"บาท"แข็งค่า 32.74 บาทต่อดอลล์

           จากตลาดหุ้นฟื้นหวังนโยบายการคลังสหรัฐแก้ปัญหาเศรษฐกิจถดถอย ขณะที่เงินบาทยังคงอยู่ในภาวะสภาพคล่องต่ำ แม้กนง. คงดอกเบี้ยไม่ได้ส่งผลอะไรกับตลาด 

     นายจิติพล พฤกษาเมธานันท์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัยตลาดการเงิน บริษัทหลักทรัพย์ไทยพาณิชย์ จำกัด (SCBS)  เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้าวันนี้ที่ระดับ 32.74 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าจากช่วงปิดสิ้นวันทำการก่อนที่ระดับ 32.87 บาทต่อดอลลาร์ กรอบเงินบาทวันนี้ 32.70-32.95 บาทต่อดอลลาร์

             ในคืนที่ผ่านมาตลาดหุ้นฟื้นตัวได้ติดต่อกันเป็นวันที่สอง ดัชนี S&P500 ขยับขึ้น 1.15% และ Euro Stoxx 50 ขยับขึ้น3.1% ด้วยความหวังว่านโยบายการคลังที่มหาศาลของสหรัฐจะสามารถแก้ปัญหาเศรษฐกิจถดถอยในปีนี้ได้

              อย่างไรก็ดี ดัชนีวัดความกลัวอย่าง VIX Index ยังคงอยู่ในระดับสูงที่ 63% ขณะที่บอนด์ยีลด์ทั่วโลกก็เคลื่อนไหวผันผวน เพราะแม้จะมีนโยบายทางการเงินเข้ามากดดอกเบี้ย แต่ก็มีขนาดของนโยบายทางการคลังเข้ามาทำให้ตลาดกังวลกับปริมาณพันธบัตรที่มีโอกาสเพิ่มขึ้นในอนาคต ล่าสุดบอนด์ยีลด์สหรัฐอายุ 10 ปี ซื้อขายที่ระดับ 0.81% ขณะที่บอนด์ยีลด์เยอรมันก็ปรับตัวขึ้นเล็กน้อยมาซื้อขายที่ระดับ -0.26%

              สำหรับวันนี้(26 มี.ค.) ต้องจับตาการประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ว่าจะมีมาตรการทางการเงินใหม่อะไรหรือไม่ หลังจากช่วงที่ผ่านมาเป็นผู้นำด้านแนวคิดนโยบายการเงินมาตลอด เพราะในปัจจุบันดอกเบี้ยนโยบายก็ลดลงมาเหลือ 0.1% และปริมาณการซื้อพันธบัตรก็ขึ้นมาที่ระดับ 6.45 แสนล้านปอนด์ตามที่ตลาดคาดไว้แล้ว

           ในฝั่งตลาดเงินก็เห็นการอ่อนค่าของดอลลาร์สวนทางกับตลาดหุ้นต่อ โดยเงินยูโร (EUR) เป็นสกุลเงินที่แข็งค่ามากที่สุด ขณะที่สกุลเงินปลอดภัยเอเชียอย่างเยนญี่ปุ่น (JPY) ทรงตัว และจุดเปลี่ยนในอนาคต จะอยู่ที่ราคาน้ำมันดิบ ซึ่งถ้าฟื้นตัวขึ้นจะเป็นปัจจัยหนุนให้สกุลเงิน Emerging Markets รวมถึงเงินบาทฟื้นตัวได้

   ส่วนของเงินบาท ยังคงอยู่ในภาวะสภาพคล่องต่ำ และเคลื่อนไหวตามทิศทางของดอลลาร์เป็นหลัก