แนะปรับระบบประกันสังคม รับแพลตฟอร์มเวิร์กเกอร์อนาคต โดย... ปาริชาติ บุญเอก [email protected] -
การเข้ามาของเทคโนโลยี ทำให้รูปแบบ ทักษะอาชีพเปลี่ยนแปลงไป เกิดอาชีพอิสระใหม่ๆ เช่น แพลตฟอร์มเวิร์กเกอร์ ซึ่งใช้แพลตฟอร์มออนไลน์ในการประกอบอาชีพ เช่น ยูทูบเบอร์ บริการส่งสินค้าและอาหารออนไลน์ ทำให้มีแรงงานอยู่นอกระบบมากขึ้น ขณะเดียวกันประกันสังคมซึ่งมีมาตรา 40 เพื่อรองรับแรงงานกลุ่มดังกล่าว กลับมีผู้ลงทะเบียนเพียง 3 ล้านคนเท่านั้น
จากการเปลี่ยนแปลงของตลาดแรงงานในปัจจุบันที่เกิดการปฏิวัติอุตสาหกรรม การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี โลกการทำงานเปลี่ยน งานบางอย่างหายไป งานใหม่เกิดน้อยลง ภาวะเศรษฐกิจฟื้นตัวแบบไร้งาน การว่างงานระยะยาว ค่าแรงชะงักงัน ส่วนแบ่งรายได้ของแรงงานลดลง เกิดความเลื่อมล้ำทะยานสูง
ภัทรพร เล้าวงค์ นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการพิเศษ สำนักวางแผนและพัฒนายุทธศาสตร์ทางสังคม สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กล่าวในช่วงเสวนา ภาครัฐปรับตัวอย่างไรกับรูปแบบงานที่เปลี่ยนไป ภายในงานประชุมวิชาการประกันสังคมประจำปี 2562 ครั้งที่ 14 ภายใต้หัวข้อ The Future of Work and Social Protection “รูปแบบการทำงานในอนาคตกับการคุ้มครองทางสังคม” ณ โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพฯ ว่าปัจจุบันตลาดงานเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้าง ส่วนแบ่งแรงงานเมื่อเทียบกับเครื่องจักรลดลง ตอนนี้กลายเป็นว่าเศรษฐกิจโตแต่ไม่มีงาน เพราะงานบางอย่างถูกเครื่องจักรทดแทน หลายคนจบปริญญาแต่กลับทำงานต่ำกว่าระดับ เกิดความเหลื่อมล้ำทั้งด้านเงินฝากในธนาคาร และเงินออม ดังนั้นต้องมานั่งดูว่าตอนนี้มีคนกลุ่มไหนบ้างที่ตกงาน”
อีกจุดที่สร้างความเป็นกังวลคือรูปแบบงานในอนาคตจะไม่ปกติอีกต่อไป เป็นการจ้างงานอิสระมากขึ้น จะไม่เป็นการจ้างงานระยะยาว และอีกมากมายที่จะเกิดขึ้นในอนาคต แรงงานที่อยู่นอกระบบมีผล คือ ไม่ครอบคลุมของค่าแรงขั้นต่ำ ไม่การันตีความมั่นคงทางรายได้ วันหยุด ลาป่วย ลาคลอด ไม่ได้รับค่าจ้างเหมือนงานประจำ รวมถึงสวัสดิการอื่นๆ อำนาจในการต่อรองต่ำลงและไม่มีเงินลงทุนเพราะธนาคารไม่ให้กู้เนื่องจากไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน
“รูปแบบที่เปลี่ยนไปเป็นโอกาส แต่ไม่ใช่โอกาสสำหรับทุกคน ขณะเดียวกันอาจจะเสี่ยงแต่ไม่เสี่ยงสำหรับทุกคน คนทำงานอิสระแบ่งเป็น 3 ประเภท คือ “The Maverick” ขั้นเทพ มีรายได้มาก “The Mass” คนส่วนใหญ่ของประเทศ และ “The Marginal” กลุ่มรั้งท้ายเกือบหลุดขอบ ดังนั้นอีกเรื่องที่ภาครัฐเป็นห่วงคือ อนาคตจะมีกลุ่ม The Mass อีกกี่คนที่ตกขอบไปเป็น The Marginal” ภัทรพร กล่าว
ทั้งนี้ภายในงานประชุมดังกล่าวยังเปิดเวทีให้ความรู้และความเข้าใจงานประกันสังคมแก่ประชาชนทั่วไปและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับมุมมองอาชีพงานรูปแบบใหม่ (แพลตฟอร์มเวิร์กเกอร์) ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันและอนาคต มุมมองการให้ความคุ้มครองทางสังคมและก่อให้เกิดการประสานความร่วมมือระหว่างหน่วยงานต่างๆ เป็นแนวทางการขับเคลื่อนการพัฒนาระบบความคุ้มครองทางสังคมเพื่อให้สำนักงานประกันสังคม หน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานและภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง นำไปประกอบการกำหนดนโยบายและแนวทางดำเนินงานอย่างเหมาะสมต่อไป
โดยมีผู้บริหารกระทรวงแรงงาน ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ของสำนักงานประกันสังคมทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค กรรมการและอนุกรรมการของสำนักงานประกันสังคม ผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผู้แทนองค์การแรงงานระหว่างประเทศ ผู้แทนนายจ้างและลูกจ้าง นักวิชาการ นักวิจัย เอ็นจีโอ สื่อมวลชน และประชาชนทั่วไปเข้าร่วมกว่า 450 คน โดยมี รศ.จักษ์ พันธ์ชูเพชร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานเปิดงาน
แม้ที่ผ่านมาสำนักงานประกันสังคมในฐานะดูแลเรื่องสิทธิประโยชน์ผู้ประกันตน ได้จัดทำสิทธิประโยชน์ผู้ประกันตนภาคสมัครใจมาตรา 40 เมื่อปี 2554 เพื่อดูแลแรงงานที่ทำอาชีพอิสระ ปัจจุบันมีจำนวนผู้ประกันตนมาตรา 40 เพียง 3 ล้านคนเท่านั้น จากผู้ประกอบอาชีพอิสระทั่วประเทศกว่า 24 ล้านคน
พิศมัย นิธิไพบูลย์ หัวหน้าผู้ตรวจราชการกรม สำนักงานประกันสังคม กล่าวว่า ปัจจุบันผู้อยู่ในวัยแรงงานนิยมทำงานนอกระบบมากขึ้น ส่งผลกระทบต่อการคุ้มครองแรงงาน นอกจากผู้ประกันตนมาตรา 33 และ 39 แล้ว สปส.ยังมีผู้ประกันตนภาคสมัครใจมาตรา 40 สำหรับผู้ทำงานอิสระ ผู้ที่มีสิทธิสมัคร ได้แก่ ผู้ที่ทำอาชีพอิสระสัญชาติไทยอายุไม่ต่ำกว่า 15 ปีบริบูรณ์และไม่เกิน 60 ปีบริบูรณ์ หรือเป็นชนกลุ่มน้อยที่มีบัตรประจำตัวคนซึ่งไม่มีสัญชาติไทย ที่มีเลขประจำตัวหลักแรกเป็นเลข 0 หรือ 6 หรือ 7 ต้องไม่เป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 และมาตรา 39 ไม่เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือรัฐวิสาหกิจ และไม่เป็นผู้พิการทางสติปัญญา
“โดยสิทธิประโยชน์ที่จะได้รับ คือ เงินทดแทนกรณีประสบอันตรายหรือเจ็บป่วยสูงสุด 300 บาทต่อวัน รับเงินทดแทนกรณีทุพพลภาพ เดือนละ 500-1,000 บาท รับเงินบำเหน็จชราภาพพร้อมดอกผล รับเงินกรณีสงเคราะห์บุตร 200 บาทต่อเดือน (ไม่เกิน 2 คน) และรับเงินค่าทำศพกรณีตายสูงสุด 40,000 บาท จากข้อมูลสำนักงานสถิติแห่งชาติ ซึ่งคาดว่าจะมีผู้ที่ทำงานอิสระกว่า 24 ล้านคน มีผู้ขึ้นทะเบียนประกันตนมาตรา 40 เพียง 3 ล้านคนเท่านั้น”
ขณะที่เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2562 สำนักงานประกันสังคม (สปส.) ได้ลงนามความร่วมมือกับองค์กรแรงงานระหว่างประเทศ (ไอแอลโอ) เพื่อริเริ่มโครงการเสริมศักยภาพสำนักงานประกันสังคมด้านการออกแบบนโยบายโดยมุ่งเน้นที่การวิจัยและงานด้านคณิตศาสตร์ประกันภัย โดยมีกรอบความร่วมมือระยะเวลา 4 ปี 6 เดือน
นูโน่ คุนย่า ตัวแทนจากองค์กรแรงงานระหว่างประเทศ (ไอแอลโอ) กล่าวว่า สิ่งที่ไอแอลโอ จับตาตลอดมา คือตลาดแรงงานที่มีลักษณะที่เปลี่ยนไป โดยเฉพาะการสร้างอาชีพผ่านแอพ ออนไลน์ ดิจิทัล นี่ไม่ใช่กระแสแค่ในไทยแต่ไปทั้งภูมิภาคอาเซียน การศึกษาขั้นแรกคือต้องมีคำจำกัดความของคำว่า “แพลตฟอร์มเวิร์กเกอร์” เพราะในกลุ่มนี้ มีทั้งขายของ ขายแรงงานทางออนไลน์ ซึ่งมาในรูปแบบงานที่เราไม่คุ้นเคย เป็นการทำงานชั่วคราว ไม่ใช่ทำงานประจำ หรือบางคนเรียกว่าเป็นนายตัวเอง เช่น ขับแกร็บ อยากทำตอนไหนก็ได้ ผู้ว่าจ้างไม่ใช่นาย ดังนั้นสิ่งที่หลายประเทศพูดคุยคือใครจะเป็นนายจ้างและใครจะรับผิดชอบดูแลกลุ่มแพลตฟอร์มเวิร์กเอกร์ และดูแลอย่างไร
ประกันสังคมทั่วโลกประสบปัญหานี้ เพราะตอนแรกทำประกันสังคมเพื่อรองรับลูกจ้างที่อยู่ในระบบ แต่ปัจจุบันมีลูกจ้างนอกระบบเราจะไปควานหาอย่างไร เพราะมีจำนวนมากกว่าที่เราคิด ดังนั้นอยากให้หาข้อมูลให้มากและทำความเข้าใจว่าใครเป็นกลุ่มที่อยากจะดึงเข้ามาในระบบ เช่น คนขับแกร็บมีกี่คน สัดส่วนการแบ่งรายได้เป็นอย่างไร รวมถึงกำหนดกรอบกฎหมายให้ชัดเจนโดยเฉพาะลูกจ้างและนายจ้าง เช่น แกร็บ ควรจะได้รับการจ่ายสมทบหรือไม่
“นอกจากประกันสังคมแล้ว กระทรวงคมนาคม กระทรวงแรงงาน กระทรวงพาณิชย์ ต้องพูดคุยกันเพิ่มเติม และสุดท้ายคือไม่อยากให้แบ่งแยกว่าในระบบหรือนอกระบบ เพราะความจริงแค่รูปแบบการทำงานต่างกัน อยากให้ดูในภาพใหญ่ มากกว่าการจำกัดในกลุ่มเล็กๆ อยากให้ระบบประกันสังคมเป็นเหมือนกิ้งก่า ปรับตัวได้ ไม่ใช่มาตรฐานตายตัว เพราะคนทำงานมีความหลากหลาย ระบบเราจึงต้องเอื้อพอให้คนหลายกลุ่มได้รับประโยชน์อย่างแท้จริง” ตัวแทนไอแอลโอ กล่าว
ด้าน โกมล มุทุกันต์ ในฐานะตัวแทนจากแพลตฟอร์มเวิร์กเกอร์ ให้ความเห็นว่า สิ่งที่จะเป็นแรงจูงใจให้เหล่าแพลตฟอร์มเวิร์กเกอร์มาสมัครมาตรา 40 มากขึ้น คือ ผลประโยชน์ที่แตกตางจากประกันชีวิต จ่ายน้อยกว่า ได้ผลประโยชน์มากกว่า และในวันหนึ่งที่พวกเขาทำงานไม่ได้จะมีผลประโยชน์ตอบแทนหรือไม่ คิดว่านี่จะเป็นแรงจูงใจให้มีคนสมัครมากขึ้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง