ข่าว

"ทริพเพิล ไอ" คุมคาร์โก้สายการบิน"กลุ่มแอร์เอเชีย"เบ็ดเสร็จ"

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"ทริพเพิล ไอ" สยายปีกธุรกิจขนส่งสินค้า คุมคาร์โก้สายการบิน "กลุ่มแอร์เอเชีย" เบ็ดเสร็จ         

           ทริพเพิล ไอ โลจิสติกส์ สยายปีกคุมคาร์โก้สายการบินกลุ่มแอร์เอเชียทั้งหมดหลังเข้าถือหุ้นเทเลพอต เอฟเวอรีแวร์ ผู้ให้บริการขนส่งสินค้าทางอากาศสัญชาติมาเลเซียในกลุ่มแอร์เอเชียและแอร์เอเชียเอ็กซ์ ในสัดส่วน 51 ต่อ 49 ส่งผลให้เทเลพอต (ไทยแลนด์) ที่ทริพเพิล ไอ ถือหุ้นใหญ่เข้าคุมกิจการเบ็ดเสร็จ เริ่ม 1 มกราคม 2563 พร้อมจัดแคมเปญใหญ่เซมเดย์แอร์เอเชีย “ส่งของได้ในวันเดียว” ทั่วเอเชีย

"ทริพเพิล ไอ" คุมคาร์โก้สายการบิน"กลุ่มแอร์เอเชีย"เบ็ดเสร็จ"

  ทิพย์ ดาลาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทริพเพิล ไอ โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) 

"ทริพเพิล ไอ" คุมคาร์โก้สายการบิน"กลุ่มแอร์เอเชีย"เบ็ดเสร็จ"

            ทิพย์ ดาลาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทริพเพิล ไอ โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ครบวงจรชั้นนำของไทยที่ให้บริการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศทั้งทางอากาศ ทางทะเลและทางบก การบริหารจัดการโลจิสติกส์ รวมทั้งการให้บริการโลจิสติกส์สำหรับสินค้าอันตรายและเคมีภัณฑ์ที่มีประสบการณ์มานานกว่า 25 ปี แถลงข่าวผลประกอบการไตรมาส 2/2562 ว่าบริษัทมีรายได้รวมทั้งสิ้น 711.8 ล้านบาทเพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 1.7 ซึ่งเป็นผลมาจากธุรกิจขนส่งทางอากาศและธุรกิจบริหารจัดการโลจิสติกส์

           ขณะที่เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสแรกของปีนี้รายได้รวมเพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 4.3 จากการเพิ่มของรายได้ธุรกิจขนส่งทางอากาศ ในขณะที่กลุ่มธุรกิจอื่นรายได้มีการปรับตัวลดลงเล็กน้อย ซึ่งเป็นไปตามภาพรวมมูลค่าการส่งออกและนำเข้าของประเทศไทยในช่วงไตรมาส 2/2562 ตามตัวเลขรายงานเศรษฐกิจและการเงินประจำเดือนมิถุนายน 2562 ธนาคารแห่งประเทศไทยติดลบที่ร้อยละ -5.8 และ -3.7 ตามลำดับ

"ทริพเพิล ไอ" คุมคาร์โก้สายการบิน"กลุ่มแอร์เอเชีย"เบ็ดเสร็จ"

         ในส่วนของกำไรสุทธิอยู่ที่ 50.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้วจำนวน 12.1 ล้านบาท และไตรมาสก่อนหน้า จำนวน 7.5 ล้านบาท ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากส่วนแบ่งกำไรที่เพิ่มขึ้นจากเงินลงทุนในกิจการร่วมค้าและบริษัทร่วมเดิม รวมถึงส่วนแบ่งกำไรจากการลงทุนใหม่ที่เกิดขึ้นในช่วงปี 2561 และในไตรมาส 2/2562 

        “ถ้าเป็นตัวเลขในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ก็ทำได้ดีกว่าเป้า เพราะแค่ครึ่งปีแรกธุรกิจโตขึ้น 45% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว แม้เศรษฐกิจโดยรวมไม่ค่อยเอื้ออำนวยเท่าไหร่ แต่ก็ทำได้เกินเป้าที่วางไว้  ที่จริงเราได้ประกาศไว้ตั้งแต่ต้นปีว่าบริษัทตั้งเป้าโตปีละ 20% ใน 3 ปี นับตั้งแต่ปี 2019 นี้เป็นต้นไปจนถึงปี 2021 เพียงแต่ว่าครึ่งปีนี้เราโตมาได้ 45% อย่างน้อยมั่นใจได้ว่าทั้งปีโตได้ไม่ต่ำกว่าเป้าที่วางไว้ แม้ปัจจัยภายนอกจะไม่ค่อยเอื้อเท่าไหร่ ต้องจับตาดูเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลังด้วย เพราะมีหลายปัจจัยเข้ามาเกี่ยวข้อง” บอสใหญ่ทริพเพิล ไอ โลจิสติกส์ วิเคราะห์ให้ฟัง   

"ทริพเพิล ไอ" คุมคาร์โก้สายการบิน"กลุ่มแอร์เอเชีย"เบ็ดเสร็จ"

          ทิพย์ ยอมรับว่า 6 เดือนแรกปีนี้ธุรกิจโตได้ถึง 45% เป็นเรื่องที่เกินความคาดหมายในบรรยากาศทางการค้าที่ค่อนข้างไม่เอื้ออำนวย ส่วนครึ่งปีหลังปกติจะเป็นช่วงไฮซีซั่นโดยพื้นฐานธรรมชาติวอลลุ่มโตขึ้น การขนส่งจะคึกคักมากกว่าครึ่งปีแรกเพราะมีช่วงเทศกาลสำคัญหลายๆ เทศกาลที่ผู้บริโภคมีความจำเป็นใช้บริการส่งสินค้า แต่ปีนี้ไม่ได้คาดหวังมากนักเนื่องจากยังไม่มีความชัดเจนหลายเรื่องไม่ว่าสภาพเศรษฐกิจโดยรวม สงครามการค้าจีน-สหรัฐ หรือเงินบาทที่แข็งค่าอย่างต่อเนื่อง

        “ครึ่งปีหลังมีหลายปัจจัยที่ส่งผลกระทบแต่เชื่อมั่นว่าเราจะเติบโตต่อไปได้ โดยวอลลุ่มเชื่อว่าควรจะดีกว่าครึ่งปีแรก ทั้งผลประกอบการของบริษัทในเครือ บริษัทย่อยหรือบริษัทที่เราเข้าไปซื้อกิจการมาในต่างประเทศน่าจะส่งผลตอบแทนที่ดีเพราะมีเป้าหมายที่ชัดเจน”

         อย่างไรก็ตาม ทริพเพิล ไอ โลจิสติกส์ ปัจจุบันมีการดำเนินงานใน 4 กลุ่มธุรกิจ ประกอบด้วย ขนส่งทางอากาศ  ขนส่งสินค้าทางทะเลและทางบก บริหารจัดการโลจิสติกส์และโลจิสติกส์สำหรับสินค้าอันตรายและเคมีภัณฑ์ โดยกลุ่มธุรกิจขนส่งทางอากาศเป็นกลุ่มธุรกิจที่สร้างรายได้หลักของบริษัท มีสัดส่วนรายได้ร้อยละ 73.6 ของรายได้ทั้งหมด ซึ่ง 6 เดือนแรกของปีนี้ บริษัททำรายได้อยู่ที่ 1,142 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันในปีก่อน 78.4 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 7.4 ซึ่งรายได้หลักมาจากการเข้าไปบริหารคาร์โก้การขนส่งสินค้าทางอากาศให้แก่สองสายการบินคือ ไทยแอร์เอเชียและไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ โดยมีการต่อสัญญาทุก 3 ปี

"ทริพเพิล ไอ" คุมคาร์โก้สายการบิน"กลุ่มแอร์เอเชีย"เบ็ดเสร็จ"

        อย่างไรก็ตามผลจากการประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ที่มีมติอนุมัติให้บริษัทเข้าซื้อหุ้นบริษัท เทเลพอต เอฟเวอรีแวร์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่มแอร์เอเชียมาเลเซีย เป็นผู้ให้บริการขนส่งทางอากาศของสายการบินแอร์เอเชียและแอร์เอเชีย เอ็กซ์ ทั้งหมด ประกอบด้วยแอร์เอเชียมาเลเซีย แอร์เอเชียอินโดนีเซีย แอร์เอเชียฟิลิปินส์ แอร์เอเชียอินเดีย แอร์เอเชียญี่ปุ่น และไทยแอร์เอเชีย ตลอดจนสายการบินอื่นในอนาคตของกลุ่มแอร์เอเชีย

            “ในส่วนของแอร์เอเชียชื่อเดิมเรดคาร์โก้ คือกลุ่มบริษัทบริหารคาร์โก้ให้แก่กลุ่มแอร์เอเชียทั้งหมด ตอนนี้เปลี่ยนชื่อเป็นเทเลพอต เอฟเวอรีแวร์ ถือหุ้น 100% ในแอร์เอเชียมาเลเซีย มีหน้าที่ในการบริหารคาร์โก้ทั้งหมดในทุกสายการบินในกลุ่มแอร์เอเชีย ของเรา ปัจจุบันทำให้สองสายการบินคือ ไทยแอร์เอเชียและไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์”

          ทิพย์แจงรายละเอียดต่อว่า หลังจากวันที่ 1 มกราคม 2563 เป็นต้นไปเทเลพอต (ไทยแลนด์) ที่มีบริษัท ทริพเพิล ไอ โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) เข้าไปถือหุ้นในเทเลพอต เอฟเวอรีแวร์ ในวัดส่วน 51 ต่อ 49   โดยเทเลพอตไทยแลนด์ด็จะทำหน้าที่บริหารคาโก้ให้แก่แอร์เอเชียทั้งหมด รวมไปถึงแอร์เอเชียมาเลเซียและแอร์เอเชีย เอ็กซ์ มาเลเซีย อินโดนีเซียแอร์เอเชีย อินโดนีเซียแอร์เอเชีย เอ็กซ์ ฟิลิปปินแอร์เอเชีย ซึ่งก็เท่ากับว่าทริพเพิลไอ โลจิสติกส์ได้เพิ่มมาทันที 5 สายการบิน รวมกับของเดิม 2 สายการบินเป็น 7 สายการบินที่เทเลพอตไทยแลนด์ต้องรับผิดชอบ

          “เขาจะดูเรื่องระบบ ราคา บริหารภาพรวมเป็นหลัก ส่วนการบริหารจัดการก็จะให้เราจัดการไป การเติบโตของธุรกิจในปีหน้าหลังทริพเพิล ไอ เข้าไปเทคเทเลพอตมาเลเซียแล้ว ธุรกิจน่าจะเกินกว่า 20% ซึ่งจากเดิมมีแค่ 2 สายก็เพิ่มเป็น 7 สายมีนัยพอสมควร ขณะนี้กำลังเตรียมโปรโมชั่นว้าวเซมเดย์เอเชียคือส่งของได้ในวันเดียวเพื่อเอาใจลูกค้า ส่วนราคาไม่แพงมาก อาจแพงกว่าทั่วไปเล็กน้อยเท่านั้น” 

   

             

         

        นอกจากนี้ในส่วนธุรกิจการขนส่งสินค้าทางทะเลและทางบก (Sea Freight and Inland Transport Business) ที่มีปริมาณการขนส่งสินค้ากลับมาเติบโตในอัตราไม่ต่ำกว่า 50% ล่าสุด บริษัทเซ็นสัญญาร่วมกับสายการเดินเรือ ริเชา (Rizhao Shipping Lines) ซึ่งเป็นสายการเดินเรือรัฐวิสาหกิจของเมืองริเชา อยู่ในมณฑลซานตง ทางตอนเหนือของประเทศจีน ให้บริการครอบคลุมในประเทศจีน (ริเชา, เซี่ยงไฮ้) เวียดนาม (โฮจิมินห์) และไทย (ท่าเรือแหลมฉบัง, ท่าเรือคลองเตย)

          อย่างไรก็ตามสำหรับกลุ่มธุรกิจของบริษัททั้ง 4 กลุ่มยังคงมุ่งเน้นในการรักษาฐานลูกค้าปัจจุบันและขยายฐานลูกค้าใหม่ที่เป็น Key Account เพื่อเป็นการเพิ่มปริมาณด้านการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศทั้งทางอากาศและทางทะเลรวมทั้งบริการโลจิสติกส์ที่เกี่ยวข้องและในส่วนของการให้บริการด้านคลังสินค้าทั้งสินค้าทั่วไปและสินค้าอันตรายยังคงมุ่งเน้นการเพิ่มความสามารถในการสร้างอัตราการทำกำไรต่อพื้นที่ให้บริการให้มากยิ่งขึ้นด้วย

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ