"ไปไหนไปกัน ทั่วประเทศไทย" ต้องพบกับเจ้าของวลี“จีบครับจีบ”ทุกสนามกิฬา...ติดตามชีวิตชายสูงวัยเลือดนักสู้ กับ"คมชัดลึกออนไลน์"
กว่า 2,000 ลูกต่อวัน ที่หอบหิ้วเดินขายในหลาย ๆ สนามการแข่งขันกีฬา ทั้งในระดับจังหวัดและระดับประเทศ “ขนมจีบนึ่งร้อน ๆ น้ำจิ้มซีอิ้วดำรสเด็ด โรยหน้าด้วยกากหมูและกระเทียมเจียว” ที่ตั้งใจนวดส่วนผสม ห่อและจับเป็นจีบ มานานกว่า 30 ปี จนตั้งตัวและเลี้ยงครอบครัวอย่างมั่นคง
ลุงประยูร ภูผาพันธ์ วัย 60 ปี พ่อค้าขายขนมจีบที่มีวลีเด็ดเรียกความสนใจจากลูกค้าที่ว่า “จีบครับจีบ... จีบครับจีบ” โดยอาศัยการเป็นลูกมือและครูพักลักจำจนมีอาชีพติดตัว
"ผมเป็นคนโคราช เข้ามาทำงานในกรุงเทพฯ ตั้งแต่อายุ 14 ปี หมุนเวียนเปลี่ยนงานไปเรื่อย จนได้มาเป็นลูกน้องชาวจีนคนหนึ่ง ย่านเตาปูน ซึ่งเปิดขายติ่มซำ จึงได้เรียนรู้จากงานที่ทำจนมีวิชาติดตัว กระทั่งออกมาทำเอง ขายเอง โดยหยิบยกขนมจีบเพียงอย่างเดียวมาทำขาย เพราะคิดว่าขนมจีบเป็นอาหาร เป็นของว่างที่ทานง่าย สะดวก กลิ่นหอมและอิ่มท้อง"ลุงประยูร ย้อนอดีต
หากย้อนไปหลายสิบปีก่อน กระทั่งปัจจุบัน ลุงประยูร เลือกขายในงานกีฬา รอบ ๆ สนามการแข่งขันกีฬาทั่วประเทศ โดยเริ่มขายตั้งแต่มีการแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทยครั้งที่ 3
จากนั้นก็ขายเรื่อยมา ชนิดที่ว่า “ไปไหนไปกัน ทั่วประเทศ” ปัจุบันพักอยู่ที่ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี หากงานกีฬาที่จัดขึ้นนั้นไม่ไกลมากก็จะขนอุปกรณ์และขับรถไป ถ้าไกลอาจจะนั่งรถไฟหรือรถทัวร์ ส่วนวัตถุดิบและอุปกรณ์บางส่วนไปหาซื้อเอาข้างหน้า ล่าสุดได้ไปขายที่งานกีฬามหาวิทยาลัยฯ ครั้งที่ 45 ราชมงคลธัญบุรีเกมส์ นี่จึงเป็นจุดขายของลุงอย่างหนึ่ง ที่ทำให้ขนมจีบและกีฬาได้เดินทางมาพบกันข้างสนามกีฬา
ขนมจีบเป็นอาหารที่มีเสน่ห์ ด้วยสูตรเด็ดจากชาวจีน ผสมกับความตั้งใจขาย หลาย ๆ ครั้งที่หิ้วผ่านกองเชียร์หรือคนที่มาชมการแข่งขันกีฬา เมื่อพวกเขาเห็น ได้ยินผมพูดว่า “จีบครับจีบ” ได้กลิ่นหอม ๆ เขาก็ซื้อทันที และหลายคนก็กลับมาซื้อซ้ำ
นักกีฬาทีมชาติและผู้ฝึกสอนหลายต่อหลายคนก็เคยลิ้มลอง นักมวยชื่อดังอย่าง สมรักษ์ คำสิงห์ ก็มาซื้อหลายครั้งอยู่ ในทุก ๆ ชนิดกีฬาที่มีการแข่งขัน ลุงก็จะเดินขายอย่างทั่วถึง หากสามารถเข้าไปขายได้ ตลอดจนผู้บริหาร อาจารย์ และนักศึกษา ก็เคยได้ชิมฝีมือลุงมาเกือบทั้งหมดแล้ว
“ทุก ๆ งานกีฬา ต้องมีข้าวกล่อง บางทีคนก็เบื่อกับข้าวกล่อง อยากกินอย่างอื่นบ้าง ขนมจีบที่ลุงขายจึงตอบโจทย์”
ลุงประยูร เผยความอร่อยจากต้นตำรับให้ฟังว่า การผสมวัตถุดิบและเครื่องปรุงรส จะใช้มือในการนวดส่วนผสม น้ำหนักมือและการสัมผัสจากมือจะรู้ว่าเข้ากันดีหรือไม่ ที่ทำได้เพราะเราไม่ได้ทำขายในเชิงอุตสาหกรรม
อีกขั้นตอนหนึ่งคือการใช้มือจับให้เป็นจีบ ที่สำคัญต้องทำให้หอมเครื่องเทศ ซึ่งพริกไทยคือหัวใจหลักก่อนนำมาผสมต้องนำไปคั่วไฟให้หอมก่อนแล้วบดละเอียด ส่วนน้ำจิ้มซีอิ้วดำนั้นต้องนำไปเคี่ยวไฟแล้วปรุงรสให้กลมกล่อม
“ขนมจีบที่อร่อยต้องครบ 3 รสชาติ ทั้งหวาน-มัน-เค็ม”
รายได้จากการขาย สามารถค้ำจุนครอบครัวได้เป็นอย่างดี และมีเงินเก็บส่วนหนึ่งใช้ไว้ในอนาคต เพียงเพราะ “อยากให้ลูกสาวและภรรยาสุขสบาย” การออกไปจ่ายตลาด การทำและเดินสายขายขนมจีบ ถือเป็นการออกกำลังกายที่ดีอย่างหนึ่งสำหรับลุง เพราะ “ได้เหงื่อ ได้ออกกำลัง และยังได้เงิน”
ลุงประยูรตั้งหลักแหล่งขายประจำ ในย่าน อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี หากมีโปรแกรมการแข่งขันกีฬาก็จะแยกกันขายกับภรรยา “ยืนยันว่าสูตรที่ตนเองและภรรยาทำอร่อยเหมือนกันทุกอย่าง” และมองว่า “อาชีพการค้าการขายนั้น หากเข้าใจคำว่าพออยู่พอกิน ชีวิตก็มีความสุขแล้ว” และหากได้เก็บหอมรอมริบอีกสักหน่อย เราก็จะรู้สึกว่าชีวิตครอบครัวมีความมั่นคง
อยากให้ทุกคนได้ชิม ขนมจีบ กากหมู-กระเทียมเจียว ซึ่งขายในราคาที่เข้าถึงได้ คือ 7 ลูก 20 บาท ถือว่าคุ้มค่าสุดในยุคนี้ ผู้สนใจอยากลิ้มลอง หรืออยากได้รับการถ่ายทอดความรู้การทำขนมจีบ สามารถติดต่อลุงประยูรโดยตรงได้ที่ โทร.097-343-2970
ชวนคนไทยมาอุดหนุน "จีบครับจีบ" อร่อยข้างสนาม กว่า30ปี เพื่อต่อลมหายใจ ชายสูงวัยเลือดนักสู้คนนี้ "ลุงประยูร ภูผาพันธ์" นะออเจ้า...
----------//----------
ข่าวที่เกี่ยวข้อง