ข่าว

 เปิดโลก"อัญมณีไทย"เมืองจันทบูร 4-8 ธ.ค.62       

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

 เปิดโลก"อัญมณีไทย"เมืองจันทบูร งาน"พลอยและเครื่องประดับจันทบุรี 2019" ระหว่าง 4-8 ธ.ค.62       

          คาดเงินสะพัดจ.จันทบุรีส่งท้ายปีหมูทองไม่ต่ำกว่าพันล้านในงานเทศกาลนานาชาติ“พลอยและเครื่องประดับจันทบุรี 2019”หลังผู้ค้าอัญมณีจากทั่วโลกเข้าร่วมงานอย่างล้มหลามเพื่อตอกย้ำศักยภาพ“จันทบุรี”สู่การเป็น“นครอัญมณี”ของโลกอย่างเต็มภาคภูมิ หลังยอดการส่งออกทับทิมที่ผ่านการเจียรไนโดยฝีมือช่างไทยในปี 2561 ที่ผ่านมา รวมมูลค่ากว่า 11,375 ล้านบาท

 เปิดโลก"อัญมณีไทย"เมืองจันทบูร  4-8  ธ.ค.62       

 

     เปิดโลก"อัญมณีไทย"เมืองจันทบูร  4-8  ธ.ค.62        ลงนามMOU

        กระทรวงพาณิชย์ โดยสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องแระดับแห่งชาติ(องค์การมหาชน)หรือGIT ร่วมกับสมาคมผู้ประกอบการค้าอัญมณีและจ.จันทบุรีร่วใมจัดงานเทศกาลนานาชาติ"“พลอยและเครื่องประดับจันทบุรี 2019”ขึ้นในระหว่างวันที่ 4-8 ธันวาคม 2562 ณ จังหวัดจันทบุรี โดยได้รับเกียรติจากเชวงศักดิ์ เร่งไพบูลย์วงศ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เป็นประธานในพิธีเปิดงานและมอบรางวัลแก่ผู้ชนะการประกวดออกแบบเครื่องประดับ การประกวดพลอยเจียรไน รวมทั้งผู้ชนะการประกวดโครงการวิจัยด้านอัญมณีและเครื่องประดับ

      "สำหรับจันทบุรีแล้วไม่เฉพาะคนไทยทั้งประเทศเท่านั้น แต่เป็นที่ประจักษ์ของคนจากทั่วโลก  วันนี้เรามีพ่อค้าและนักธุรกิจค้าอัญมณีทั้งไทยและต่างชาติได้เข้ามาเห็นบรรยากาศของงานในวันนี้ทำให้เราเชื่อมั่นที่จะทำให้จันทบุรีเป็นศูนย์กลางการค้าพลอยและเครื่องประดับ ในฐานะนครอัญมณีของโลกในอนาคตด้วย"

        เชวงศักดิ์ เร่งไพบูลย์วงศ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ วีระศักดิ์ ศุภกิจโกสนธ์กล่าวภายหลังเป็นประธานในพิธีเปิดงาน พร้อมระบุว่าในส่วนอัญมณีและเครื่องประดับของไทบนั้นถือเป็นเป็นสินค้าส่งที่นำรายได้เข้าประเทศมากเป็นอันดับ3 ของสินค้าส่งออกของประเทศไทยในขณะนี้

          ดวงกมล เจียมบุตร ผู้อำนวยการสถาบันGITกล่าวถึงการงานเทศกาลนานาชาติ“พลอยและเครื่องประดับจันทบุรี 2019”นี้ว่าถือเป็นงานแสดงสินค้าอัญมณีและเครื่องประดับนานาชาติที่จัดขึ้นเป็นครั้งแรกเป็นเวทีสำหรับผู้ประกอบการค้าพลอยและอัญมณีในจ.จันทบุรีและจากทั่วโลกได้มีโอกาสพบปะกันในการเจรจาทางธุรกิจและเปิดโอกาสนำเสนอผลิตภัณฑ์อัญมณีและเครื่องประดับที่มีคุณภาพจากผู้ผลิตสู่ผู้บริโภคโดยตรง โดยผ่านมาตรวจสอบและออกใบคุณภาพจากGIT  ทำให้ผู้ซื้อมีความมั่นใจ ทั้งยังเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดจันทบุรีอีกด้วย

 เปิดโลก"อัญมณีไทย"เมืองจันทบูร  4-8  ธ.ค.62       

   ดวงกมล เจียมบุตร ผู้อำนวยการสถาบันGIT

        "วันนี้มีนักธุรกิจจากจีนตอบรับมาร่วมงานกว่า 60ราย ทั้งจากกวางโจวและเซียนไฮ้ มีทั้งเจ้าของธุรกิจค้าขายเครื่องประดับรายไหญ่และร้านค้าปลีก ซึ่งผลตอบรับถือว่าดีมาก เป็นโมเดลแรกของประเทศไทยที่จัดทำการค้าอัญมณี ที่เป็นจุดเด่นของงานคือเป็นครั้งแรกที่เราการทำประมูลพลอยเจียระไนโดยสมาคามผู้ค้าอัญมณีของจ.จันทบุรีอีกด้วย ความสำเร็จในครั้งนี้ จะเป็นแนวทางในการจัดงานปีต่อ ๆ ไป เป็นการยกระดับจังหวัดจันทบุรีให้เป็นนครอัญมณีอย่างยั่งยืนอีกด้วย"

        ผู้อำนวยการสถาบันGIT ยอมรับว่าทุกวันนี้จันทบุรี มีธุรกิจอัญมณีครบวงจรตั้งแต่การทำเหมือง การเผาพลอย การเจียระไนพลอย รวมไปถึงการทำธุรกิจค้าขายพลอย ซึ่งมีผู้ซื้อจากทั่วโลกเดินทางมาหาซื้อพลอยเจียระไนที่จ.จันทบุรี แม้วันนี้การทำเหมืองพลอยในพื้นที่จ.จันทบุรีจะมีน้อยลง  แต่จันทบุรีวันนี้ยังคงเป็นศูนย์กลางค้าพลอยระดับโลก โดยเฉพาะการปรับปรุงคุณภาพ การเผาพลอยและการเจียระไนพลอย ซึ่งพลอยที่นำเข้ามายังประเทศไทยกว่า 80% จะถูกนำมาปรับปรุะงคุณภาพที่จ.จันทบุรี 

 เปิดโลก"อัญมณีไทย"เมืองจันทบูร  4-8  ธ.ค.62       

        "เรามีภูมิปัญญาของช่างท้องถิ่นในเรื่องของการเผาและการเจียระไน นอกจากนี้เรายังเครื่องประดับอีกหลายอย่างที่คนยังไม่รู้และที่จังหวัดอื่นไม่มี อย่างเช่นแหวนกล  ซึ่งเป็นภูมิปัญญา่ของคนจันทบุรีโดยแท้ที่ควรส่งทอดให้คนทั่วประเทศและทั่วโลกได้รับรู้ว่าศักยภาพของช่างท้องถิ่นในจ.จันทบุรีมีมากน้อยแค่ไหน นอกจากนี้ยังเป็นการช่วยกระตุ้นเศรษฐกจิของจังหวัด ในช่วงปลายปีนอกฤดูผลไม้ฤดูกาลผลไม้ด้วย"

     อย่างไรก็ตามงานครั้งนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 4-8 ธันวาคม 2562 ณ จ.จันทบุรี โดย GIT และเครือข่ายพันธมิตรภาครัฐและเอกชนร่วมกันจัดขึ้น ภายในงานนอกจากกานรแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์สินค้าแล้วยังมีกิจกรรมที่เป็นไฮไลต์น่าสนใจได้แก่การประมูลพลอยเจียรไนครั้งแรกในประเทศไทยกว่า 500 รายการ มูลค่ารวมกว่า 150 ล้านบาท การมอบรางวัลผู้ชนะการประกวดออกแบบเครื่องประดับและประกวดเจียรไนพลอย การมอบรางวัลโครงการวิจัยด้านอัญมณีและเครื่องประดับ สัมมนาด้านอัญมณีและเครื่องประดับ รวมถึงนิทรรศการต่าง ๆ ได้แก่ การจัดแสดงผลิตภัณฑ์ต้นแบบจากโครงการ Gems Treasure ,การจัดแสดงผลิตภัณฑ์จากช่างและผู้ประกอบการที่ได้รับคัดเลือกภายใต้โครงการ Smart Jewelers ,การจัดแสดงผลิตภัณฑ์เครื่องประดับสร้างสรรค์และการจัดแสดงผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในชีวิตประจำวันจากนักออกแบบรุ่นใหม่ 

 เปิดโลก"อัญมณีไทย"เมืองจันทบูร  4-8  ธ.ค.62       

        ขณะเดียวกัน GIT ยังได้จัดทำชุดมาตรฐานสีทับทิมขึ้นมาเพิ่มเติมเพื่อสนับสนุนการค้าอัญมณีและเครื่องประดับไทย โดยตลาดการค้าพลอยของไทยนั้นสีของทับทิมที่ได้รับความนิยมแบ่งออกได้ 3 เฉดสีได้แก่ สีแดงทอง(Golden Red) ซึ่งเป็นสีของทับทิมสยามและหาได้ยาก สีแดงสด(Pigeon“s Blood) ซึ่งพบได้มากในประเทศเมียนมาร์และสีแดงสดอมชมพู(Rabbit”s Eye Red) ซึ่งเป็นสีของทับทิมที่ได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศยุโรป โดยทับทิมสีดังกล่าวมีแนวคิดมาจาก“ตากระต่าย”ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของจังหวัดจันทบุรี หนึ่งในศูนย์กลางการค้าอัญมณีโลก โดยเฉพาะพลอยทับทิม ซึ่งเป็นสินค้าส่งออกสำคัญของไทย

      "ทางสถาบันGIT ยังได้ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยเซียนา ประเทศอิตาลีในการพัฒนาผู้ประกอบการไทยด้านเทคนิคการผลิตและการออกแบบเครื่องประดับ โดยจะมีการแลกเปลี่ยนนักวชิาการและนักเรียนร่วมกันในอนาคตด้วย"ผู้อำนวยการสถาบันGITกล่าวย้ำ 

 เปิดโลก"อัญมณีไทย"เมืองจันทบูร  4-8  ธ.ค.62       

        อย่างไรก็ตามการจัดงานครั้งนี้ได้มีการแบ่งออกเป็น 3 โซนได้แก่ ศูนย์ส่งเสริมอัญมณีและเครื่องประดับจันทบุรี, เคพีจิวเวอรี เซ็นเตอร์และโอทอปไลฟ์สไตล์บริเวณตลาดพลอย ถนนศรีจันทร์ รวมถึงกิจกรรม Gem Tour เพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวของจังหวัดจันทบุรีอีกด้วย นับเป็นอีกก้าวของอัญมณีไทยอย่างพลอยในการจุดประกายให้กลายเป็นผลิตภัณฑ์เด่นระดับโลก

     

  สำรวจแหล่งขุดพลอยแบบโบราณ"บ่อพลอยเหล็กเพชร"

            รายการ“บ่ายนี้มีคำตอบ”ทางโมเดิร์นไนน์ทีวี จัดทริปพิเศษตะลุยเมืองจันท์นำโดยอดีตนางสาวไทย“บุ๋ม” ปนัดดา วงศ์ผู้ดี พาผู้ชมแฟนพันธุ์กว่า 40 ชีวิตสัมผัสเส้นทางพลอยจากแหล่งผลิตสู่ผลิตภัณฑ์เด่นของจังหวัดและสถานทีสำคัญทางประวัติศาสตร์ของไทย โดยสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องแระดับแห่งชาติ(องค์การมหาชน)หรือGIT ร่วมกับช่อง9 อสมท.จัดขึ้นภายใต้โครงการ“เยือนนครอัญมณี ท่องเที่ยววิถีเมืองจันท์”

 เปิดโลก"อัญมณีไทย"เมืองจันทบูร  4-8  ธ.ค.62       

            โดยไฮไลท์สำคัญคือการชมสถานที่สำคัญทางประวัติของชาติไทยที่วัดพลบ บางกะจะ ต.บางกะจะ อ.เมืองจันทบุรี ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งรวบรวมไพล่พลของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชก่อนยกพลเข้าตีเมืองจันท์จนสำเร็จแล้วรวบรวมกำลังพลยกทัพทางเรือมากอบกู้กรุงศรีอยุธยา ภายในวัดยังเห็นร่องรอยโบราณสถานที่สำคัญหลายแห่ง เช่นบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ พระอุโบสถกลางน้ำ พระเจดีย์กลางน้ำ พระปรางค์ ปัจจุบันกรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนเป็นอุทยานการศึกษาแล้ว

          จากนั้นเดินทางต่อไปยังบ่อพลอยเหล็กเพชร ในตำบลเดียวกันถือเป็นจุดกำเนิดของการทำพลอยเมืองจันทบุรีที่มีอายุมากกว่า 100 ปีปัจจุบันเป็นศูนย์การเรียนรู้ชุมชนและอนุรักษ์การหาพลอยแบบโบราณ ของจังหวัดจันทบุรีและที่สำคัญบ่อพลอยแห่งนี้ ไม่ใช่แหล่งจำลองหรือศูนย์สาธิตการขุดพลอยเท่านั้น แต่เป็นสถานที่ที่ใช้ทำอาชีพขุดพลอยกันจริง ๆ เป็นบ่อพลอยเพียงไม่กี่แห่งในจันทบุรีที่ยังคงใช้วิธีขุดชั้นดินลงไปหา คล้ายการทำเหมืองพลอยแบบสมัยก่อน

             กุ๊ก-สราวุธ พึ่งตระกูล ทายาทรุ่น 4 เจ้าของบ่อพลอยเหล็กเพชรบอกว่าได้เปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาเยี่ยมชมเมื่อต้นปี 2561 ปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวมาที่นี่เฉลีย20-30 คน แต่ถ้าเป้นวันหยุดเสาร์อาทิตย์หรือวันนักขัตฤกษ์จะเพิ่มเป็น 2-3 เท่าโดยนักท่องเที่ยวที่เข้ามาก็จะทดลองขุดก็จะเจอพลอยจริงๆในอดีตบ้านทุกหลังคาเรือนในละแวกนี้ทำอาชีพขุดพลอยแบบโบราณกันหมด ก่อนจะมีการทำเป็นอุตสาหกรรม โดยใช้รถแบ๊กโฮและเครื่องจักรในการขุดหาพลอย โดยพื้นที่ที่เปิดเหมืองไปแล้วจึงไม่สามารถขุดหาพลอยได้อีก ก็เลยเลิกทำอาชีพขุดพลอยหันมาทำสวนผลไม้แทน

             “พื้นที่ที่ยังเหลือพลอยอยู่เป็นบริเวณติดกับตัวบ้านและพื้นที่สวนปัจจุบันยังมีการขุดพลอยแบบโบราณในท้องถิ่นเหลืออยู่ 2-3 แห่ง หนึ่งในนั้นคือบ่อพลอยเหล็กเพชร โดยพลอยที่นักท่องเที่ยวขุดพบกันก็จะเป็น พลอยนิลหรือบุษราคัม พลอยสตาร์ พลอยเขียวส่อง และพลอยไพลิน มีพื้นที่รวมกับสวนผลไม้แล้วเหลืออยู่ 15 ไร่เท่านั้นเอง”ทายาทรุ่น4 เล่าทิ้งท้ายก่อนกลับ 

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ