ข่าว

โอ้ว...ราชดำริ แชมป์ 1 ล้าน ต.ร.ว.

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ราคาประเมินที่ดินขยับ8% "ราชดำริ" แชมป์1 ล้าน ต.ร.ว.


 

          กรมธนารักษ์เตรียมประกาศราคาประเมินที่ดินใหม่ทั่วประเทศ 1 ม.ค.2563 ปรับขึ้นเฉลี่ย 8% เผยกว่า 70% ไม่เปลี่ยนแปลง 29% ราคาปรับเพิ่มขึ้น และ อีก 1% ลดลง โดยถนนราชดำริ ชิดลม สยามพารากอน ราคาสูงสุดตารางวาละ 9 แสนบาท ถึง 1 ล้านบาท ส่วนพื้นที่แนวรถไฟฟ้าทรงตัว ส่วน “อีอีซี” ยังนิ่ง เหตุแผนลงทุนโครงสร้างพื้นฐานยังไม่สมบูรณ์


          นางสาววิลาวัลย์ วีระกุล รองอธิบดี ด้านประเมินราคาทรัพย์สิน กรมธนารักษ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ กรมธนารักษ์ ได้ทำการประเมินราคาที่ดินทั่วประเทศ เพื่อประกาศใช้เป็นฐานในการจัดเก็บภาษีการซื้อขายครั้งใหม่นับตั้งแต่ต้นปี 2563 เป็นต้นไป เสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยพบว่าราคาที่ดินทั่วประเทศในภาพรวมมีการปรับเพิ่มขึ้นประมาณ 8% จากราคาที่ใช้ในปัจจุบัน ซึ่งได้ประกาศใช้เมื่อ 4 ปีที่ผ่านมา


          ทั้งนี้กรมธนารักษ์ จะมีการประเมินราคาที่ดินและประกาศใช้เพื่อเป็นมาตรฐานอ้างอิงราคาที่ดินที่ซื้อขาย และอ้างอิงภาษีการโอนทุกๆ 4 ปี ซึ่งการประเมินครั้งล่าสุดระหว่างวันที่ 1 ม.ค.2559-31 ธ.ค.2562


          นางสาววิลาวัลย์ กล่าวว่า การประเมินรอบใหม่นี้  กว่า 70% ของที่ดินทั่วประเทศ ไม่มีการเปลี่ยนแปลงราคาประเมินจากคราวก่อน เนื่องจากกระบวนการประเมินราคานั้น ได้ใช้ระบบไอทีเข้ามาช่วย มีสูตรในการคำนวณที่สะท้อนราคาตลาด ราคาจึงไม่มีเปลี่ยนแปลง มีเพียง 1% ที่ราคาประเมินลดลง และ อีก 29% ที่ราคาประเมินปรับเพิ่มขึ้น


          “ไม่ต้องตกใจว่า ราคาประเมินที่ดินปรับเพิ่มขึ้นจะกระทบประชาชน โดยในพื้นที่ที่ปรับเพิ่มขึ้น ประชาชนก็จะได้ประโยชน์ที่มูลค่าที่ดินเพิ่มขึ้นสะท้อนราคาตลาดหรือข้อเท็จจริงมากขึ้นด้วย”


          ชิดลมแพงสุด1ล้าน-แนวรถไฟฟ้าทรงตัว
          สำหรับพื้นที่ที่ราคาประเมินที่ดินปรับเพิ่มขึ้นสูงสุด คือ จ.กำแพงเพชร โดยปรับขึ้นราว 200% เนื่องจากราคาไม่ได้ปรับมา 2 รอบบัญชีประเมิน แต่ราคาประเมินไม่ได้สูงมากเมื่อเทียบกับพื้นที่อื่น โดยราคาที่ดินต่อตารางวาอยู่ที่หลักหมื่นบาทเท่านั้น ส่วนพื้นที่ที่มีราคาประเมินสูงสุด ยังเป็นพื้นที่เดิม คือ ถนนราชดำริ บริเวณชิดลม และ สยามพารากอน โดยราคาตารางวาละ 9 แสนบาท ถึง 1 ล้านบาท


          ส่วนราคาประเมินที่ดินตามแนวรถไฟฟ้านั้น ในรอบนี้ ไม่ได้มีการปรับเพิ่มขึ้นมากขึ้นมากนัก เนื่องจากราคาได้ปรับขึ้นมาต่อเนื่อง โดยเฉลี่ยราคาเพิ่มขึ้นเพียง 8-10% เท่านั้น ด้านพื้นที่บริเวณเขต โครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก(อีอีซี)นั้น ราคายังปรับเพิ่มไม่มากนัก เนื่องจากการประเมินราคาที่ดินจะต้องเห็นโครงสร้างพื้นฐานในพื้นที่ก่อน ไม่เช่นนั้น จะเท่ากับเป็นการปั่นราคา แต่ขณะนี้โครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ยังเกิดขึ้นไม่มากนัก


          ทั้งนี้ ราคาประเมินที่ดินที่กรมธนารักษ์จะประกาศใช้ใหม่นั้น จะใช้ได้ในรอบ 4 ปี อย่างไรก็ตามในระหว่างปีที่ประกาศใช้ หากพื้นที่ใดมีการเปลี่ยนแปลงราคาอย่างมีนัยสำคัญ ก็สามารถที่จะปรับปรุงราคาใหม่ได้ โดยแต่ละพื้นที่จะทำการประเมินราคา โดยกรมธนารักษ์จะเป็นผู้ดูราคาภาพรวมให้เหมาะสม


          สำหรับการประเมินราคาที่ดินของกรมธนารักษ์รอบนี้ ที่จะประกาศใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2563 จะครอบคลุมที่ดิน 33 ล้านแปลงทั่วประเทศ ซึ่งจะทันเวลาที่มีการประกาศบังคับใช้ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างฉบับใหม่ ที่เปลี่ยนการจัดเก็บภาษีที่ดินจากภาษีโรงเรือนและที่ดิน แบ่งการจัดเก็บเป็น 4 กลุ่ม ตามประเภทการใช้ที่ดิน คือ ที่อยู่อาศัย เกษตร พาณิชยกรรมและ รกร้างว่างเปล่า


          กรมธนารักษ์คาดว่า ราคาประเมินที่ดินใหม่จะเปลี่ยนไปจากการประเมินรอบก่อน เนื่องจากราคาที่ดินเปลี่ยนแปลงไปมาก จากโครงการพัฒนาของรัฐ ประกอบกับจะมีการเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างในวันที่ 1 ม.ค.2563 นี้ด้วย


          มั่นใจเก็บรายได้เข้าเป้า
          นายอำนวย ปรีมนวงศ์ อธิบดีกรมธนารักษ์ กล่าวถึงผลการจัดเก็บรายได้ของกรมธนารักษ์ว่า ขณะนี้สามารถจัดเก็บรายได้ได้ 9.2 พันล้านบาท โดยคาดว่าทั้งปีงบประมาณ 2562 จะเก็บได้ตามเป้าหมายที่ 9.8 พันล้านบาท โดยรายได้ดังกล่าวเป็นผลจากการจัดเก็บจากการเช่าที่ราชพัสดุ และ การบริหารจัดการเหรียญกษาปณ์


          ทั้งนี้ในระยะ 5 ปีข้างหน้า กรมธนารักษ์มีแผนจะผลักดันให้เกิดการพัฒนาที่ราชพัสดุโดยภาคเอกชนคิดเป็นวงเงินลงทุนราว 7.2 หมื่นล้านบาท ในจำนวนนี้ จะเป็นการลงทุนร่วมกับภาคเอกชนหรือ PPP ประมาณ 3.8 หมื่นล้านบาท ที่เหลือเป็นการลงทุนโดยเอกชนรายใหญ่อีกกว่า 3 หมื่นล้านบาท และ อีกราว 4 พันล้านบาท เป็นการลงทุนสำหรับสัญญารายย่อยๆ


          ทั้งนี้ในปี 2562 นี้ กรมธนารักษ์ได้ผลักดันให้เกิดการลงทุนที่ราชพัสดุในโครงการใหญ่ๆ หลายโครงการ อาทิ โครงการก่อสร้างศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ มูลค่ากว่า 6 พันล้านบาท โครงการหมอชิตมูลค่ากว่า 2.6 หมื่นล้านบาท และโครงการโรงภาษีร้อยชักสาม มูลค่ากว่า 1.6 พันล้านบาท 
 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ