ข่าว

ผีน้อยฉุด"เรตติ้งรัฐบาล"ลดฮวบ 

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

คอลัมน์ - ขีดเส้นใต้ โดย - นายดินสอ

     ตลอดสองเดือนที่รัฐบาล”บิ๊กตู่2”รับมือกับวิกฤติไวรัส”โควิด-19” ดูชุลมุนวุ่นวายเก้ๆกังๆชักตื้นติดกึกชักลึกติดกั๊กไปหมด จนไม่น่าเชื่อบางคนที่เป็นรัฐมนตรีในรัฐบาลนี้เคยเป็นรัฐมนตรีในรัฐบาลคสช.มาแล้ว บางคนก็เป็นรัฐมนตรีรัฐบาลก่อนคสช. แต่การทำงานแต่ละคนเหมือนมือใหม่หัดขับ

 

    ล่าสุดกรณีแรงงานไทยที่แอบลักลอบทำงานในเกาหลีหรือที่เรียกกันว่า”ผีน้อย”ก็ไม่รู้ทำไมถึงเรียกอย่างนั้น 5 พันคนขอเดินทางกลับไทย ความสับสนก็บังเกิดขึ้นเมื่อ”บิ๊กป้อม”พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ์ รองนายกรัฐมนตรีบอกว่า จะไม่มีมีการกักตัวผีน้อย 14 วันเพื่อรอดูอาการตามมาตรฐานทั่วไป ยกเว้นคนป่วยส่วนที่เหลือให้กลับบ้านไปดูแลตัวเอง เพราะไม่มีกฏหมายรองรับ

   คำพูดระดับรองนายกรัฐมนตรีสร้างความวิตกกังวลให้กับคนไทยในประเทศอย่างมาก เพราะกลัวว่าบรรดาผีน้อยจะนำเชื้อโรคมาแพร่ระบาดเพราะแค่ตรวจอาการไข้ที่สนามบินไม่เพียงพอ คนที่มีไข้หลบเลี่ยงได้ด้วยการกินยากดทับให้ไข้ลดลงก็ตรวจไม่เจอ

   สวนทางกับ”บิ๊กตู่”พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรี กับ”หมอหนู”รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีสาธารณสุขกลับบอกว่าใครที่มาจากประเทศที่มีความเสี่ยงจะต้องถูกกักตัว 14 วัน แต่เอาเข้าจริงก็ไม่มีการกักตัว

    แต่ที่น่าสังเกตุตรงที่ นายกฯกับรองนายกฯพูดคนละอย่าง ไม่รู้ว่าชาวบ้านจะเชื่อใครดี

   จนถึงวันนี้วัวหายล้อมคอกไม่ทันแล้ว บรรดาผีน้อยออกมาเพ่นพ่านป่วนเมืองด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ หรือตั้งใจเพราะความคับแค้นใจอะไรหรือเปลาไม่ทราบ แต่ก็สร้างความหวาดผวา ให้ชาวบ้าน เจ้าของธุรกิจในหลาย ๆ แห่งทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัดเสียหายไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้า ร้านอาหารที่เหล่าบรรดาผีน้อยเข้าไปใช้บริการ จนต้องสั่งพักพนักงาน ต้องบิ๊กคลีนนิ่ง ต้องปิดร้านอาหาร

     แต่ลูกค้าก็ยังไม่เชื่อมั่นว่าปลอดภัย คงต้องใช้เวลาหลายวัน แถมยังต้องเสียกำลังคนไปติดตามดูแลว่าบรรดาผีน้อยไปอาละวาดที่ไหนบ้าง

    ทั้งหลายทั้งปวง ก็เพราะรัฐบาลไม่มีการวางแผนรับมือตั้งแต่เนิ่น ๆ ตั้งแต่รู้ว่าประเทศเกาหลีใต้เป็นประเทศกลุ่มเสี่ยง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างกระทรวงต่างประเทศ สาธารณสุข แรงงาน จะต้องหารือกันรับมือล่วงหน้า จนกระทั่งมีแรงงานไทยที่ทำงานแบบผิดกฏหมายบางคนกลับบ้านมาก่อนหน้าที่ 5000คนประกาศจะกลับมาคนไทยจึงตื่นกลัว ไม่รู้ว่ากลับมาก่อนนี้เท่าไหร่ แต่ก็ยังไม่มีมาตรการควบคุมอยู่ดี

      แม้ต่อมาภายหลังบิ๊กป้อมจะออกมาบอก จะกำหนดพื้นที่กักคนเหล่านี้ก็ตาม แต่ก็สายไปแล้ว บางพื้นที่ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวอย่าง หัวหิน เพชรบุรีก็ถูกคนในพื้นที่คัดค้านหวั่นกระทบการท่องเที่ยว โดยฐานะที่แรงงานเหล่านี้เป็นคนไทยคนหนึ่งเมื่อประสบชะตากรรม เขาก็ควรมีสิทธิกลับแผ่นดินเกิด แต่ที่วุ่นวายปั่นป่วนเพราะนโยบายรัฐสับสน ไม่เป็นเอกภาพต่างหาก

      แม้โรคระบาดเข้ามาไทยเกือบ ๆ 2 เดือนมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ แต่ รัฐบาลก็ยังมีนโยบายเปิดให้นักท่องเที่ยวหรือผู้ที่มาจากประเทศกลุ่มเสี่ยงเข้ามาอย่างเสรี ไม่มีการกักตัวก่อนหรือปิดประตูบ้านชั่วคราว โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากจีน แม้ประเทศจีนเองยังเป็นห่วงที่ไทยไม่ปิดประเทศ แต่รัฐบาลไทยกลับไม่วิตกกังวล

      ทุกวันนี้จำนวนนักท่องเที่ยวจากจีนจะลดน้อยลงแทบจะนับนิ้วได้รายได้ตกฮวบ แหล่งท่องเที่ยวดัง ๆ ของไทยเงียบเหงา รัฐบาลควรจะทบทวนนโยบายเปิดรับนักท่องเที่ยวอย่างเสรีเพราะได้ไม่คุ้มเสียแต่กลับไม่ทำ ทั้งที่หลาย ๆ ประเทศเขาปิดประเทศนานแล้ว การที่ยังไม่ปิดประเทศ ก็เท่ากับว่าไทยเปิดประตูให้”นำเข้าไวรัส”เข้ามาอย่างง่ายดาย

    รัฐบาลหวังพึ่งรายได้จากการการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นช่องทางเดียวที่สร้างรายได้ตอนนี้ แต่อย่าลืมว่า รัฐบาลต้องมีรายจ่ายในการดูแลรักษาคนป่วยที่เป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติและคนไทยได้รับเชื้อ ในอนาคตภาพลักษ์ประเทศท่องเที่ยวจะเสียหายมากกว่า

  

  ความไม่พอใจจากกรณีปล่อยให้ผีน้อยเข้าประเทศกับนโยบายรับนักท่องเที่ยวจากลุ่มเสี่ยงเข้าเริ่มแรงขค้นเรื่อย ๆ ดีไม่ดีโรคระบาดโควิด-19 อาจทำให้รัฐบาลอยู่ยาก

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ