ข่าว

เครือข่ายปลื้มตลาดนัด"ปูม้าบุกกรุง"ที่ไอคอนสยาม         

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

 สนองรัฐ"ตลาดนำผลิต"ที่สุขสยาม  สู่ผลสำเร็จตลาดนัด"ปูม้าบุกกรุง"         

            ถือว่าประสบความสำเร็จเกินคาดสำหรับการจัดงานตลาดนัด “ปูม้าบุกกรุง” ณ บริเวณลานสุขสยาม ชั้นจี ห้างสรรพสินค้าไอคอนสยาม กรุงเทพฯ ระหว่างวันที่ 16-19 มกราคม ที่ผ่านมา โดยสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ(วช.) ร่วมกับเครือข่ายบริหารการวิจัยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนเครือข่ายธนาคารปูม้าทั้งสองฝั่งทะเล อันดามัน และอ่าวไทย เพื่อสร้างการรับรู้และส่งเสริมด้านการตลาดให้แก่ปูม้าและสินค้าประมงแปรรูป รวมถึงการเปิดเวทีแลกเปลี่ยนประสบการณ์ของชาวประมงพื้นบ้านในการทำธนาคารปูม้า เพื่อปลุกจิตสำนึกของประชาชนและเยาวชนในการอนุรักษ์ทรัพยากรปูม้าด้วยการไม่จับ ไม่ซื้อ ไม่กิน แม่ปูไข่นอกกระดองและปูม้าตัวเล็ก 

เครือข่ายปลื้มตลาดนัด"ปูม้าบุกกรุง"ที่ไอคอนสยาม         

             ทั้งนี้ เป็นไปตามนโยบายรัฐบาล “ตลาดนำการผลิต” สร้างช่องทางการตลาดในการระบายผลผลิตปูม้าให้แก่เกษตรกรชาวประมงพื้นบ้านที่ปัจจุบันผลผลิตปูม้าในท้องทะเลไทยมีปริมาณมากขึ้นเรื่อยๆ หลังจากรัฐบาลให้การสนับสนุนการขยายผลปูม้าเพื่อคืนปูม้าสู่ท้องทะเลไทย ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติมอบหมายให้สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ(วช.) ดำเนินการขยายผลธนาคารปูม้า เพื่อ “คืนปูม้าสู่ทะเลไทย” ไปสู่ชุมชนชายฝั่ง จำนวน 500 ชุมชน ภายในเวลา 2 ปี

           ปัจจุบันการขยายผลเพิ่มทรัพยากรปูม้า ขับเคลื่อนและบูรณาการความร่วมมือด้านการตลาดและพาณิชย์ รวมถึงความร่วมมือในการใช้ทรัพยากรทางทะเล เช่น การฟื้นฟู การอนุรักษ์ โดยการปลูกจิตสำนึกและสร้างการรับรู้ หลังจากที่ได้มีการดำเนินการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมประมง และมหาวิทยาลัยเครือข่ายในพื้นที่ชายฝั่ง พบว่า ชาวประมงจับปูม้าได้เพิ่มมากขึ้น และพบลูกปูม้าวัยอ่อนบริเวณชายหาดและป่าชายเลนเพิ่มมากขึ้นอย่างชัดเจน ก่อให้เกิดการทำอาชีพปูม้าอย่างยั่งยืน ลดปัญหาการว่างงาน เกิดการเพิ่มรายได้ ชุมชนมีความเข้มแข็งและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น 

           “การจัดงานครั้งนี้ เป็นอีกวาระหนึ่งที่ยืนยันถึงความสำเร็จของการทำโครงการธนาคารปูม้า โดย วช.ร่วมกับหลายหน่วยงาน รวมทั้งพี่น้องชาวประมงใน 20 จังหวัดชายฝั่งทะเลทั่วประเทศได้ร่วมกันประยุกต์องค์ความรู้จากการวิจัยและพัฒนามาแก้ไขปัญหาปริมาณปูม้าในทะเลลดลง อันเป็นผลมาจากการทำประมงที่เกินกำลังการผลิตของธรรมชาติเป็นเวลานาน”

          บางช่วงบางตอนที่ ศ.นพ.สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ(วช) กล่าวในระหว่างเป็นประธานในพิธีเปิด พร้อมยืนยันว่าการทำธนาคารปูม้าถือเป็นการฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมชายฝั่งอย่างยั่งยืน เป็นการสร้างงาน สร้างรายได้ และทำให้ความเข้มแข็งของชุมชนกลับคืนมา การจัดงานครั้งนี้ถือเป็นโอกาสดีที่ผู้บริโภคจะได้เลือกซื้อผลผลิตและผลิตภัณฑ์ปูม้าจากพี่น้องชาวประมงโดยตรง" ผอ.วช.กล่าว

              สุกญญา ธีระกูรณ์เลิศ ที่ปรึกษาสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ(วช.) ในฐานะประธานโครงการคืนปูม้าสู่ทะเลไทย ตามมติคณะรัฐมนตรี(ครม.) เมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2561 เผยว่าการจัดงานครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรก หลังครม.มีมติให้มีการขยายผลพันธุ์ปูม้าตามโครงการคืนปูม้าสู่ทะเลไทย หลังจากที่เคยจัดที่สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ(วช.) เนื่องในโอกาสครบรอบ 60 ปี วช. ซึ่งได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคอย่างล้นหลาม แล้วก็มาจัดใหญ่ที่ไอคอนสยาม จากนี้ไปก็จะเดินหน้าจัดงานแบบนี้ไปตามภูมิภาคต่างๆ เพื่อให้ผู้บริโภคในพื้นที่มีโอกาสรับประทานปูม้าสดๆ จากเกษตรกรที่ประกอบอาชีพประมงโดยตรงในราคาที่ไม่แพงมากนัก

             “งานนี้ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมาก เป็นการให้โอกาสชาวประมงที่เป็นสมาชิกธนาคารปูได้มีเวที มีช่องทางการตลาดในการจำหน่ายสินค้าแล้วก็ผู้บริโภคในเมืองหลวงได้มีโอกาสได้ลิ้มลองปูม้าสดๆ จากทะเลในราคาที่ไม่แพง เท่าที่สังเกตภายในงานต้องพบว่าชาวต่างชาติให้ความสนใจเยอะมากๆ หลังจากนี้ก็จะตระเวนไปตามภูมิภาคต่างๆ เพื่อเพิ่มช่องทางการตลาดให้แก่ชาวประมง” ประธานโครงการคืนปูม้าสู่ทะเลไทยกล่าว

             ศิรินา แขกพงศ์ หรือนีน่า เจ้าของแพปูเพชรปิยะ ต.ท่าศาลา อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช หนึ่งในเครือข่ายธนาคารปูม้าที่นำปูม้าสดและผลิตภัณฑ์แปรรูปปูม้ามาจำหน่ายในงานกล่าวยอมรับกับ “คมชัดลึก” ว่าเพิ่งมาออกบูธนอกสถานที่เป็นครั้งแรก เนื่องจากการทำตลาดส่วนใหญ่จะใช้สื่อออนไลน์ และการส่งสินค้าจะใช้บริการเคอรรี่ โดยมีจุดพักสินค้าที่มหาชัยและหัวลำโพง ซึ่งเป็นการส่งแบบวันต่อวัน  นอกจากนี้ลูกค้าอยู่ในพื้นที่ จ.นครศรีฯ หรือพื้นที่ใกล้เคียงก็จะมารับสินค้าที่หน้าแพเป็นหลัก ซึ่งการจับปูม้าได้แต่ละวันเฉลี่ยอยู่ที่ 500-800 กิโลกรัม

             “เป็นครั้งแรกที่มาออกบูธที่กรุงเทพฯ รู้สึกดีมากๆ เพราะจะทำให้ผู้บริโภครู้จักเรามากขึ้น ปกติจะขายทางสื่อออนไลน์เป็นหลักและจัดส่งให้ลูกค้าผ่านมาเคอรรี่ เราจะมีจุดพักสินค้า 2 ที่ คือ มหาชัย และหัวลำโพง สำหรับลูกค้าในกรุงเทพฯ และปริมณฑล นอกนั้นก็จะไปรับของที่หน้าแพหลังจากโทรมาสั่งไว้ อยากให้ทางวช.หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้จัดกิจกรรมแบบนี้บ่อยๆ  จะเป็นอีกช่องทางการตลาดขายสินค้าให้แก่ผู้บริโภคโดยตรง”

เครือข่ายปลื้มตลาดนัด"ปูม้าบุกกรุง"ที่ไอคอนสยาม         

                เจ้าของแพปูเพชรปิยะ เผยต่อว่า การมาออกบูธครั้งนี้ นอกจากปูม้าแล้วยังมีสัตว์น้ำอื่นๆ มาจำหน่ายด้วย อาทิ กั้ง กุ้ง ปลาหมึก และผลิตภัณฑ์น้ำพริกไข่ปู สนนราคาจำหน่ายปู้ม้า 500-790  บาทต่อกิโลกรัม ขึ้นอยู่กับขนาดของปูด้วย ถ้าปูม้าขนาด 3-4 ตัวต่อกิโลกรัมราคาจะอยู่ที่ 700-790 บาท ส่วนกั้งกิโลละ 1,400-1,600  บาท ซึ่งแต่ละวันของการจัดงานจะจำหน่ายปูม้าเฉลี่ยอยู่ที่ 150-300 กิโลกรัมต่อวัน โดยลูกค้ามีทั้งคนไทยและชาวต่างชาติที่มาลิ้มลองรสชาติปูม้าสดๆ จากทะเล โดยการนึ่ง

               ด้าน ผศ.ดร.อมรศักดิ์ สวัสดี หรืิอ อ.กบ ผู้อำนวยการศูนย์วิชาการมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ และที่ปรึกษาเครือข่ายธนาคารปูม้าภาคใต้ตอนบน กล่าวกับ “คมชัดลึก” ถึงการจัดงานครั้งนี้ว่าเป็นกิจกรรมที่ดีสำหรับสมาชิกเครือข่ายธนาคารปูม้าและชาวประมงชายฝั่งที่ได้มีโอกาสนำผลิตภัณฑ์ปูม้าที่เพิ่มปริมาณมากขึ้นมาจำหน่ายให้แก่ผู้บริโภคในเมืองหลวงในราคาที่ไม่แพงมากนัก เมื่อเทียบกับปูม้าที่จำหน่ายอยู่ทั่วไป ที่สำคัญยังเป็นปูม้าสดๆ จากท้องทะเลสู่ผู้บริโภคโดยตรง ไม่ผ่านพ่อค้าคนกลางแต่อย่างใด

เครือข่ายปลื้มตลาดนัด"ปูม้าบุกกรุง"ที่ไอคอนสยาม          เสวนาปูม้าบุกกรุงที่ไอคอนสยาม

       

       “ตอนนี้ปูม้ามีปริมาณมากขึ้น งานนี้ก็เป็นอีกช่องทางการตลาดให้แก่ชาวประมงที่เป็นสมาชิกเครือข่ายธนาคารปูม้า เพราะถ้าปูม้าจับได้มากแล้วมีราคาถูกก็จะไม่มีใครอยากจะทำ การที่ วช.ร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องจัดกิจกรรมนี้ขึ้นมา จึงเป็นการเปิดโอกาสให้กับเครือข่ายธนาคารปูม้ามีช่องทางการตลาดเพิ่มขึ้น” ที่ปรึกษาเครือข่ายธนาคารปูม้าภาคใต้ตอนบนกล่าว พร้อมย้ำว่า จากนี้ไปควรจะจัดกิจกรรมแบบนี้ในภูมิภาคด้วยเพื่อปลุกกระแสปูม้าให้คนได้รู้จักมากขึ้นและผู้บริโภคจะได้รับประทานปูม้าสดในราคาที่ถูกกว่าในตลาดโดยทั่วไป

                 นับเป็นอีกก้าวความสำเร็จจากโครงการ “คืนปูม้าสู่ทะเลไทย” ในการเปิดช่องทางการตลาดใหม่ให้แก่ชาวประมงชายฝั่งทั่วไปที่เป็นเครือข่ายธนาคารปูม้าในการนำปูม้าและผลิตภัณฑ์ปูม้าสดๆ จากท้องทะเลสู่ผู้บริโภคในเมืองหลวง

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ