นายห้างกับนักร้องกรณี "ไหมไทย-ท็อปไลน์" 

 

          ความขัดแย้งระหว่างไหทองคำ กับ อาม ชุติมา คนในวงการเพลงลูกทุ่ง พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “ถ้าเป็นนายห้างทวีชัย จบไปนานแล้ว”

 

          ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น เพราะในแวดวงธุรกิจเพลงลูกทุ่งและหมอลำ ไม่มีนายห้างคนไหน “ใจดีและใจบุญ” เท่ากับ “ทวีชัย จริยะเอี่ยมอุดม” ผู้ก่อตั้ง “ท็อปไลน์มิวสิค” ค่ายเพลงแถวหน้าของเมืองไทย

 

 

          คนใกล้ชิดนายห้างท็อปไลน์จะรู้ดีว่า คติคำคมที่นายห้างทวีชัยยึดกุมไว้ในหัวใจคือ “ผู้ยิ่งใหญ่ที่สุด คือผู้ที่ทำตนให้เล็กที่สุด”

 

          จึงไม่น่าประหลาดใจที่คนในวงการ จะเห็นนายห้างทวีชัย เดินสายไปงานแต่ง งานบวช งานศพ ฯลฯ ของคนในสังกัดท็อปไลน์ทุกระดับ รวมถึงวงหมอลำที่จะเปิดฤดูกาล จะต้องเชิญนายห้างทวีชัยไปให้กำลังใจ

          20 กว่าปีที่แล้ว นายห้างทวีชัย เริ่มทำธุรกิจเพลงในห้องสี่เหลี่ยมเล็กๆ ที่สยามคอนโด สี่แยก อสมท และได้ย้ายไปสร้างอาณาจักรเพลงอยู่ในซอยภูมิจิตร พระโขนง

          เหตุที่นายห้างพันล้าน ทำตัวราวกับคนเดินดินกินข้าวแกง เพราะชีวิตนายห้างเกิดมาจากดิน เป็นลูกกรรมกร พ่อแม่อพยพจากเมืองจีน มาอยู่เมืองไทย พวกเขาอดทนสู้ชีวิต ไม่ย่อท้อต่อความยากลำบาก จนเงยหน้าอ้าปากได้

          จากเด็กขายแผ่นเสียง ใช้ความมานะอุตสาหะเรียนรู้ จนได้โอกาสเป็นผู้บริหารค่ายมิวสิคไลน์ ก่อนตัดสินใจแยกตัวออกมาตั้งค่ายท็อปไลน์เป็นของตัวเอง

 

          ศิลปินในค่ายท็อปไลน์ มีทั้งลูกทุ่ง และหมอลำ โดยเฉพาะตลาดหมอลำ ท็อปไลน์ยึดพื้นที่ “ตลาดอีสาน” มายาวนาน 

          คำว่า ตลาดอีสาน หมายถึงตลาดเพลงลูกทุ่งหมอลำที่กระจายฐานคนฟังไปทั่วประเทศ นักร้องดังมีมากมาย อาทิ นกน้อย อุไรพร, วงเสียงอิสาน, เฉลิมพล มาลาคำ, ไหมไทย หัวใจศิลป์, ลูกแพร อุไรพร, แดง จิตกร, เชิด ร็อคแสลง, สาวมาด เมกะแดนซ์, ดอกรัก ดวงมาลา, ปอยฝ้าย มาลัยพร, เพชร สหรัตน์, บัวผัน ทังโส, ศรีจันทร์ วีสี, บิ๊กวัน กันทรลักษ์, น้องใหม่ เมืองชุมแพ, เด่นชัย วงศ์สามารถ ฯลฯ

 

 

          ยุคสื่อดิจิทัลครองเมือง ท็อปไลน์ได้รับผลกระทบ นายห้างทวีชัยจึงเปิดบริษัท ท็อปไลน์ ดิจิตอล นำเสนอผลงานของศิลปินผ่านสื่อใหม่โดยมอบหมายให้ พงษ์ศักดิ์ จริยะเอี่ยมอุดม ลูกชายคนโต นั่งเก้าอี้กรรมการผู้จัดการ

          นายห้างทวีชัย จึงใช้เวลาดูแลศิลปิน และคณะหมอลำต่างๆ อย่างใกล้ชิด เหมือนคนในครอบครัวเดียวกัน 

          นักร้องเก่าตกทุกข์ได้ยาก คนในวงการนึกอะไรไม่บอก ก็วิ่งไปบอกนายห้างทวีชัย และไม่เคยผิดหวัง นายห้างหยิบยื่นความช่วยเหลือให้ทุกครั้ง

          อย่างหลายปีก่อน “ไหมไทย หัวใจศิลป์” ที่เคยเป็นพระเอกหมอลำของวงเสียงอิสาน มีชื่อเสียงโด่งดังจากงานเพลงในยุค “ลูกแพร-ไหมไทย” หมดสัญญาจากเสียงอิสาน ก็ไปสังกัดแกรมมี่โกลด์ นายห้างก็เปิดทางให้

          เมื่อหมดสัญญาจากแกรมมี่ “ไหมไทย” ขอมาอยู่กับท็อปไลน์ นายห้างทวีชัย ก็อ้าแขนต้อนรับอย่างอบอุ่น

          อยู่มาวันหนึ่ง “ไหมไทย” อยากเป็น “อิสระ” ไม่สังกัดค่าย ก็เข้าไปขออนุญาตจากนายห้างท็อปไลน์ 

          “ผมบอกว่า จะกลับบ้านเด้อครับเด้อ จะไปทำผลงานเอง ทางนายห้างท่านก็ดีครับ บอกแล้วแต่ตัดสินใจ..”

          เวลานั้น เป็นรอยต่อของยุคซีดีกับดิจิทัล อัลบั้มเพลงต้นทุนสูง แต่ยอดขายไม่ดี การผลิตแต่ละชุด ต้องใช้เวลาพิจารณาอย่างถี่ถ้วน ไหมไทยเข้าใจการผลิตเพลงของค่าย จึงไม่อยากรอคิวการทำเพลง

          ทั้งที่สัญญาของไหมไทยกับท็อปไลน์ ยังเหลือเวลาอีกหลายปี แต่นายห้างทวีชัย ก็เปิดทางให้ศิลปินได้โบยบินโดยเสรี

          สัญญาเป็นนิติกรรมทางกฎหมาย..แต่ “สัญญาใจ” ซื้อหาไม่ได้ นอกจากใช้ “ใจแลกใจ” จึงจะได้มา

          ฝากไว้เป็นบทเรียนแก่นายห้างหน้าใหม่ประเภท “สามล้อถูกหวย” ด้วยความปรารถนาดีอย่างยิ่ง