ชูจุดขายท่องเที่ยวเมืองรอง วิถีชีวิตชุมชน และการท่องเที่ยวเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
เวลา 10.30 น. วันที่ 4 พฤศจิกายน 2562 (ตามเวลาท้องถิ่น) นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ให้เกียรติเป็นประธานเปิดคูหาประเทศไทย ในงาน World Travel Market (WTM) 2019 ครั้งที่ 39 นำเสนอท่องเที่ยวตลาดเมืองรอง วิถีชีวิตชุมชน และการท่องเที่ยวที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ตอกย้ำแบรนด์ประเทศไทย โดยมี นายทศพร ศิริสัมพันธ์ ประธานกรรมการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย คณะผู้บริหารและผู้ประกอบการด้านอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในประเทศ ร่วมงาน ณ Excel London กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร
ภายในงาน นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ เผยว่า สำหรับปีนี้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เข้าร่วมงาน WTM 2019 ในวันที่ 4-6 พฤศจิกายน 2562 โดยนำผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว จำนวน 42 ราย เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 1 ราย เดินทางเพื่อเข้าร่วมงานงานส่งเสริมการขายทางการท่องเที่ยวที่มีความสำคัญที่สุดในสหราชอาณาจักร ซึ่งจัดติดต่อกันมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1980 นับเป็นครั้งที่ 39 ที่ประเทศไทยเข้าร่วมงานดังกล่าว
โดยมีผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวไทย เข้าร่วมจำนวน 42 ราย ประกอบด้วย ผู้ประกอบการประเภท โรงแรมและรีสอร์ต 31 ราย บริษัทนำเที่ยว 5 ราย ธุรกิจสปา 1 ราย และประเภทอื่นๆ 5 ราย ได้แก่ Chao Phraya Tourist Boat Co., LTD,เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี, Hop-On Hop-Off Bus By Elephant Go, LJR Consultancy, Thai Elephant Alliance Association (TEAA) จากจำนวนข้างต้น เป็นเอกชนไทยที่เข้าร่วมงาน WTM รายใหม่ จำนวน 27 ราย โดยธีมเป็นดอกไม้รูปรอยยิ้มที่สื่อถึงรอยยิ้มของคนไทยติดใต้โลโก้ อะเมซิ่ง ไทยแลนด์ ตอกย้ำแบรนด์ประเทศไทย
พร้อมนำเสนอความพร้อมของไทยต่อผู้ประกอบการท่องเที่ยวและสื่อมวลชนต่างประเทศกว่า 100 ราย ในงาน Networking lunch และมอบรางวัล Responsible Thailand Awards 2019 ให้แก่ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวไทย จำนวน 6 ราย ที่ดำเนินธุรกิจโดยให้ความสำคัญต่อการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน รางวัลดังกล่าวจะช่วยสร้างการรับรู้ภาพลักษณ์ประเทศไทยเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมในอนาคต
ทั้งนี้ งาน WTM เป็นงานส่งเสริมการขายที่เปิดโอกาสให้หน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจากทั่วโลก เช่น องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งชาติจากประเทศต่าง ๆ ธุรกิจโรงแรม บริษัทนำเที่ยว สายการบิน บริษัทรถเช่า และธุรกิจบริการท่องเที่ยวอื่น ๆ ได้นำเสนอขายสินค้าทางการท่องเที่ยวในฐานะผู้ขาย (Exhibitor หรือ Seller) โดยจัดพื้นที่เพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ตลอดจนพบปะเจรจาธุรกิจกับผู้ประกอบการนำเที่ยว (Tour Operator) ที่มาร่วมงานในฐานะผู้ซื้อ (Buyer/ Trade Visitor) และสื่อมวลชน
ด้าน นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวถึงคูหาของประเทศไทยที่มาร่วมออกงานในครั้งนี้ว่า ในปีนี้ได้มีการออกแบบเป็นรูปทรงกลีบบัว ใช้วัสดุที่ไม่สร้างมลพิษ ใช้ไม้จากแหล่งที่มีการปลูกป่าทดแทนอย่างยั่งยืน นำเสนอแนวคิด โอเพ่น ทู เดอะ นิวเฉด ออฟ ไทยแลนด์ (Open to the New Shades of Thailand) ซึ่งอยู่ภายใต้แคมเปญ อะเมซิ่ง ไทยแลนด์ ที่นำเสนอขายสินค้าการท่องเที่ยวใหม่ ๆ ของประเทศไทย เช่น การท่องเที่ยวเมืองรอง และการท่องเที่ยวที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม พร้อมนำเสนอวิถีชุมชนเพื่อสร้างความประทับใจแก่นักท่องเที่ยวที่มาเยือน และนำเสนอ นิวเฉด ออฟ ไทยแลนด์ ที่มุ่งเน้นเรื่องการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนทางการท่องเที่ยวมากขึ้น
และภายในคูหาประกอบไปด้วย เคาน์เตอร์ให้บริการข้อมูลข่าวสารการท่องเที่ยวประเทศไทย ของ ททท. ประชาสัมพันธ์ข้อมูลสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวเมืองรอง ใช้แท็บเล็ตคอมพิวเตอร์ในการให้ข้อมูลเพื่อลดปริมาณกระดาษ พื้นที่กิจกรรมสาธิตฝ่ายส่งเสริมสินค้าการท่องเที่ยว ททท. จัดทำอาหารเมี่ยงคำ กลีบบัวหลวงแจกให้ผู้เข้าร่วมงานได้ทดลองชิม ชงชาเกสรดอกบัวเวิร์คช็อป ปั้นดินเป็นรูปดอกบัวหลวง และตุ้มหู และนำเสนอเส้นทางท่องเที่ยวในเมืองรองที่มีแหล่งท่องเที่ยวเกี่ยวกับทุ่งดอกบัว ได้แก่จังหวัดนครปฐม อุดรธานี และพัทลุง พื้นที่บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ให้ข้อมูลในการบริการเส้นทางการบินของบริษัทแก่ผู้เข้าร่วมงาน พื้นที่สถาบันสิริกิติ์ จัดแสดงและสาธิตงานจักสานไม้ไผ่ลายขิด เอกสารประชาสัมพันธ์ของสถาบันสิริกิติ์ และของที่ระลึกแก่ผู้เข้าร่วมงาน พื้นที่บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารการให้บริการเส้นทางการบินของบริษัทแก่ผู้เข้าร่วมงา
สำหรับสถานการณ์ภาพรวมของนักท่องเที่ยวจากสหราชอาณาจักรที่เดินทางเข้าประเทศไทย ในปี 2562 (มกราคม-สิงหาคม) มีจำนวนกว่า 661,793 คน สร้างรายได้ทางการท่องเที่ยว 51,405 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 3 จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา คาดว่าแนวโน้มทั้งปี 2562 จะมีนักท่องเที่ยวเข้าไทยในระดับเดียวกับปีที่ผ่านมา ประมาณ 950,000 คน สร้างรายได้ทางการท่องเที่ยวประมาณ 73,620 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.6 ความนิยมในการเดินทางท่องเที่ยวส่วนมากเพื่อการพักผ่อนโดยมีความสนใจสินค้าทางการท่องเที่ยวประเภทการท่องเที่ยวกลุ่มเยาวชน (Gap Year) กลุ่มท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ฮันนีมูนและแต่งงาน กลุ่มล่องเรือสำราญ ประมาณ 8 เปอร์เซ็นต์ของนักท่องเที่ยวอังกฤษชื่นชอบและสนใจเลือกที่พักแนวแช่ริ่ง อิโคโนมี่ (Sharing Economy) เช่น Air BNB Housetrip Homeaway โดยจะวางแผนการเดินทางไว้ก่อนล่วงหน้านานและนิยมแพ็กเกจท่องเที่ยวแบบ All Inclusive Package มากขึ้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง