(คลิป) 'แม่น้องอิน ร่ำไห้!! วอนยุติข่าวทุกเรื่องของลูกสาว

    เมื่อเวลา 17.30. น. ของวันจันทร์ที่ 9 เมษายน นางลัดดา เชิดชูบุพการี มารดา และ นางอัจฉรา โคจรสวัสดิ์ คุณป้า น.ส.ณัฐณิชา เชิดชูบุพการี หรือน้องอิน อดีตดาราเด็กที่ประสบอุบัติเหตุรถเสียหลักพุ่งชนต้นไม้ข้างทางเสียชีวิต แถลงข่าวทั้งน้ำตาที่วัดราชสิงขร เจริญกรุง ซอย 74 ถนนเจริญกรุง โดยมารดาของ น.ส.ณัฐณิชา กล่าวตามข้อความที่เขียนบนกระดาษว่า

 

 

 

 

    "ก่อนอื่นแม่ต้องขอขอบคุณสื่อมวลชนที่มาในวันนี้ สาเหตุที่แม่มาแถลงข่าวในวันนี้เนื่องจากตอนนี้ ได้มีกระแสของน้องอินในหลายๆ ประเด็น และหลายช่องทาง. มีทั้งข่าวลบและข่าวบวก คุณแม่ในฐานะผู้สูญเสียจึงขออยากเปิดใจในการให้สัมภาษณ์กับสื่อทุกช่องทุกทาง ซึ่งการชี้แจงครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่แม่จะพูด แม่จึงอยากขอความเห็นใจจากทุกท่าน อยากขอให้จบเรื่องกระแสข่าวณปัจจุบันนี้ ซึ่งมีทั้งจริงบ้างไม่จริงบ้าง ซึ่งคุณแม่อยากจะให้น้องไปอย่างสงบ แม่เหลือเวลาอยู่กับน้องอีกแค่ 2 วัน (สะอื้น) วันพุธนี้น้องอินก็จะต้องจากเราไปตลอดชีวิตแล้ว (เสียงสั่นเครือและร้องไห้) แม่ขอให้ทุกสื่อช่วยยุติการประโคมข่าวทุกเรื่องของน้องและขอให้ยุติการแชร์ในทุกสื่อทั้งหมด และอยากให้สังคมเห็นใจและเห็นถึงคุณงามความดีของน้องอินมากกว่า เพื่อให้น้องอินจากไปอย่างสงบที่สุดในวาระสุดท้ายของชีวิต” นางลัดดากล่าวเสียงเครือ

 

 

 

 

    เมื่อถูกถามต่อว่าจากข่าวที่เกิดขึ้นมีประเด็นไหนที่ทำให้ครอบครัวเราไม่สบายใจที่สุด ซึ่ง อัจฉรา โคจรสวัสดิ์ คุณป้าของน้องอินที่เดินทางมาจากเชียงใหม่ เพื่อมาร่วมงานศพหลานสาว ร้องไห้ตลอดการให้สัมภาษณ์กล่าวแทนคุณแม่ด้วยน้ำเสียงครือๆว่า
    "ในนามของป้านะคะ ป้าเป็นป้าของน้องอินมาตลอดระยะเวลา 20 กว่าปี น้องอินโตมา เขาต้องเริ่มทำงานตั้งแต่เด็ก เขาเป็นเด็กที่มีความกตัญญู หนักเอา เบาสู้ สารพัดทุกเรื่องที่จะทำ สังคมไทยเราทำไมไม่นึกถึงจุดที่ดี ทำไมจะต้องไปนึกถึงจุดเล็กๆ น้อยๆ ที่น้องเขาเป็นวัยรุ่นทั่วไป ป้าขอนะคะ (ยกมือไหว้พร้อมปล่อยโฮหนัก) ขอไปถึงทุกๆ คน ให้เห็นใจครอบครัวเรา ที่เราต้องสูญเสียครั้งนี้ น้องอายุแค่นี้ เป็นเรื่องธรรมดามากด้วย ถ้าเกิดขึ้นกับครอบครัวไหนเราไม่รู่ว่าพวกคุณจะทนสภาพกับครอบครัวนี้ไปได้นานแค่ไหน ทุกคนรู้ไหม ตลอดระยะเวลาที่น้องมีชีวิตอยู่ น้องต้องดูแลแม่ตามลำพัง ทั้งๆ ที่เราเป็นพี่ป้าน้าอา ก็ทำได้แค่คอยดูแลเขาอยู่ห่างๆ แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น ทำไมสังคมบ้านเราซึ่งเป็นสังคมพุทธจะต้องมองเห็นในจุดที่ไม่ควรจะมองเห็น ทำไมไม่ดูสิ่งที่น้องทำมาหากิน ลำบากตั้งแต่อายุ 4 ขวบ จนถึงปัจจุบัน แล้วน้องเขายังทำงานจนถึงวาระสุดท้าย ป้าและครอบครัวขอความเห็นใจกับทุกๆ สังคมไทย ทุกๆ สื่อ ขอให้น้องอินไปดี เจอแต่สิ่งดีๆ พูดถึงเขาในเรื่องที่ดีๆ ได้ไหมคะ ครอบครัวเราขอร้องนะคะ (ยกมือไหว้) ขอร้องไปถึงทุกๆ คนเลย (ปล่อยโฮหนักมาก)" 

 

 

 

    ถามว่าติดใจอะไรที่ บิณฑ์ บันลือฤทธิ์ พูดไหม  คุณป้ากล่าวต่อว่า “เราไม่มีอะไรจะพูดมากไปกว่านี้แล้วค่ะ เพราะเราสูญเสียเกินกว่าที่พวกคุณจะเข้าใจว่า เราสูญเสียลูกหลายไปในครั้งนี้ ในขณะที่เขาอายุยังน้อยมันเจ็บช้ำแค่ไหน ถ้าเกิดว่าพวกคุณทึกคนมายืนในจุดที่เรายืนอยู่ คุณจะรู้ว่าเราเจ็บช้ำทางร่างกายและจิตใจขนาดไหน เราขอนะคะ ถ้าจะพูดถึงน้องอิน ขอให้พูดถึงแต่เรื่องคุณงามความดี ที่เขาเป็นเด็กกตัญญูเลี้ยงดูแม่มาจนกระทั่งวาระสุดท้ายของชีวิต เราขอนะคะ (ยกมือไหว้) ขอบคุณมากจริงๆ ค่ะ”
    กับกรณีที่ผู้สื่อข่าวถามถึงสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุในเรื่องของถนนหนทาง แม่และป้าได้กล่าวพร้อมกันว่า “ขอบคุณมากค่ะ” และก็เดินจากไป

 

 

    ส่วนบรรยากาศงานศพในวันนี้เต็มไปด้วยความเศร้าโศกและเงียบเหงา มี. ซารา คาซึงกินี.... ฯลฯ มาร่มงาน ภายในบริเวณงานมีพวงหรีดทยอยมาส่งที่ศาลาตลอดเวลาโดยงานบำเพ็ญกุศลในวันนี้ มีคุณอัจฉรา คุณย่าบัวเครือ โคจรสวัสดิ์ และป้าน้อยทัศนีย์ อินทรโรจน์ (ญาติพี่น้อง) เป็นเจ้าภาพ โดยงานบำเพ็ญกุศลศพจะจัดขึ้นในวันที่ 10 เมษายน โดยมีกลุ่มเพื่อนดาราเด็กเป็นเจ้าภาพ. และจะประชุมเพลิงในวันที่11 เมษายนเวลา 16.00น.