เทคโนโลยี สานอนาคตการศึกษา พัฒนาครู ขยายโอกาสเรียนรู้เด็ก โดย... คุณภาพชีวิต [email protected] -
การเรียนรู้ในโลกยุคดิจิทัลปฏิเสธไม่ได้ว่า “เทคโนโลยี” เป็นอีกหนึ่งตัวขับเคลื่อนสำคัญในการพัฒนาเด็ก ครู ผู้บริหาร และสถานศึกษา “โรงเรียนวัดดอนทราย จ.ราชบุรี” หนึ่งในโรงเรียนประชารัฐที่จัดการเรียนการสอนระดับประถมศึกษาปีที่ 1 ถึงประถมศึกษาปีที่ 6 ได้นำเทคโนโลยีสื่อการเรียนการสอนสมัยใหม่เข้ามาช่วยพัฒนาครู อันนำไปสู่การยกระดับคุณภาพการเรียนรู้ของเด็ก
ครูวรวิทย์ จันสา ครูสอนวิชาเทคโนโลยี ระดับชั้น ป.1-ป.6 โรงเรียนวัดดอนทราย จ.ราชบุรี เล่าว่า ตั้งแต่ปี 2559 โรงเรียนได้รับคัดเลือกให้เป็นหนึ่งในโรงเรียนประชารัฐ ร่วมโครงการสานอนาคตการศึกษา คอนเน็กซ์ อีดี CONNEXT ED ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากบมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น ในการสนับสนุนคอมพิวเตอร์ โน้ตบุ๊ก และอุปกรณ์สื่อการเรียนการสอนต่างๆ มอบให้โรงเรียน และมีเจ้าหน้าที่ไอซีที ทาเลนต์ มาช่วยอบรมพัฒนาครูในการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย ทำให้การเรียนการสอนสนุก นักเรียนได้ค้นคว้าหาข้อมูลเพิ่มเติม ครูได้สืบค้น จัดทำแผนการสอน เมื่อการจัดการเรียนการสอนมีคุณภาพ สอดคล้องกับเนื้อหา มีกิจกรรมใหม่ๆ ให้เด็กได้เรียนรู้ นักเรียนก็มีความสุข สนุกในการเรียน และที่สำคัญผลการเรียนของนักเรียนก็ดีขึ้นด้วย
“เมื่อก่อนโรงเรียนจะมีคอมพิวเตอร์ โทรทัศน์ อย่างละ 1 เครื่อง เวลาจะสอนวิชาอะไรต้องให้นักเรียนผลัดกันมาสืบค้น กว่าเด็กจะทำรายงาน การบ้าน หรือหาข้อมูลต้องใช้เวลานาน แต่พอเข้าร่วมโครงการสานอนาคตการศึกษา คอนเน็กซ์ อีดี ซึ่งบริษัททรูก็ได้มอบสื่ออุปกรณ์โทรทัศน์ คอมพิวเตอร์ เพื่อใช้ในการเรียนการสอนทุกห้องเรียน มีโน้ตบุ๊กเพื่อการศึกษา 200 เครื่อง ให้แก่นักเรียนและครู ทำให้ครูใช้สื่อได้ดียิ่งขึ้น เด็กนักเรียนได้ใช้คอมพิวเตอร์เปิดวิดีโอสำหรับสืบค้นหาสาระองค์ความรู้ต่างๆ ที่นอกเหนือจากการเรียนรู้ผ่านการใช้กระดานดำเพียงอย่างเดียว” ครูวรวิทย์ เล่า
จากการเรียนรู้ผ่านหนังสือสู่สื่อที่ทันสมัยทำให้นักเรียนเกิดความกระตือรือร้น สนใจอยากเรียนรู้ ครูวรวิทย์ เล่าต่อว่า สิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัดหลังจากมีการนำเทคโนโลยีสื่อ เข้ามาช่วยในการเรียนการสอน คือ เด็กรู้จักการสืบค้นหาข้อมูล คิดวิเคราะห์ กล้าแสดงความคิดเห็นให้ผู้อื่นได้รับรู้ และครูมีแผนการเรียนการสอนโดยใช้สื่อเทคโนโลยีมาทำให้เด็กมีความสนใจ เพราะมีภาพเคลื่อนไหว มีเกมที่ช่วยฝึกทักษะการคิดให้พวกเขาได้เล่น ที่สำคัญทำให้ปฏิสัมพันธ์ระหว่างครูกับเด็กดีขึ้น เป็นห้องเรียนทันสมัยที่ทั้งครู เด็กได้เรียนรู้ร่วมกัน มีความสุข สนุกร่วมกัน
“ต้องยอมรับว่าเด็กสามารถค้นหาข้อมูลได้ด้วยตนเอง ครูก็ต้องปรับการเรียนการสอนของให้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงของเด็กและเทคโนโลยี ซึ่งโครงการสานอนาคตการศึกษาคอนเน็กซ์ อีดี มีการจัดทำ Plookclassroom ซึ่งเป็นแหล่งรวมคลังบทเรียน คลังข้อสอบ แนะแนว แผนการสอน เทคนิคการสอนต่างๆ ให้แก่ครู ทำให้ครูบูรณาการการส่งงานทางโน้ตบุ๊ก ดึงดูความสนใจให้เด็กมากกว่าการเขียนรายงานใส่กระดาษ ขณะเดียวกันครูผู้สอนสามารถใช้เนื้อหากำหนดการสอน เช็กได้ว่าเด็กส่งงานหรือยัง ตรวจการบ้าน และเด็กก็สามารถเข้าไปดูได้ทันทีว่าได้คะแนนอย่างไร ควรพัฒนาตรงจุดไหน ครูก็เข้าใจเด็กและช่วยเสริมพัฒนาทักษะที่เด็กขาดได้” ครูวรวิทย์ กล่าว
นอกจากนั้นยังมีโปรแกรม True Click Life SIS สื่อ interactive 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ โดยครูประจำชั้นสามารถนำสื่อเข้ามาใช้ในบทเรียน เช่น การบวกเลข เด็กมีโน้ตบุ๊กประจำตัวแต่ละคนทำให้สามารถเปิดใช้งานสื่อด้วยตัวเองได้ทันที ได้ดูสื่อเพิ่มเติม เด็กบางคนเข้าไปเรียนก่อนที่ครูจะสอนอีก เพราะเด็กมีความตื่นเต้นที่จะเรียนรู้กับสื่อ
ครูวรวิทย์ เล่าอีกว่า เทคโนโลยีเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว ถ้าครูย่ำอยู่กับที่จะตามการเรียนการสอนรูปแบบใหม่ๆ ไม่ทัน และเด็กรุ่นใหม่เขาก็พร้อมจะเรียนรู้ผ่านเทคโนโลยี ไม่ได้มารอครูป้อนข้อมูลเหมือนในอดีต ครู สถานศึกษาต้องนำเทคโนโลยี สื่อสมัยใหม่มาใช้ให้เกิดประโยชน์ ครูต้องพัฒนาตนเอง มีความกระตือรือร้นในการสอนด้วยรูปแบบใหม่ๆ รู้จักใช้เทคโนโลยี สื่อสมัยใหม่เพื่อจัดการเรียนการสอนที่ดึงดูด ตอบสนองความต้องการของเด็ก
น้องใบข้าว ด.ญ.ปวันพัสตร์ กินนารี นักเรียนชั้น ป.5 โรงเรียนวัดดอนทราย จ.ราชบุรี เล่าถึงประสบการณ์ครั้งแรกที่มีโน้ตบุ๊กว่า ได้นำไปใช้สืบค้นเรียนรู้จากทั้งตำราเรียนและหาความรู้ใหม่ๆ ซึ่งเป็นการเรียนรู้ที่สนุกมากขึ้น เมื่อก่อนเวลาทำรายงานต้องมานั่งเขียน แต่ตอนนี้สามารถพิมพ์ในโน้ตบุ๊กและส่งครูได้ทันที ทำให้ไม่เบื่อ มีความสุขในการเรียน และยังสามารถค้นหาคำตอบ เพื่อสอบหรือตอบคำถามของครู ผลการเรียนก็ดีขึ้น แถมเวลาอยู่ที่บ้านได้ช่วยสอนการบ้านน้อง ค้นหาความรู้มากมายได้มาแลกเปลี่ยนกับพ่อแม่ด้วย การมีโน้ตบุ๊กสื่อการเรียนการสอนสมัยใหม่ มีความจำเป็นอย่างมากในการเรียนรู้ อยากให้สนับสนุน ส่งเสริมการเรียนรู้ของเด็กต่อไปเรื่อยๆ
โครงการสานอนาคตการศึกษาคอนเน็กซ์ อีดี 2 ระยะที่ผ่านมา มีโรงเรียนเข้าร่วม 4,781 แห่งทั่วประเทศ และมีนักเรียนเข้าร่วมโครงการถึง 1,047,660 คน ซึ่งภาคเอกชน 12 องค์กรชั้นนำ เครือข่ายพันธมิตรใหม่ 21 องค์กร รวมเป็น 33 องค์กร ได้สนับสนุนงบประมาณทั้งสิ้นกว่า 3,153 ล้านบาท ครอบคลุม 77 จังหวัด และด้วยความร่วมมือที่เข้มแข็ง ดำเนินโครงการตามแนวทาง 5 ยุทธศาสตร์หลัก
โดยปีที่ผ่านมาผลคะแนน โอเน็ต ของนักเรียนโรงเรียนประชารัฐที่เข้าร่วมโครงการสูงขึ้น 9.85% เมื่อเทียบกับปีการศึกษา 2560 และถือว่าสูงกว่าคะแนนเฉลี่ยของประเทศ ซึ่ง 3 ภาคส่วนหลัก ทั้งภาครัฐ ภาคประชาสังคม และภาคเอกชน ยังคงเดินหน้าสานต่อพลังความร่วมมือเพื่อร่วมกันยกระดับการศึกษาไทยให้พัฒนาและเกิดความยั่งยืน
ล่าสุด จัดการอบรมเชิงปฏิบัติการโครงการผู้นำเพื่อการพัฒนาการศึกษาที่ยั่งยืน ประจำปี 2562 (คอนเน็กซ์ อีดี เวิร์กช็อป 2019) เพื่อเสริมแกร่งผู้นำรุ่นใหม่ (สคูลพาร์ทเนอร์) กว่า 900 คน หนึ่งในพลังสำคัญที่เป็นตัวเชื่อมโยงกับผู้บริหารและครูในโรงเรียนประชารัฐ ก่อนลงพื้นที่ปฏิบัติงานและร่วมผลักดันยุทธศาสตร์การดำเนินงานสู่โรงเรียนประชารัฐกว่า 4,700 แห่งทั่วประเทศ
ศุภชัย เจียรวรนนท์ ประธานคณะผู้บริหารเครือเจริญโภคภัณฑ์ ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานภาคเอกชน กล่าวว่า การเปลี่ยนสังคมไทยในอนาคต 10 หรือ 15 ปีข้างหน้าให้เป็นสังคมที่เข้มแข็ง อุดมปัญญา มีการสร้างนวัตกรรมเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ความเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ต้องเริ่มที่โรงเรียน การศึกษา โครงการดังกล่าวเป็นความเข้มแข็งของ 3 ภาคส่วน เป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้เกิดผลสัมฤทธิ์ด้านการศึกษาอย่างยั่งยืน ด้วยหัวใจเดียวกัน คือ อยากขับเคลื่อนสังคมไทยให้ลูกหลานมีอนาคตที่ดี มีความสุขและความเป็นอยู่ที่ดี สคูลพาร์ทเนอร์ มีเป้าหมายเดียวกัน จะสามารถเปลี่ยนแปลงระบบการศึกษาและประเทศไทยได้
ทั้งนี้โครงการสานอนาคตการศึกษา คอนเน็กซ์ อีดี กำลังเข้าสู่ระยะที่ 3 (2562-2563) โดยมีแผนงานจัดทำโครงการสมุดพกดิจิทัล ระบบการบริจาคออนไลน์ มูลนิธิสานอนาคตการศึกษา คอนเน็กซ์ อีดี และขยายโอกาสความร่วมมือไปยังองค์กรเอกชนต่างๆ อย่างต่อเนื่อง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง