"จตุพร"จวกกกร.ไม่มีสิทธิ์ต้านการชุมนุมเสื้อแดง

(5เม.ย.) มีรายงานข่าวว่า คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ประกอบด้วย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และสมาคมธนาคารไทยออกแถลงการณ์ขอให้กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือคนเสื้อแดง คืนพื้นที่แยกราชประสงค์ที่ปักหลักชุมนุมมาตั้งแต่วันเสาร์ที่ 3 เมษายน 2553 โดยให้กลับไปชุมนุมบริเวนสะพานผ่านฟ้าลีลาศ

นายดุสิต นนทะนาคร ประธานกรรมการหอการค้าไทย เปิดเผยภายหลังการประชุมฯ โดยระบุว่า มติคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบันต่อสถานการการณ์ชุมนุมของ นปช. โดยระบุว่า ภาคเอกชนเป็นห่วงว่า หากสถานการณ์ยังคงเป็นเช่นนี้ต่อไป เศรษฐกิจสังคมของประเทศจะเข้าขั้นวิกฤต เนื่องจากเงินทุนหมุนเวียนไม่เข้าประเทศขาดเงินไปจ้างงาน ไม่มีเงินจับจ่ายเพื่อการบริโภค การพัฒนาประเทศจะหยุดชะงักและสูญสียโอกาสในการแข่งขัน ทั้งนี้ ภาคเอกชนขอให้ นปช.เคลื่อนย้ายการชุมนุมออกจากสี่แยกราชประสงค์ โดยให้กลับไปชุมนุมบริเวณถนนราชดำเนินเช่นเดิม พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งทำแผนงานแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ

ทั้งนี้ กกร.ยังประเมินความเสียหายในเบื้องต้นในการชุมนุมที่ทำให้ย่านธุรกิจการค้าสำคัญของประเทศต้องเป็นอัมพาต 3 วันที่ผ่านมา โดยคิดเป็นมูลค่าประมาณ 200-300 ล้านบาทต่อวัน ซึ่งหากการชุมนุมยังคงยืดเยื้อต่อไปอีก 1 เดือน อาจสร้างความเสียหายสูงถึง 1-2 หมื่นล้านบาท

นายสุมิดา บูรณศิริ รักษาการ รองประธาน ส.อ.ท. กล่าวตรงกันว่า ที่ประชุม กกร. มีความวิตกกังวลต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะการชุมนุมดังกล่าวสร้างความเสียหายต่อการทำมาหากินในทุกระดับ ตั้งแต่ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ไปจนถึงร้านค้าย่อย รวมทั้ง นักลงทุนในประเทศและต่างประเทศ ประกอบกับ ข่าวการลอบวางระเบิดที่นำเสนอออกสู่สื่อต่างประเทศเกือบทุกวัน จนเป็นเหตุให้หลายประเทศขาดความเชื่อมั่น และมีการแจ้งเตือนให้ประชาชนงดเดินทางมาประเทศไทย ซึ่งถือเป็นการซ้ำเติมให้ภาพประเทศไทยให้เสียหายเพิ่มมากขึ้น

นายสุมิดา กล่าวด้วยว่า แม้ นปช.จะมีสิทธิในการชุมนุมเพื่อแสดงออกภายใต้ระบอบประชาธิปไตย แต่ก็ไม่ควรจะละเมิดสิทธิเสรีภาพของผู้อื่น ซึ่งข้อเรียกร้องต่างๆ ของกลุ่มผู้ชุมนุมควรมีความชัดเจนและจริงใจต่อกัน เพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาที่แท้จริง

พร้อมกันนี้ทาง กกร.เห็นว่า ปัญหาพื้นฐานของความขัดแย้งในปัจจุบันเกิดจากความเหลื่อมล้ำในทุกด้าน ดังนั้น ขอให้ทุกฝ่ายช่วยกันระดมความคิดเพื่อแก้ไขปัญหาในระยะสั้นให้เป็นรูปธรรม พร้อมทั้งกำหนดแนวทางและเป้าหมายสำหรับการแก้ปัญหาในระยะยาว

"การแก้ปัญหาดังกล่าวจำเป็นที่จะต้องมีการแก้ไขและดำเนินมาตรการต่างๆ อย่างต่อเนื่อง กกร. มองว่า ปัญหาทางเศรษฐกิจหลายประเด็นได้เริ่มมีแนวทางแก้ไขที่ชัดเจนขึ้น หากเกิดความชะงัก จะส่งผลเสียต่อเศรษฐกิจอย่างใหญ่หลวง เช่น กรณีมาบตาพุด และงบประมาณแผ่นดิน"

ผู้ประกอบการย่านราชประสงค์ร้องให้มีการเจรจา

ขณะที่สมาคมผู้ประกอบวิสาหกิจในย่านราชประสงค์ และสมาคมศูนย์การค้าไทย ร่วมกันแถลงการณ์ ยืนยันเข้าใจและเห็นใจสาเหตุการชุมนุม แต่เนื่องจากก่อให้เกิดความเดือดร้อนต่อพนักงานและลูกจ้าง รวมถึงผู้ประกอบการในย่านดังกล่าว จึงเรียกร้องให้มีการเจรจาระหว่างรัฐบาลกับผู้ชุมนุม เพื่อหาข้อยุติโดยเร็วที่สุด รวมทั้งให้ผู้ชุมนุมทบทวนการจัดการชุมนุมในพื้นที่ดังกล่าว

"จตุพร"จวกกกร.ไม่มีสิทธิ์ต้านการชุมนุมเสื้อแดง

 นายจตุพร พรหมพันธ์ แกนนำ นปช. กล่าวถึง กรณี กกร. ออกมาคัดค้านการชุมนุมของคนเสื้อแดงว่า องค์กรดังกล่าว ไม่มีความชอบธรรม ที่จะออกมาเคลื่อนไหว นอกจากเป็นเครือข่ายของรัฐบาลและพันธมิตรฯ แล้ว กรรมการคนหนึ่ง ยังมีประวัติการทุจริตจัดซื้อเรือและรถดับเพลิงของ กทม. ดังนั้น คนเหล่านี้ ไม่มีสิทธิ์ต่อต้านการชุมนุม