8 ปี 'กัน' บนเส้นทางบันเทิงกับการมีแฟนคลับเป็นแรงผลักดัง

    จัดงานแฟนมีทติ้งครบรอบ 8 ปีหลังจากการคว้าแชมป์จากเวทีการประกวดเดอะสตาร์ 6 มาจนถึงวันนี้ ในชื่องาน “8th gun anniversary love in finity 8 ปีรักนี้ไม่สิ้นสุด”ณ โรงละครอักษรา คิง เพาเวอร์ เมื่อวันก่อน ซึ่ง 8 ปีที่ผ่านมานักร้องหนุ่มชื่อดัง “กัน” นภัทร ถือเป็นศิลปินที่มีแฟนคลับติดตามมากมาย และยังคงเหนียวแน่นมาตลอด 8 ปี  “บันเทิง คมชัดลึก” ได้แอบถามเคล็ดลับของหนุ่มกันในการดูแลแฟนคลับให้อยู่ด้วยกันมานานกว่า 8 ปี ว่าทำยังไงมาฝากกัน 

    “8 ปีแล้วตั้งแต่การประกวดเดอะสตาร์ ซึ่งถ้าให้พูดกันตรงๆ ก็มีตบตีกันเยอะ (หัวเราะ) มีปัญหากันบ้างในบ้าน แต่ผมว่ามันเป็นความผูกพัน และผมรู้สึกว่าเขาอยากให้เราเดินไปข้างหน้าด้วยความประสบความสำเร็จในชีวิต ในผลงานต่างๆ ซึ่งมันเป็นความเข้าใจซึ่งกันและกันว่า ต่างคนต่างหวังดีกัน บางครั้งหวังดีเกินไป คิดมากเกินไป ทำให้ไม่เข้าใจกัน ผมมีความรู้สึกนะ ว่าแฟนคลับของใครก็จะมีความคิดหรืออะไรเหมือนกับศิลปินคนนั้น อย่างกันเป็นคนคิดมาก แฟนคลับของกันก็จะคิดมากเหมือนกัน (หัวเราะ) เรารู้สึกอย่างนั้นจริง ถามว่า 8 ปีที่ผ่านมาเวลาอยู่กับแฟนคลับกันเป็นตัวเองเลยนะ คือเป็นธรรมชาติของตัวเองเลย (ลากเสียง) กันว่าปล่อยให้มันเป็นไปตามธรรมชาติของมันเอง ที่ผ่านมาเราไม่สามารถไปบังคับให้เขาอยู่กับเราได้ตลอดเวลา เขาก็มีไปตามศิลปินคนอื่นบ้าง (ยิ้มมีนัยยะ) หรืออย่างบางครั้งที่เขารู้สึกว่าเราไปทำผิดมา แต่เราไม่รู้สึกว่าเราผิด เขาก็จะมาบอกเรา เราก็จะอธิบายให้เขาส่วนของเราให้เขาฟัง หรือบางครั้งเราทำผิดจริงๆ เราก็จะรับผิดในสิ่งที่ทำ คืออยู่กันแบบเหมือนครอบครัว ผมรู้สึกว่าเขารักผมที่เป็นแบบนี้ เราไม่ได้จะต้องมาทำอะไรที่ไม่ใช่ตัวเรา คือถ้าเราเป็นตัวตนออกมาและเขารักเราแบบนี้ ผมเชื่อว่าเราจะอยู่กันได้นาน เพราะรู้จักตัวตนของกันแล้ว”

   เรื่องอะไรที่เป็นเรื่องเปราะบางระหว่าง “กัน” กับแฟนคลับ
    “สมัยก่อนคือเรื่องผู้หญิง ความคิดเรา คือเราเป็นคนคิดมากมากว่าเป็นเดอะสตาร์มาออกจากบ้านแล้วห้ามมีแฟน ซึ่งมันเป็นความคิดเรา และเป็นความคิดที่แฟนคลับก็มีคิดให้เราด้วย (หัวเราะ) ตอนนั้นเราคิดว่าถ้าเรามีแฟนปุ๊บ เขา (แฟนคลับ) ยังรักเราเหมือนเดิมไหม หรือเขาจะน้อยใจไหม อะไรไหม ตอนนั้นเราคิดไปเยอะมาก เพราะว่าเราเพิ่งเข้ามาในวงการ จนกระทั่งเราอยู่มาเรื่อยๆ ก็ยังเป็นอยู่ดี เพราะเราเป็นห่วงความรู้สึกเขา ว่าเขาจะคิดมากว่าถ้าเรามีแฟน เราจะดูแลแฟนคลับได้เหมือนเดิมหรือเปล่า ซึ่งอันนี้เป็นสิ่งที่เราคิดแทนเขา มันไม่เกี่ยวเลย มันคนละเรื่องกัน มันคนละหน้าที่กัน เพราะเราก็ขาดแฟนคลับไม่ได้ เพราะเขาคือสิ่งที่เป็นกำลังใจให้เราในการทำงาน ไปเจอตามงานก็อยากที่จะได้เห็นป้ายไฟจากเขา อยากได้ยินเสียงกรี๊ดว่านี่คือคนที่เขาคอยสนับสนุนเรา แต่ตอนนี้เรื่องผู้หญิงไม่ค่อยห่วงแล้ว ตอนนี้จะห่วงอยากเรามีงานเพลง งานละครออกมา เรื่องอื่นๆ เขาไม่ค่อยห่วงแหละ จริงๆ เขาก็ยังห่วงเรื่องผู้หญิงบ้างแหละ แต่ห่วงว่าจะเจอคนแบบไหน จะรักเราจริงไหม จะจริงใจกับเราขนาดไหน คือมันเป็นความห่วง แต่ไม่ได้มานั่งนอยด์ว่าเรามีแฟน”