ข่าว

ซีพีเอ็นรุกร้องนายก-ยื่นศาลฯคุ้มครองชั่วคราวเซ็นทรัลวิลเลจ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

.

 

 

 

          เซ็นทรัล ลุยร้องนายกฯขอความเป็นธรรม ยื่นศาลปกครองคุ้มครองชั่วคราวฉุกเฉิน “เซ็นทรัลวิลเลจ” เปิดทาง-รื้อถอนสิ่งกีดขวาง-ดำเนินการระบบสาธารณูปโภค ย้ำเปิดบริการตามกำหนดเดิม 31 ส.ค. ขณะทอท.ร่อนหนังสือกพท.วันนี้จี้สอบ 6 ประเด็นกระทบปลอดภัยการบิน


          กรณีปัญหาข้อพิพาทระหว่าง บริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. ปิดทางเข้าออกโครงการเซ็นทรัล วิลเลจ ลักชูรี่ เอาท์เล็ตโปรเจคภายใต้การพัฒนาของบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอ็น หนึ่งในธุรกิจเซ็นทรัล กรุ๊ป ซึ่งกำหนดเปิดให้บริการในวันเสาร์ที่ 31 ส.ค.นี้ ความคืบหน้าล่าสุด ซีพีเอ็น ได้ยื่นหนังสือต่อศาลปกครองกลาง เพื่อขอให้มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว รวมทั้งยื่นหนังสือต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ขอความเป็นธรรมในการดำเนินงาน

 

 

          แหล่งข่าวกล่าวว่า เพื่อบรรเทาปัญหาดังกล่าวในขณะนี้ ซีพีเอ็น ได้ยื่นคำขอให้ศาลปกครองกลางให้มีคำสั่งกำหนดมาตรการคุ้มครองฉุกเฉินโครงการเซ็นทรัล วิลเลจ ซึ่งได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการที่ ทอท. นำสิ่งกีดขวางบริเวณทางเข้า-ออกหน้าโครงการ ทำให้พนักงานคู่ค้า รวมทั้งการดำเนินงานทางด้านสาธารณูปโภคต่างๆ ไม่สามารถดำเนินงานได้ตามปกติอย่างที่ควรจะเป็น โดยขอให้ศาลปกครองพิจารณาห้าม ทอท.ให้ยุติการดำเนินการใดๆ ก็ตามที่เป็นอุปสรรค ขัดขวาง และรื้อถอนสิ่งกีดขวางต่างๆ ออกจากทางเข้า-ออก หรือทางหลวงแผ่นดิน 370 บริเวณด้านหน้าโครงการ


          ทั้งนี้ การก่อสร้างโครงการเซ็นทรัลวิลเลจ ที่ผ่านมา บริษัทได้ดำเนินการตามกระบวนการขออนุญาตจากหน่วยงานทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ซึ่งขณะนี้เข้าสู่ช่วงสุดท้ายของการก่อสร้างก่อนเปิดบริการตามแผนงานที่กำหนดไว้ในวันที่ 31 ส.ค.นี้


          “บริษัทได้รับอนุญาตจากหน่วยงานท้องถิ่นให้ก่อสร้างตามแผนงานที่วางไว้มาโดยตลอด โดยที่โครงการตั้งอยู่ติดกับทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 370 เป็นทางหลวงแผ่นดินที่มีประชาชนทั่วไปใช้ผ่านทางจำนวนมาก แต่ระหว่างดำเนินการโครงการบริษัทไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการกระทำของหน่วยงานของรัฐ จึงต้องขอความคุ้มครองจากศาลปกครองเป็นการชั่วคราวและพิจารณาขอความเป็นธรรมจากนายกรัฐมนตรี”

 



          โดยทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 370 นับเป็นสาธารณสมบัติสำหรับประชาชนใช้ประโยชน์ร่วมกันป็นทางสาธารณะเพื่อสัญจรไปมา ดังนั้นเชื่อว่าบริษัทสามารถใช้ประโยชน์ในทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 370 เพื่อเป็นทางสัญจร และมีสิทธิในการขอรับอนุญาตตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องเช่นกัน ซึ่งเซ็นทรัล วิลเลจ ได้รับอนุญาตทำทางเชื่อมเข้าออกจากกรมทางหลวงอย่างถูกต้อง


          ยันก่อสร้างตามก.ม.ทุกขั้นตอน
          ทั้งนี้ซีพีเอ็น ผู้บริหารและพัฒนาโครงการเซ็นทรัล วิลเลจ ยังได้ชี้แจงถึงไทม์ไลน์ช่วง 5 ปีที่ผ่านมา (2558-2562) ในการพัฒนาโครงการเซ็นทรัล วิลเลจ ซึ่งบริษัทได้ดำเนินการทุกอย่างตามขั้นตอนอย่างถูกต้อง และได้รับอนุญาตอย่างถูกต้องตามกฎหมายจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและมีอำนาจรับผิดชอบโดยตรง มีความโปร่งใสพร้อมให้ตรวจสอบ 


          แจง3ปมประเด็นเข้าใจผิด
          สำหรับประเด็นที่อาจเข้าใจผิด “ซีพีเอ็น” ชี้แจงเพื่อให้เกิดความเข้าใจอย่างถูกต้อง 3 ประเด็น ได้แก่ 1. พื้นที่โครงการมีการเชื่อมทางเข้าออกอย่างถูกต้อง ไม่มีการรุกล้ำที่ดินของภาครัฐ (ที่ดินราชพัสดุ ลำรางสาธารณะ) และไม่ได้เป็นที่ดินตาบอด


          โดยที่ดินที่ราชพัสดุได้จัดหาและมอบให้กรมทางหลวงสร้างเป็นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 370 และให้กรมทางหลวงเป็นผู้ดูแล เป็นพื้นที่คนละส่วนกับที่ดินที่เวนคืนของสนามบินสุวรรณภูมิที่ ทอท. ดูแลโดยโครงการเซ็นทรัล วิลเลจ ตั้งอยู่บนที่ดินที่ติดกับทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 370 จึงขออนุญาตโดยตรงจากกรมทางหลวง ซึ่งมีอำนาจเต็มในการอนุมัติการเชื่อมทางแต่ผู้เดียวเท่านั้นและพื้นที่ที่กรมทางหลวงดูแลรับผิดชอบ หมายรวมถึง เขตทาง และไหล่ทาง ซึ่งติดกับที่ดินของเอกชน 2 ข้างถนน ซึ่งที่ดินของโครงการมีแนวเขตแนบสนิทต่อเนื่องกับเขตทางของทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 370 ดังนั้น ที่ดินของโครงการจึงไม่ใช่ที่ดินตาบอด


          2.บริษัทได้ปฏิบัติตามกฎหมายผังเมืองอย่างเคร่งครัด โดยโครงการนี้ได้รับอนุญาตอย่างถูกต้องในการก่อสร้างในพื้นที่สีเขียว บริเวณ ก1-10 ไม่เกินร้อยละ 10 ของที่ดินพื้นที่สีเขียวบริเวณดังกล่าว โดยโครงการได้รับอนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามกฎหมายผังเมือง


          3.บริษัท ได้ขออนุญาตก่อสร้างในบริเวณพื้นที่เขตปลอดภัยในการเดินอากาศจากสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย อย่างถูกต้อง มีความปลอดภัยต่อการบิน ไม่ได้ละเมิดกฏใดๆ ทั้งความสูง ไม่มีกิจกรรมใดๆ ที่จะส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานสนามบิน หรือรบกวนการบินแต่อย่างใด


          “บริษัทมั่นใจว่า ภาครัฐจะสามารถช่วยคลี่คลายสถานการณ์นี้ เพื่อให้การร่วมมือครั้งนี้นำไปสู่ประโยชน์ทางเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของประเทศ ร่วมกันเดินหน้าประเทศไทย และเพื่อให้บริษัท  ร้านค้ากว่า170 ร้านค้า และพนักงานกว่า 1,000 คน พร้อมเปิดให้บริการตามกำหนดการเดิม”


          ลักชูรีเอาท์เล็ตแห่งแรกของไทย
          สำหรับ“เซ็นทรัล วิลเลจ” ลักชูรี่เอาท์เล็ต นับเป็นศูนย์การค้ารูปแบบใหม่ประเภทเอาท์เล็ต มูลค่าลงทุนกว่า 5,000 ล้านบาท บนที่ดิน100 ไร่ พื้นที่โครงการ 40,000 ตร.ม.เป็นโครงการค้าปลีกประเภทเอาท์เล็ตแห่งแรกในไทย ภายใต้คอนเซปต์ Bangkok Luxury Outlet สวรรค์แห่งการชอปปิงแบรนด์เนมจากบูทีคสโตร์แบรนด์ระดับโลกรวมกว่า 235 ร้านค้า เป็นหนึ่งในโมเดลธุรกิจที่รองรับกลุ่มนักท่องเที่ยวเช่นเดียวกับประเทศชั้นนำของโลก


          ทอท.ทำหนังสือกพท.สอบ6ประเด็น
          นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน)หรือทอท.กล่าวว่าวันนี้ (27 ส.ค.) ทอท.จะทำหนังสือไปยังสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ให้ช่วยตรวจสอบการก่อสร้างโครงการศูนย์การค้าเซ็นทรัล วิลเลจ ลักชูรี่เอาท์เล็ต ของซีพีเอ็น ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากเขตทำการบินท่าอากาศยานสุวรรณภูมิประมาณ 1 กิโลเมตร (กม.) เพราะเกรงว่าอาจส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยด้านการบิน


          ประกอบด้วย 1. ศูนย์การค้าฯ ปล่อยคลื่นสัญญาณต่างๆ รบกวนเครื่องช่วยการเดินอากาศหรือไม่ 2.แสงไฟจากศูนย์การค้าฯ จะกระทบต่อนักบินหรือไม่ เพราะก่อนหน้านี้มีกรณีของสนามกอล์ฟแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ห่างจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ประมาณ 2 กม. ปรากฏว่ามีแสงไฟแยงตานักบิน และนักบินคิดว่าเป็นไฟรันเวย์ จึงอยากให้ช่วยตรวจสอบ เพราะศูนย์การค้าฯ แห่งนี้อยู่ใกล้สนามบินมากกว่าสนามกอล์ฟ


          3.มีกิจกรรมที่อาจเกิดควันหรือไม่ 4.มีกิจกรรมที่ดึงดูดนกหรือไม่ เช่น เศษอาหาร 5.การปล่อยแสงเลเซอร์ขึ้นไปสู่อากาศ และ 6. ระบบเข้าและออกศูนย์การค้าฯ ต้องไม่ทำให้เกิดปัญหาจราจรติดขัด เพราะหากมีเหตุการณ์ฉุกเฉิน รถฉุกเฉินจะได้ใช้เป็นทางเข้าออกได้อย่างสะดวก และรวดเร็ว ทั้งนี้ยอมรับว่าประเด็นเหล่านี้ ไม่สามารถลงไปตรวจสอบได้ทันที คงต้องรอให้ศูนย์การค้าฯ เปิดให้บริการ จึงขอให้ กพท.ตรวจสอบและเฝ้าระวังประเด็นเหล่านี้

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์ กรุงเทพธุรกิจ

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ