ข่าว

"ดุสิตธานี" เดินหน้ารักษาอัตราการเติบโตของกำไรสุทธิ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"ดุสิตธานี" เดินหน้ารักษาอัตราการเติบโตของกำไรสุทธิเน้นจัดโครงสร้างธุรกิจแข็งแกร่ง-ดันผลประกอบการปี 2562 ขยายตัว 10.3%

                 กลุ่มบริษัทดุสิตธานี แจ้งผลประกอบการประจำปี 2562 ระบุรายได้อยู่ที่ 6,117 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 320 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2561 คิดเป็น 9.9% และ 10.3% ตามลำดับ  ฝ่ายบริหารเผยมุ่งมั่นรักษาอัตราการเติบโตของรายได้และกำไรสุทธิ

                แม้ว่า ปีที่ผ่านมาจะเป็นช่วงยุติการให้บริการโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ รวมทั้งเผชิญกับภาวะที่ค่าเงินบาทแข็งค่าและเป็นช่วงเวลาของการลงทุนปรับปรุงโรงแรมเดิมอีกหลายแห่ง ยอมรับแบกต้นทุนค่าใช้จ่ายเพิ่ม หลังเดินหน้านโยบายการดูแลพนักงานอย่างเต็มที่โดยไม่ปลดพนักงานแม้แต่คนเดียว หวังผลระยะยาวเมื่อเปิดโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ แห่งใหม่ พนักงานจะมีทักษะพร้อมให้บริการทันที ขณะที่กลยุทธ์การขยายธุรกิจใหม่ โดยเฉพาะการลงทุนในธุรกิจอาหาร ช่วยเสริมพอร์ตรายได้ให้แข็งแรงขึ้น

 

                 นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดุสิตธานี  จำกัด (มหาชน) หรือ DTC เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในปี 2562 ที่ผ่านมา บริษัทฯ ยังคงรักษาอัตราการขยายตัวของรายได้และกำไรสุทธิไว้ได้อย่างน่าพอใจ แม้ว่าในช่วงเวลาดังกล่าว จะเป็นช่วงที่ยากลำบากทั้งจากปัจจัยภายนอก เช่น ปัญหาการชะลอตัวของเศรษฐกิจโดยรวม รวมถึงเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่องส่งผลให้นักท่องเที่ยวไปจุดหมายปลายทางอื่น ซึ่งกระทบกับธุรกิจท่องเที่ยวและโรงแรมในประเทศไทยโดยตรง และส่วนของปัจจัยภายใน จากการยุติการให้บริการโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ แต่บริษัทฯ ตั้งใจที่จะดูแลและเก็บรักษาพนักงานของโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ แห่งเดิมไว้ทุกคน เพื่อรักษาแบรนด์และต่อยอดธุรกิจในระยะยาว ทำให้บริษัทฯ ต้องแบกรับค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ 
                   อย่างไรก็ตาม ปัจจัยต่างๆ ที่เกิดขึ้นนั้นเป็นสิ่งที่บริษัทฯ ประเมินไว้อยู่แล้ว ดังนั้น ที่ผ่านมาบริษัทจึงได้ใช้ความพยายามอย่างเต็มที่เพื่อรักษาอัตราการขยายตัวของรายได้และกำไรไม่ว่าจะเป็นการจัดโครงสร้างทางการเงินด้วยการจัดโครงสร้างทรัพย์สินให้มีศักยภาพมากขึ้น อาทิ การขายโรงแรมดุสิตธานี มัลดีฟท์ ให้กับทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าดุสิตธานี หรือ DREIT การจัดการบริหารทรัพย์สินและเงินลงทุนเพื่อรับรู้กำไร  รวมถึงการลงทุนในธุรกิจใหม่ๆ และการลงทุนเพื่อรักษาแบรนด์และต่อยอดทางธุรกิจในระยะยาว เพื่อช่วยเติมพอร์ตให้รายได้ของกลุ่มดุสิตธานีมีความหลากหลายและสร้างสมดุลมากยิ่งขึ้น  

                  “ปีที่ผ่านมาเป็นปีแห่งความท้าทายของธุรกิจโรงแรมที่มีปัจจัยลบเข้ามากระทบอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเรามองเห็นแนวโน้มและทิศทางแบบนี้มาโดยตลอด ดังนั้น เราจึงวางกลยุทธ์ที่จะจัดการกับโครงสร้างทางการเงินและโครงสร้างทรัพย์สิน ด้วยการจัดการบริหารทรัพย์สินและเงินลงทุนเพื่อรับรู้กำไร  เพื่อรองรับสถานการณ์ที่ยากลำบากเหล่านี้ นอกจากนี้ ในปีที่ผ่านมา เราได้มีการลงทุนเพื่อสร้างการเติบโตในระยะยาวอีกกว่า 2,000 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น 1) การลงทุนเพื่อรักษาแบรนด์และต่อยอดธุรกิจได้ในระยะยาว เช่น การลงทุนในโรงแรมดุสิต สวีท ราชดำริ และโรงแรมอาศัย ไชน่าทาวน์ การเปิดให้บริการร้านอาหาร “บ้านดุสิตธานี” การให้บริการ “น้ำสปา” ที่ต่อยอดมาจากเทวารัณย์ สปา  2) การลงทุนในธุรกิจใหม่ๆ เช่น การขยายธุรกิจบริหารจัดการวิลล่าระดับหรู Elite Havens  เพิ่มเติม รวมถึงการจัดตั้งบริษัท ดุสิตฟู้ดส์ จำกัด เพื่อการขยายการลงทุนสู่ธุรกิจอาหาร ไม่ว่าจะเป็น การลงทุนในบริษัท เอ็บเพอคิวร์ เคเทอริ่ง จำกัด ซึ่งให้บริการจัดการอาหาร Catering แก่โรงเรียนนานาชาติ  การลงทุนร่วมกับ Real Foods (Pty) Ltd เพื่อประกอบธุรกิจอาหารเพื่อสุขภาพในประเทศไทย  โดยปัจจุบันรายได้จากธุรกิจอาหารเติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ ทำให้ธุรกิจอาหารสามารถเสริมพอร์ตรายได้ของกลุ่มดุสิตธานีให้มีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น” นางศุภจีกล่าว  

       

           สำหรับดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล หรือ บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน)  ก่อตั้งโดยท่านผู้หญิงชนัตถ์ ปิยะอุย เมื่อปี พ.ศ. 2491 ผู้ก่อตั้งโรงแรมปริ๊นเซสแห่งแรกขึ้นบนถนนเจริญกรุง ดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล เป็นผู้นำด้านบริหารโรงแรมและด้านการศึกษา ปัจจุบันดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล บริหารโรงแรมและ      รีสอร์ทภายใต้แบรนด์ดุสิตธานี ดุสิตดีทู ดุสิตปริ๊นเซส และดุสิตเดวาราณา  ที่เปิดให้บริการในภูมิภาคต่างๆ และยังมีโรงแรมและรีสอร์ตที่อยู่ในแผนพัฒนาเตรียมเปิดให้บริการเพิ่มอีกกว่า 50 แห่งทั่วโลก
           ดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล ดำเนินงานขยายธุรกิจให้ครอบคลุมทุกเซ็กเม้นท์ในตลาดบริการที่พักเพื่อมอบประสบการณ์ใหม่ที่แตกต่างให้กับแขกที่เข้าพักและลูกค้า โดยได้ขยายตัวเข้าสู่ตลาดให้เช่าวิลล่าตากอากาศระดับบนผ่านการซื้อกิจการอีลิธ เฮเว่นส์ (Elite Havens) แบรนด์ผู้นำในตลาดให้เช่าวิลล่าหรูระดับบนของเอเชีย รวมไปถึงการเปิดตัวกลุ่มโรงแรมอาศัย (ASAI Hotels) แบรนด์โรงแรมน้องใหม่สำหรับกลุ่มนักเดินทางที่มีไลฟ์สไตล์แบบมิลเลนเนียลผู้ซึ่งชื่นชอบประสบการณ์การท่องเที่ยวเหมือนเป็นคนท้องถิ่นแท้ๆ ตามหัวเมืองแหล่งท่องเที่ยวทั่วโลก
นอกเหนือจากธุรกิจโรงแรม ดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล ยังดำเนินธุรกิจเทวารัณย์ สปา และการศึกษา โดยได้ก่อตั้งวิทยาลัยดุสิตธานีขึ้นในปี พ.ศ. 2536 สถาบันการศึกษาระดับปริญญาตรีและโท ซึ่งมีสาขาอยู่ที่กรุงเทพฯและพัทยา อีกทั้งยังบริหารโรงเรียนสอนประกอบอาหาร เลอ กอร์ดอง เบลอ ดุสิต

                นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้จัดตั้งบริษัท ดุสิต ฟู้ดส์ เพื่อเข้าลงทุนในธุรกิจอาหาร โดยที่ผ่านมา ดุสิต ฟู้ดส์ ได้เข้าลงทุนในบริษัท เอ็นอาร์ เอ็นอาร์ อินสแตนท์ โพรดิวซ์ จำกัด หรือ NRIP ซึ่งเป็นผู้ผลิตและส่งออกอาหารสำเร็จรูปพร้อมทาน เครื่องปรุงรส ซอส เครื่องดื่มและน้ำผลไม้ และบริษัท เอ็บเพอคิวร์ เคเทอริ่ง จำกัด (ECC) ผู้นำธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มโรงเรียนนานาชาติในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อสร้างการเติบโตในธุรกิจอาหารและธุรกิจเคเทอริ่ง 
                ในปี 2562 ดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล  เริ่มดำเนินการสร้างโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ แห่งใหม่ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการดุสิต เซ็นทรัล พาร์ค ซึ่งเป็นโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แบบผสม (Mixed-use real estate development)  อันประกอบไปด้วยอาคารที่พักอาศัย อาคารสำนักงาน พื้นที่ค้าขาย และโรงแรม ทั้งนี้ โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ แห่งใหม่มีกำหนดเปิดให้บริการภายในปี 2566 

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ