Lifestyle

คนศธ.แต่งดำจี้เลิกคำสั่งคสช.คืนอำนาจให้สำนักงานเขตพื้นที่

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

คนศธ.แต่งดำจี้เลิกคำสั่งคสช.คืนอำนาจให้สำนักงานเขตพื้นที่ โดย...  คุณภาพชีวิต [email protected] 

 

 

 

          หลังจากบุคลากรในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) ทั่วประเทศ ได้แต่งดำพร้อมกันเมื่อวันที่ 28 ตุลาคม ที่ผ่านมา เพื่อเป็นสัญลักษณ์ในการคัดค้านการปรับโครงสร้าง ศธ. ขณะเดียวกันยังขอให้ยกเลิกคำสั่ง คสช.ที่เกี่ยวข้อง ในส่วนของการปรับโครงสร้างการทำงานใน สพท.โดยให้คงไว้เฉพาะส่วนที่เกี่ยวข้องกับการปฏิรูปการศึกษา โดยในวันที่ 30 ตุลาคมนี้ กลุ่มผู้คัดค้านกว่า 1,000 คน จะแต่งชุดดำและเดินทางไปยื่นหนังสือต่อสภาผู้แทนราษฎร
  

 

 

          "ธนชน มุทาพร"  ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) ชัยภูมิ เขต 1 ในฐานะประธานชมรมผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาแห่งประเทศไทย (ชร.ผอ.สพท.) เปิดเผยว่า ศธ.เป็นกระทรวงใหญ่ ไม่อยากให้ใช้ระบบการบริหารงานเป็นแบบซิงเกิลคอมมานด์ รวมอำนาจไว้ที่ศูนย์กลาง ควรเป็นการกระจายอำนาจให้โรงเรียนและสถานศึกษามีอำนาจพัฒนาตนเองได้ ส่วนโครงสร้างใหม่อยากให้ผ่านการพิจารณาจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะสภาผู้แทนราษฎร
  

          ทั้งนี้ได้นำเสนอให้รัฐมนตรีว่าการ ศธ.ปรับแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องทั้งร่างพ.ร.บ.การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ...ฉบับที่คณะกรรมการอิสระเพื่อการปฏิรูปการศึกษา (กอปศ.) ยกร่างไว้ มีบางมาตราที่อยากให้ยกเลิก โดยเฉพาะกรณีการปรับโครงสร้างให้รัฐมนตรีว่าการ ศธ.และปลัดศธ.เป็นผู้บังคับบัญชาข้าราชการทุกตำแหน่งในกระทรวง และมีอำนาจในการออกคำสั่งปรับระบบภายในของ ศธ.ได้
 

          นอกจากนี้จะเสนอให้ทบทวนร่าง พ.ร.บ.ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา โดยแยกงานบริหารบุคคลออกจากคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด (กศจ.) และคืนกลับมาให้ สพท.ดำเนินการเช่นเดิม เพื่อให้ กศจ.เข้ามาช่วยบูรณาการเชื่อโยงการศึกษาต่างๆ ให้แก่ สพท.และบูรณาการทำงานร่วมกัน
    

          รวมทั้งขอให้ยกเลิกคำสั่ง คสช.ที่เกี่ยวข้อง และทำให้เกิดปัญหา ในส่วนของการปรับโครงสร้างการทำงานใน สพท.คงไว้เฉพาะส่วนที่เกี่ยวข้องกับการปฏิรูปการศึกษา 
    

          "โดยในวันที่ 30 ตุลาคมนี้ กลุ่มผู้คัดค้านกว่า 1,000 คน จะแต่งชุดดำ และเดินทางไปยื่นหนังสือต่อสภาผู้แทนราษฎรเพื่อให้การดำเนินการเรื่องนี้เป็นรูปธรรมมากขึ้น หากยังไม่มีการแก้ไข จะหารือองค์กรครูยกระดับข้อเรียกร้องต่อไป” ธนชน กล่าว   


   

          อย่างไรก็ตามแม้ว่า “ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ” รมว.ศึกษาธิการ (ศธ.) จะออกมาบอกว่าขณะนี้การดำเนินการเรื่องดังกล่าวยังไม่ได้ข้อยุติว่าจะมีแนวทางการปรับโครงสร้าง ศธ. ในภูมิภาคอย่างไรและการประชุมปรับโครงสร้าง ศธ.ในภูมิภาคก็ยังไม่ได้เริ่มการประชุมแบบจริงจัง การปรับโครงสร้าง ศธ.ภูมิภาคนั้น ต้องการลดความซ้ำซ้อน และลดงบประมาณ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการขับเคลื่อนงานการศึกษาไปในทิศทางเดียวกันทุกอย่างที่ทำมุ่งประโยชน์ของเด็กและประโยชน์ขององค์กรในระยะยาว


          ทว่าฝั่งผู้บริหารที่ออกมาเคลื่อนไหวกลับมองต่างเพราะมีการเสนอของบประมาณไว้ในเอกสารงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 เพื่อจัดสร้างอาคารสำนักงานศึกษาธิการจังหวัด (ศธจ.) กว่า 30 แห่งด้วยงบประมาณกว่า 500 ล้านบาท แม้ว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ จะอธิบายว่าได้อภิปรายในสภาผู้แทนราษฎรแล้วหากงบประมาณที่เสนอไปไม่คุ้มค่าต่อการใช้งบประมาณในส่วนนี้ก็พร้อมที่จะคืนสำนักงบประมาณ


          อย่างไรก็ตามวันเดียวกันสมาพันธ์สมาคมครูแห่งประเทศไทย (ส.ค.ท.) ได้ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 1  เรื่อง ให้ยกเลิกคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 19/2560  การปฏิรูปการศึกษาในภูมิภาคของกระทรวงศึกษาธิการ โดยอ้างถึงมติของสมาพันธ์สมาคมครูแห่งประเทศไทย (ส.ค.ท.) และองค์กรเครือข่ายครู 4 ภูมิภาค เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2562  ณ ห้องประชุมบุญยเกตุ สำนักงานเลขาธิการคุรุสภา


          กระทรวงศึกษาธิการ กรุงเทพมหานคร เสนอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรียกเลิก คำสั่ง คสช.ที่


          สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา และให้สถานศึกษาเป็นนิติบุคคล เน้นการกระจายอำนาจและมีผู้แทนผู้ประกอบวิชาชีพครูและบุคลากรทางการศึกษาทุกระดับ....."
  

          ว่ากันว่าผู้บริหารเขตพื้นที่หลายรายยอมรับว่ามีความกังวลกับภารกิจและอำนาจหน้าที่ของสำนักงานศึกษาธิการจังหวัด (ศธจ.) ที่มีภารกิจเกี่ยวกับการปฏิบัติงานของกระทรวงศึกษาธิการในระดับจังหวัด เกี่ยวกับการบริหารและการจัดการศึกษาตามที่กฎหมายกำหนด จัดทำงบประมาณและบริหารราชการประจำทั่วไปของกระทรวงในจังหวัด การติดตามและประเมินผล รวมทั้งการปฏิบัติราชการตามอำนาจ


          โดยเฉพาะการวิเคราะห์และดำเนินการจัดตั้งและจัดสรรงบประมาณประจำปีของส่วนราชการหรือหน่วยงานสั่งกัดกระทรวงศึกษาธิการ


          พิจารณาและเสนอให้ความเห็นชอบแผนปฏิบัติราชการของส่วนราชการหรือหน่วยงานสั่งกัดกระทรวงศึกษาธิการ 
   

          ดำเนินงานเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาของส่วนราชการหรือหน่วยงานสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ กำกับ ดูแล เร่งรัด ติดตาม และประเมินผลการปฏิบัติงานของส่วนราชการหรือหน่วยงานและสถานศึกษสั่งกัดกระทรวงศึกษาธิการให้เป็นไปตามนโยบายและยุทธศาสตร์ของกระทรวงศึกษาธิการ ดำเนินการเกี่ยวกับการตรวจสอบภายในด้นการบริหาร การเงิน และการบัญชีของส่วนราชการหรือหน่วยงานและสถานศึกษาสังกัด เป็นต้น 
  

          นอกจากนี้ยังมีประเด็น (ร่าง) พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ.. มาตรา 101 ให้ผู้อำนวยการสถานศึกษาและรองผู้อำนวยการสถานศึกษา


          ซึ่งดำรงตำแหน่งอยู่ในวันก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ เป็นครูใหญ่และผู้ช่วยครูใหญ่ตามพระราชบัญญัตินี้แล้วแต่กรณีและมีสิทธิได้ร้บงินเดือน เงินประจำตำแหน่ง เงินวิทยฐานะและประโยนช์ตอบแทนอื่นตามอัตราเดียวกับผู้อำนวยการสถานศึกษาและรองผู้อำนวยการสถานศึกษาได้รับอยู่ในวันก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ให้คุรุสภาออกไบรับรองความเป็นครูให้ผู้อำนวยการสถานศึกษาและรองผู้อำนวยการสถานศึกษาตามวรรคหนึ่งโดยเร็ว


          ซึ่งก่อนหน้านี้มีความกังวลเกี่ยวกับคำว่า “ผู้อำนวยการสถานศึกษา” กับคำว่าครูใหญ่มาระยะหนึ่งแล้ว คงต้องรอดูว่า วันนี้ (30 ต.ค.) กลุ่มผู้คัดค้านกว่า 1,000 คน จะแต่งชุดดำเดินทางไปยื่นหนังสือต่อสภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้การดำเนินการเรื่องนี้เป็นรูปธรรมมากขึ้นได้อย่างไรต่อไป
 

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ