Lifestyle

'อนุทิน'ฟันธงบัตรทองต้องอยู่ยืนยันไม่มี"ร่วมจ่าย"แน่นอน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

โดย...   ปาริชาติ บุญเอก [email protected] -

 

 

 

          สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นทั่วไปจากผู้ให้บริการและผู้รับบริการระดับประเทศ ประจำปี 2562 ครั้งที่ 16 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 15-16 สิงหาคม 2562 ซึ่งมีผู้ให้บริการ ผู้รับบริการ ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้แทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น นักวิชาการ และประชาชนทั่วไป ตลอดจนคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ อนุกรรมการ และคณะกรรมการทำงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมกว่า 500 คน เพื่อรวบรวมข้อเสนอนำไปปรับปรุงหลักประกันสุขภาพ

 

 

          โดยได้กำหนดประเด็นรับฟังความ 7 ด้าน ตามข้อบังคับ ได้แก่ 1.ประเภทและขอบเขตบริการสาธารณสุข 2.มาตรฐานบริการสาธารณสุข 3.การบริหารจัดการสำนักงาน 4.การบริหารจัดการกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ 5.การบริหารจัดการกองทุนหลักประกันสุขภาพในระดับท้องถิ่นและพื้นที่ 6.การมีส่วนร่วมของภาคประชาชน และ 7.การรับรู้และคุ้มครองสิทธิ รวมถึงประเด็นเฉพาะการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก เพื่อเพิ่มความเข้าถึงบริการภายใต้ระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ


          เพิ่มหลักประกันลดเหลื่อมล้ำ
          อนุทิน ชาญวีรกูล รมว.สาธารณสุข ในฐานะประธานกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ กล่าวว่า การเพิ่มประสิทธิภาพของระบบหลักประกันสุขภาพ เป็นส่วนสำคัญในการส่งผลให้เกิดความมั่นคงทางสุขภาพของประชาชน โดยมุ่งเป้าหมายไปที่การลดความเหลื่อมล้ำของสิทธิประโยชน์ และคุณภาพการบริการ ทั้ง 3 กองทุน เพื่อให้เกิดความยั่งยืน ประชาชนเข้าถึงบริการสุขภาพได้โดยไม่เกิดภาวะการล้มละลายจากค่าใช้จ่ายสุขภาพ มีความเท่าเทียมในการรับบริการและการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า


          “หากมนุษย์มีความแข็งแรง มีสุขภาพที่ดี จะมีพลังที่จะทำทุกอย่างเพื่อให้เกิดความมั่นคงของประเทศ เพราะสาธารณสุข คือ ฐานรากสำคัญของเศรษฐกิจ การที่มีฐานรากที่มั่นคงแข็งแกร่ง ดีกว่ามียอดที่สูงใหญ่แต่อยู่บนฐานรากที่อ่อนแอ นโยบายหลักที่มอบให้หน่วยงานสังกัดสาธารณสุข คือ “บริการให้เยี่ยม” ต้องใช้เงินให้คุ้มค่าที่สุด เน้นซื้อของที่ผลิตในไทย งบประมาณปีละ 3 แสนล้านบาทช่วยพยุงเศรษฐกิจของไทยได้ ต้องใช้ให้เป็น จ่ายให้เป็น รับให้เป็น แล้วจะอยู่ได้” อนุทิน กล่าว 




          ทั้งนี้รัฐบาลยืนยันที่จะสานต่อการขับเคลื่อนระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าของคนไทย และจะได้รับสิทธิที่มากยิ่งขึ้น ทั้งการบริการ การรักษา และการสร้างเสริมสุขภาพ เพื่อคุ้มครองความมั่นคงทางสุขภาพของประชาชน เมื่อประชาชนมีสุขภาพที่ดีแล้ว จะช่วยลดค่าใช้จ่ายของภาครัฐ ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ร่างกายแข็งแรง ทำให้เศรษฐกิจประเทศเข้มแข็ง โดยระบบนี้จะต้องอยู่ต่อไปโดยไม่มีการเปลี่ยนแปลง


          “การเพิ่มประสิทธิภาพของระบบหลักประกันสุขภาพเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้ประชาชนเกิดความมั่นคงทางสุขภาพ ซึ่งจะเป็นการลดค่าใช้จ่ายของภาครัฐ และสร้างเศรษฐกิจของประเทศไปพร้อมกัน โดยการดำเนินงานจะพุ่งเป้าไปที่การลดความเหลื่อมล้ำของสิทธิประโยชน์ คุณภาพบริการ ซึ่งทำให้ประชาชนเข้าถึงได้โดยไม่เกิดความเดือดร้อนและไม่ล้มละลายจากค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพ” 


          นอกจากนี้ สิ่งที่ สปสช.จะดำเนินการเพิ่มเติมในอนาคตคือการสร้างหลักประกันสุขภาพที่ครอบคลุมประชาชนทุกกลุ่มโดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ให้ประชาชนเข้าถึงบริการสุขภาพที่จำเป็นเท่าเทียมกัน และจะสนับสนุนให้มีการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในทางการแพทย์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและคุณภาพการบริการ เช่น ระบบการแพทย์ทางไกล ระบบบริการระบบส่งต่อการแพทย์ที่แม่นยำ ตลอดจนการเชื่อมโยงข้อมูลการบริการสุขภาพให้เป็นหนึ่งเดียว เพื่อใช้ประโยชน์ของบิ๊กดาต้าในการจัดการระบบสุขภาพให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน


          “จะผลักดันระบบสาธารณสุขของประเทศ ให้ประชาชนรับบริการที่ดีสุดเท่าที่จะทำได้ ส่วนที่มีความกังวลว่าจะมีการให้ประชาชนร่วมจ่าย ขอย้ำว่าไม่มีนโยบาย ไม่มีแนวคิดเรื่องนี้เลย ไม่ต้องการผลักภาระให้ประชาชน ในทางกลับกันจะเพิ่มสิทธิประโยชน์แก่กลุ่มผู้ป่วยโรคหายากด้วย" อนุทิน กล่าวทิ้งท้าย 


          เครือข่ายสูงวัย เสนอดูแลเชิงป้องกัน
          ด้าน วิกัญญา วุฒิวงศ์ อายุ 66 ปี ประธานอาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) ชุมชนเทียมพร ต.ป่าตัน อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ตัวแทนเครือข่ายผู้สูงอายุ กล่าวว่า เสนอให้หล้กประกันสุขภาพครอบคลุมดูแลในเชิงป้องกัน เช่น เข้าถึงบริการแพทย์ทางเลือก แพทย์แผนไทย การนวด ยาสมุนไพร ตั้งแต่ระดับตำบล อยากให้ขยายบริการและพัฒนากลุ่มแพทย์ทางเลือกเพื่อปรุงยาตำรับสำหรับบุคคล


          ถัดมาคือ เรื่องทันตกรรม เช่น สามารถรักษารากฟันและทำทันตกรรมพื้นฐาน เช่น ขูดหินปูน อุดฟัน โดยเชื่อมโยงโรงพยาบาลในหน่วยงานรัฐกับคลินิกเอกชน เพื่อร่นระยะเวลาในการรอคิวที่นานกว่า 4-5 เดือน รวมถึงอุปกรณ์สำหรับผู้สูงอายุ เช่น ผ้าอ้อมผู้ใหญ่สำหรับคนเป็นโรคช้ำรั่ว ปัสสาวะเล็ด หรือไม้เท้าสำหรับผู้สูงอายุที่ไม่มีเงินซื้อ เงินช่วยเหลือของรัฐ ควรให้แก่ผู้สูงอายุที่ไม่มีรายได้ และผู้พิการที่ไม่สามารถทำมาหากินได้เท่านั้น


          ทิศทางขับเคลื่อนยุทธศาสตร์หลักประกันสุขภาพ
          1.การสร้างโอกาสความเสมอภาคทางสังคม และคุ้มครองความเสี่ยงทางการเงินจากการเจ็บป่วยของประชาชน
          2.สนับสนุนให้มีการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในทางการแพทย์เพิ่มประสิทธิภาพและคุณภาพการบริการ
          3.ให้คนไทยทุกช่วงวัยมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง และลดอัตราการเจ็บป่วยโรคเรื้อรัง
          4.กำหนดทิศทางและจุดเน้นบริหารจัดการกองทุน
          5.ขยายการบริการรูปแบบใหม่ ทั้งในมิติของประเภทบริการ ปริมาณการให้บริการ และพื้นที่
          6.การบริหารจัดการกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ โปร่งใส ตรวจสอบได้

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ