ง” ของวงการชาร์ตเพลงต่อไป

          นอกจาก Billboard แล้ว UK Top 40 Charts ก็นับว่ามีบทบาทในแวดวงเพลงสากลเช่นกัน โดยเฉพาะในฝั่งยุโรป ซึ่งทั้ง Billboard และ UK Top 40 Charts หรือชาร์ตเพลงชั้นนำอื่นๆ ได้มีการแบ่งประเภทของเพลง อาทิ Country Pop Rock Jazz Blues

          ส่วนในบ้านเรา ในอดีต Hot Wave ก็ดี Channel [V] ก็ดี Pirate Rock ก็ดี หรือ Seed ต่างก็เป็นชาร์ตเพลงที่มีอิทธิพลในยุคสมัยของตน แม้โดยส่วนใหญ่จะเป็นชาร์ตเพลง Pop Rock ก็ตาม

          โดยในช่วงที่ผ่านมา เพลงเพื่อชีวิตได้ถูกพัฒนามาเป็นลูกทุ่งเพื่อชีวิต เมื่อผนวกกับลูกทุ่งอีสาน ลูกทุ่งภาคกลาง เสริมด้วยลูกทุ่งภาคใต้ และภาคเหนืออีกนิดหนึ่ง

          ทำให้แนวเพลงลูกทุ่งประเทศไทยมีพัฒนาการอย่างชัดเจน จนขึ้นมาเป็นทิศทางดนตรีกระแสหลัก เช่น คลื่นวิทยุ FM ที่เปิดเพลงลูกทุ่ง 24 ชั่วโมง เนื่องจากลูกทุ่งมีฐานคนฟังที่กว้าง และมีเพลงฮิตที่สามารถฟังได้ทุกเพศ ทุกวัย ทุกกลุ่ม ซึ่งต่างจากเพลง Country ของต่างประเทศที่มีกลุ่มคนฟังเฉพาะ

          นำไปสู่การก่อกำเนิดชาร์ตเพลงลูกทุ่งขึ้น และกลายเป็นชาร์ตหลักควบคู่ไปกับเพลงฮิตและความนิยมแนวเพลงลูกทุ่งในเวลาต่อมา

          ทว่า ในปัจจุบัน ทั้งชาร์ตเพลงลูกทุ่ง และชาร์ตเพลงลูกกรุงหรือเพลงไทยสากล ทุกแนว กลับลดอิทธิพลลง กระทั่งสูญหายไปจากการรับรู้ของนักฟังเพลง

          และแม้ในห้วง 5-6 ปีที่ผ่านมา จะมีชาร์ตเพลงใหม่เกิดขึ้นและเป็นกระแสในช่วงเวลาหนึ่ง นั่นคือ Intensive Watch ซึ่งใช้เทคโนโลยีสารสนเทศระดับสูงในการนับความถี่ในการฟังเพลงผ่านคลื่นวิทยุก็ตาม

          เนื่องจากในยุคโซเชียลมีเดียและในกระแสดาวน์โหลดเพลงในห้วงเวลาก่อนหน้านี้ ได้ทำลายทั้งวงการขาย CD ร้าน CD ใหญ่น้อยไปล้มหายตายจากไปเป็นจำนวนมาก ทั้งยักษ์ใหญ่และยักษ์เล็กล้วนได้รับผลกระทบไม่ต่างกัน

          อย่างล่าสุด ผู้เขียนได้เขียนสเตตัสในเฟซบุ๊กเกี่ยวกับการปิดตัวของร้านขาย CD ยักษ์ใหญ่ ปรากฏว่ามียอดกด Like และยอด Share มากเป็นประวัติการณ์ สะท้อนถึงความสนใจของคอเพลงที่มีต่อการเปลี่ยนแปลงในวงการเพลง

          โดยเฉพาะโซเชียลมีเดียได้ทำลายแวดวงชาร์ตเพลงไปจนแทบจะหมดสิ้น

          เพราะแนวโน้มการฟังเพลงได้เปลี่ยนมาเป็นการฟังเพลงผ่านยูทูบนำไปสู่การกำหนดชาร์ตเพลงแบบใหม่ โดยใช้จำนวนยอดวิวหรือปริมาณครั้งในการฟังเพลงบนยูทูบ

          แม้การฟังเพลงผ่านยูทูบจะเป็นแนวโน้มใหม่ที่เกิดขึ้นมาร่วม 10 ปีแล้ว ทว่า ในยุคปัจจุบันเมื่อมาผนวกกับกระแสการปิดตัวของร้านขาย CD จนแทบจะหมดสิ้นไปจากเมืองไทย ส่งผลให้ยูทูบกลายเป็นเทรนด์ใหม่ของการวัดความนิยมด้านการฟังเพลง มาแทนที่ชาร์ตเพลงแบบเก่านั่นเองครับ