ของขวัญวันเด็ก ยุคดิจิทัล คิดวิเคราะห์ แยกแยะ รู้เท่าทันสื่อเทคโนโลยี โดย... ชุลีพร อร่ามเนตร [email protected] -
โตขึ้นหนูอยากเป็นอะไร? และวันเด็กปีนี้อยากได้อะไร? ล้วนเป็นคำถามที่เหล่าเด็กน้อยถูกถามทุกปีเมื่อเข้าสู่ช่วงเทศกาลวันเด็ก และปีนี้ก็เช่นเดียวกันนอกจากคำถามแล้ว แต่ละสถานที่ แต่ละหน่วยงาน ล้วนเปิดพื้นที่จัดกิจกรรมให้วัยใสได้ไปเที่ยวเล่น เพิ่มเติมความรู้ แต่งแต้มความคิดจินตนาการควบคู่การเรียนรู้เทคโนโลยีตามสไตล์เด็กยุคดิจิทัล
อ่านข่าว... วธ.ชวนเที่ยวงานวันเด็ก-มอบ175 รางวัล'เด็กผู้นำทางวัฒนธรรม'
เสาร์ที่ 2 ของทุกปี จะตรงกับวันเด็กแห่งชาติ ซึ่งปี 2563 ตรงกับวันที่ 11 มกราคม โดยมีคำขวัญวันเด็กว่า “เด็กไทยยุคใหม่ รู้รักสามัคคี รู้หน้าที่พลเมืองไทย” กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) หน่วยงานที่รับผิดชอบในการดูแลเด็กไทย เป็นหนึ่งในกระทรวงที่จัดกิจกรรมวันเด็กต่อเนื่องมาทุกปี โดยปีนี้จัดงานภายใต้แนวคิด Wonderful Kids “สุดยอดเด็กไทย” ในธีมงาน “Fun Thinking & Doing” สนุกคิด สนุกทำ แบ่งโซนกิจกรรม ออกเป็น 3 โซนหลัก
โซนที่ 1 Citizen Kids : พลเมืองเด็กดี โซนกิจกรรมที่แสดงถึงความเฉลียวฉลาดของเด็กไทยยุคใหม่ ที่มีความรัก ความสามัคคี และรู้จักหน้าที่ของตนเอง ปฏิบัติตนตามกฎระเบียบของสังคมได้อย่างถูกต้อง โซนที่ 2 Digital Kids : เด็กยุคดิจิทัล โซนกิจกรรมที่แสดงให้เห็นถึงความทันสมัย การรู้จักใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อเรียนรู้ และโซนที่ 3 Environmental Kids : เด็กรักษ์สิ่งแวดล้อม โซนกิจกรรมที่ให้เด็กและเยาวชน เห็นความสำคัญของสิ่งแวดล้อม
รศ.น.สพ.ดร.ณุวีร์ ประภัสระกูล ผอ.ศูนย์การศึกษาทั่วไป จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ปัจจุบันเด็กรุ่นใหม่มีความฉลาด มีความเชี่ยวชาญเทคโนโลยีมากมาย ซึ่งพวกเขาสามารถเข้าถึงข้อมูลที่หลากหลาย และสร้างนวัตกรรมหรืออาชีพของพวกเขาได้เอง แต่ในมุมของครูที่ได้เรียนรู้ร่วมกับเด็ก โดยเฉพาะเด็กระดับอุดมศึกษา สิ่งหนึ่งที่เด็กไทยขาดคือ ความรู้เท่าทันของการใช้สื่อโซเซียลมีเดีย หรือการใช้เทคโนโลยีเพื่อก่อให้เกิดประโยชน์ต่อตนเองแต่ไม่เป็นการทำร้ายผู้อื่น เพราะทุกครั้งที่เห็นเรื่องราวที่ไม่เหมาะสม นิสิตก็มักจะแชร์ ส่งต่อ หรือเกิดการบูลลี่ขึ้นในโลกโซเชียล โดยให้เหตุผลว่ารู้เท่าไม่ถึงการณ์
รศ.น.สพ.ดร.ณุวีร์ ประภัสระกูล
“อยากให้เด็กทุกคนได้เรียนรู้การใช้สื่อเทคโนโลยี โซเชียลมีเดียอย่างสร้างสรรค์ อยากให้มีกระบวนการเรียนรู้ที่ทำให้เด็กรุ่นใหม่เกิดความเข้าใจ และรู้จักใช้เทคโนโลยี นวัตกรรมต่างๆ ไปในทางที่เหมาะสม เพราะต้องยอมรับว่าเทคโนโลยีเป็นสิ่งที่คู่กับเด็กรุ่นใหม่ และเด็กรุ่นใหม่ทุกคนต้องมีทักษะการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล ซึ่งเด็กบางคนมีความเชี่ยวชาญเทคโนโลยีมากกว่าผู้ใหญ่ แต่ถึงอย่างไรก็ต้องเติมเต็มกระบวนการเรียนรู้การใช้ดิจิทัล เทคโนโลยีก่อให้เกิดประโยชน์มากกว่าการส่งต่อ การบูลลี่ในโลกออนไลน์ การวิพากษ์วิจารณ์โดยอ่านรับฟังข้อมูลเพียงข้างเดียว ไม่สามารถแยกแยะได้ว่าข้อมูลไหนจริง ไหนไม่จริง ขาดการคิดวิเคราะห์ แยกแยะ ต้องทำให้เด็กเข้าใจเทคโนโลยี รู้จักคิดวิเคราะห์ แยกแยะเนื้อหาต่างๆ ที่นำเสนอในโลกโซเชียล และเกิดการยับยั้งชั่งใจก่อนที่จะกระทำการสิ่งใดที่ไม่เป็นประโยชน์แก่ผู้อื่น” รศ.น.สพ.ดร.ณุวีร์ กล่าว
ของขวัญที่เหมาะกับเด็กไทยในยุคดิสรัปชั่นคือ ระบบการศึกษาที่ต้องสร้างคนรุ่นใหม่ให้รู้เท่าทันการใช้สื่อเทคโนโลยี เพราะต่อให้สร้างได้เพียงกระบวนการเรียนรู้ เนื่องจากกระบวนการคิดของเด็กแต่ละคนพื้นฐานจะไม่เหมือนกัน แต่ระบบการศึกษาต้องเพิ่มทักษะการใช้เทคโนโลยี การรู้เท่าทัน คิดวิเคราะห์ แยกแยะให้แก่เด็กไทย
พรชนก สารัศร์
พรชนก สารัศร์ นิสิตชั้นปีที่ 2 คณะนิติศาสตร์ จุฬาฯ กล่าวว่า ทุกวันนี้ความรู้มีมากมายอยู่รอบตัวของเด็ก ซึ่งลักษณะของเด็กในปัจจุบันแตกต่างจากอดีต พวกเขามีความกระตือรือร้น อยากเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ที่นอกเหนือจากตำราเรียน หรือในห้องเรียน เพราะต้องยอมรับว่าสิ่งที่อยู่ในห้องเรียนนั้นสามารถค้นคว้าหาได้จากโลกอินเทอร์เน็ต
อีกทั้งเด็กส่วนใหญ่จะติดโซเชียลมีเดีย โลกอินเทอร์เน็ตเป็นเสมือนอีกโลกหนึ่งของพวกเขา ดังนั้น เมื่อความชอบ ความสนใจ และการเรียนรู้ของเด็กเปลี่ยนไปจากเดิม ระบบการศึกษาต้องเปลี่ยนตาม วิธีการสอนต้องดึงโลกออนไลน์ ใช้เทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์ ขณะเดียวกันในช่วงวันเด็ก นอกจากของขวัญ กิจกรรมต่างๆ ที่จะทำให้เด็กเกิดความสนุกสนานแล้ว อยากให้เติมเต็มกิจกรรมในรูปแบบของการสร้างทักษะการรู้เท่าทันสื่อ เพราะเทคโนโลยีแม้ช่วยในการเรียนรู้ แต่หากไม่รู้ว่าจะใช้อย่างไรให้เกิดประโยชน์ก็มักจะเป็นโทษ
สาวิตรี สามปลื้ม -ด.ญ.ธัญนุช ดาวกระจาย
ปิดท้ายด้วย คุณแม่สาวิตรี สามปลื้ม ของน้องณฉัตร ด.ญ.ธัญนุช ดาวกระจาย อายุ 7 ปี กล่าวว่า ทุกวันเด็กก็จะพาลูกไปร่วมกิจกรรมตามสถานที่ต่างๆ แต่ส่วนใหญ่เน้นใกล้บ้าน เพราะเดินทางสะดวกและไม่ต้องรอเข้าร่วมกิจกรรมเวลานาน ส่วนปีนี้ เท่าที่ดูกิจกรรมของสถานที่ต่างๆ เน้นให้เด็กเรียนรู้นวัตกรรม เทคโนโลยี และทักษะตามศตวรรษที่ 21 ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดี
อย่างไรก็ตาม ควรเพิ่มเติมทักษะการใช้ชีวิต การทำงานเป็นทีม และเผชิญความล้มเหลวผ่านการเรียนรู้จากการปฏิบัติจริง ลองผิดลองถูกจริงๆ เพราะตอนนี้ทุกอย่างพร้อมสำหรับเด็ก และพ่อแม่รุ่นใหม่พร้อมสนับสนุนเด็กให้เพียบพร้อมทุกเรื่อง จนบางครั้งเมื่อเขาต้องใช้ชีวิตจริงๆ อาจจะทนแรงกดดัน ความล้มเหลวไม่ได้ อาจจะเรียนเก่ง มีความรู้ แต่ใช้ชีวิตไม่เป็น
ทุกปีจะพยายามหากิจกรรมที่ช่วยเติมเต็มทักษะชีวิต การเข้าสังคมให้แก่ลูก เพราะสังคมมีความหลากหลาย และสังคมในโรงเรียนเป็นเพียงสังคมหนึ่ง สังคมโซเชียลมีเดียก็เป็นอีกสังคมหนึ่ง ต้องทำให้เขาสามารถปรับตัวเรียนรู้และอยู่ได้ในทุกสังคม โดยกิจกรรมต้องผ่านการลงมือปฏิบัติ เรียนรู้จากของจริง ได้ลองผิดลองถูก
"ของขวัญวันเด็กปีนี้ หน้าที่ของพ่อแม่คือการช่วยลูกในการค้นหาตนเอง และให้เขาได้เรียนรู้ในสิ่งที่ชอบและสนใจ ขณะที่ระบบการศึกษาควรจะจัดกิจกรรมให้เด็กเรียนรู้นวัตกรรม และเท่าทันการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีผ่านการลงมือปฏิบัติ มากกว่าเรียนรู้ว่าใช้เป็น ทำเป็น แต่ไม่รู้ว่าควรใช้อย่างไร” คุณแม่สาวิตรี กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง