ข่าว

 "ปัญญาภิวัฒน์"แหล่งปั้นคนรุ่นใหม่สู่ผู้ประกอบการมืออาชีพ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

 "ปัญญาภิวัฒน์"แหล่งปั้นคนรุ่นใหม่ สู่ผู้ประกอบการ"เอสเอ็มอี"มืออาชีพ

            หลังจากประสบความสำเร็จจากงาน "วันแห่งโอกาสดี @ CP ALL” ณ ศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะ เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ล่าสุดซีพี ออลล์ เดินหน้าจัดงาน “วันแห่งโอกาสดี @ CP ALL” สัญจรทุกภูมิภาค ประเดิมจัดงานในภาคอีสาน ณ จ.ขอนแก่น เป็นไปตามปณิธานขององค์กรที่ต้องการสร้างสรรค์และแบ่งปันโอกาสให้ทุกคน ไม่ว่าจะเป็นโอกาสทางการศึกษา  โอกาสในการสร้างอาชีพ และสร้างโอกาสในการทำธุรกิจและสัมมนาให้ความรู้ด้านธุรกิจค้าปลีกและเอสเอ็มอี

 "ปัญญาภิวัฒน์"แหล่งปั้นคนรุ่นใหม่สู่ผู้ประกอบการมืออาชีพ

 

 
     "การจัดงาน “วันแห่งโอกาสดี @ CP ALL” สัญจรสู่ภูมิภาค เพื่อขยายผลการสร้างโอกาสที่ดีสู่ทั่วประเทศมากขึ้น"
   สุวิทย์ กิ่งแก้ว รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บมจ.ซีพี ออลล์และผู้ก่อตั้งร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ในประเทศไทย กล่าวตอนหนึ่งในพิธีเปิดงาน พร้อมให้เหตุผลในการประเดิมจัดงานในภาคอีสาน โดยเริ่มที่ จ.ขอนแก่น เป็นแห่งแรก ว่าขอนแก่นเป็นเมืองเศรษฐกิจที่มีขนาดใหญ่และตั้งอยู่ศูนย์กลางของภาคอีสาน ซึ่งเป็นไปตามปณิธานขององค์กรในการร่วมสร้างสรรค์และแบ่งปันโอกาสให้ทุกคน โดยมีกิจกรรมในการสร้างโอกาสที่หลากหลาย
       ไม่ว่าจะเป็น โอกาสทางการศึกษา จัดให้มีบูธรับสมัครนักเรียน นักศึกษาเพื่อศึกษาต่อระดับปวช. ปวส. ของวิทยาลัยเทคโนโลยีปัญญาภิวัฒน์ และระดับอุดมศึกษาในสถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์สาขาต่างๆ ได้แก่ บริหารธุรกิจ วิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยี ศิลปศาสตร์ นิเทศศาสตร์ นวัตกรรมการจัดการเกษตรและการจัดการโลจิสติกส์และการคมนาคมขนส่ง เป็นต้น 

 "ปัญญาภิวัฒน์"แหล่งปั้นคนรุ่นใหม่สู่ผู้ประกอบการมืออาชีพ
        ส่วน โอกาสทางอาชีพ ก็จะมีตำแหน่งงานจำนวนมากสาขาต่างๆ ของบิรษัทและในเครือรวมกว่า 35,000 อัตรา ขณะเดียวกันก็เป็น โอกาสทางธุรกิจ ที่มาขอคำปรึกษาสำหรับผู้ประกอบการเอสเอ็มอี และเกษตรกรที่สนใจจะนำสินค้ามาจำหน่ายในร้านเซเว่น อีเลฟเว่น และทเวนตี้โฟร์ช็อปปิ้ง อีกด้วย  
        ภาคภูมิ ซัวเกษม ผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักแนะแนว สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ (PIM) กล่าวในช่วงเสวนาพิเศษ “โอกาสทางการศึกษา” เรียนรู้จากประสบการณ์จริง ตอนหนึ่ง โดยระบุว่าสถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์มีการเรียนการสอนที่แตกต่างจากสถาบันากรศึกษาทั่วไป โดยจะเน้นการเรียนรู้จากประสบการณ์จริงควบคู่ไปกับการเรียนภาคทฤษฎีในห้องเรียน เพราะเราต้องการปั้นเด็กเหล่านี้สู่การเป็นผู้ประกอบการในอนาคต
             “รูปแบการเรียนการสอนเราจะเรียนแบบเรียนไปฝึกงานไป  บางแห่งฝึกงานแค่เทอมสุดท้ายหรือ 3-4 เดือนก่อนจบปี 4 แต่ที่นี่บางคณะบางสาขาจะเริ่มฝึกงานตั้งแต่ปี 1 เลย ใน 4 ปีจะมีการฝึกงาน 24 เดือน พูดง่ายๆ เรียน 2 ปี ฝึกงาน 2 ปี หรือครึ่งต่อครึ่ง”
             ภาคภูมิเผยต่อว่าจุดเด่นของสถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์นั้นไม่ใช่แค่มุ่งเน้นประสบการณ์จากการฝึกงานแก่ผู้เรียนเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีทุนการศึกษามากมาย พร้อมทั้งเบี้ยเลี้ยงขณะฝึกงานในบางคณะบางสาขาอีกด้วย โดยยกตัวอย่างคณะบริหารธุรกิจ คณะธุรกิจอาหารและคณะโลจิสติกส์ ซึ่ง 3 คณะนี้จะมีรายได้ระหว่างเรียนให้ด้วย
            “เป็นรายได้จากการลงร้านเซเว่นฯ จะมีรายได้ขั้นต่ำประมาณ 8 พันบาทต่อเดือน ในหนึ่งเทอมมี 6 เดือน 3 เดือนแรกไปฝึกงานตามสาขาที่น้องเลือกเรียน ทุกสาขาเราจะมีเบื้ยเลี้ยงให้เดือนละ 8 พันบาท นั่นหมายความว่าในหนึ่งเทอมน้องจะมีเงินใช้สองหมื่นสี่พันบาท” อาจารย์คนเดิมกล่าว
           พงษ์วิจักษณ์ ตันประเสริฐ ผู้จัดการภาคการศึกษา วิทยาลัยเทคโนโลยีปัญญาภิวัฒน์ กล่าวถึงการเรียนการสอนในระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ หรือ ปวช. ว่าวิทยาลัยมีหลักสูตรฐานสมรรถนะที่จะฝึกเด็กให้เป็นผู้ประกอบการมืออาชีพ โดยหลักสูตรดังกล่าวเมื่อนักเรียนสำเร็จการศึกษาจะมีความสามารถเทียบเท่าผู้ช่วยผู้จัดการร้าน โดยการเรียนการสอนจะเหมือนกับระดับอุดมศึกษาคือเรียนไปด้วยฝึกงานไปด้วย
             “สมมุติว่าเรามีนักเรียนเข้ามา 100 คน ก็จะแบ่งครึ่งกลุ่มหนึ่งอยู่กลุ่มเรียนก่อน อีกกลุ่มหนึ่งก็ไปทำงานก่อน  กลุ่มเรียนก็เรียนไป กลุ่มที่ทำงานก็ฝึกงานไป ลักษณะการเรียนแบบนี้มีข้อดีก็คือกลุ่มที่เรียนก็ไม่ต้องพะวงเรื่องการทำงาน กลุ่มทีี่ทำงานก็ไม่ต้องห่วงเรื่องอ่านหนังสือเตรียมสอบ หลังจากครบ 3 เดือนแล้วทั้งสองก็มาสลับกัน”
            พงษ์วิจักษณ์ เผยต่อว่าการเรียนในระดับนี้จะมีรายได้ระหว่างเรียนเช่นกัน เรียน 3 เทอมก็จบการศึกษา เมื่อจบแล้วบริษัทก็การันตีมีงานทำ 100% ที่สำคัญช่วงฝึกปฏิบัติงานนักเรียนจะมีรายได้ แต่ในส่วนปวช. จะคิดค่าตอบแทนเป็นเบื้ยเลี้ยงรายชั่วโมง ชั่วโมงละ 9 บาทในปีแรก เมื่อขึ้นปี 2 ชั่วโมงละ 32 บาท โดยรวมแล้วนักเรียนจะมีรายได้เฉลี่ย 5 พันบาทต่อเดือน แต่ส่วนใหญ่เด็กจะขยันก็จะมีรายได้เพิ่มเฉลี่ย 6-7 พันบาทต่อเดือน
             “เป็นธรรมดาคนไทยรักลูกมาก ลูกบางคนไม่เคยทำงานเลย เวลามาเจอสภาพทำงานจริงๆ บางคนก็ทำไม่ได้  แต่วิธีการเรียนการสอนของปัญญาภิวัฒน์เรามีจะให้มีการเตรียมตัวก่อนเข้าเรียนแล้วออกมาทำงาน เราจะมีหลักสูตรการสอนที่เรียกว่าพลัสเทรนนิ่ง ให้นักเรียนมาเรียนรู้ก่อน คือเรียนครึ่งหนึ่ง ฝึกงานครึ่งหนึ่ง ระหว่างเรียนก็มีรายได้ จบออกมาก็การันตีงานให้อีก” พงษ์วิจักษณ์ กล่าวถึงจุดเด่นของสถาบัน 
            ในส่วนของทุนการศึกษาระดับปวช.นั้น อาจารย์คนเดิมชี้แจงว่า นอกจากค่าเทอมที่ผู้เรียนไม่ต้องจ่าย 100% แล้วยังมีทุนต้นกล้าจ่ายให้เดือนละ 5 พันบาทตลอดหลักสูตรเพื่อช่วยเหลือนักเรียนที่ขาดแคลนทุนทรัพย์แต่มีความตั้งใจเรียนและครอบครัวยากจน หรือไม่มีใครมาให้ความช่วยเหลือสนับสนุน แต่การพิจารณาสำหรับผู้ได้รับทุนดังกล่าวจะลงลึกในรายละเอียด โดยจะมีเจ้าหน้าที่ไปสำรวจสภาพความเป็นอยู่ของครอบครัว รายได้ การเดินทางของนักเรียนคนดังกล่าวมาประกอบการพิจารณาของคณะกรรมการด้วย
              “เรามีทุนต้นกล้าเดือนละ 5 พันบาท ซึ่งถ้านักเรียนคนไหนอยู่ในเกณฑ์ยากจนและขาดแคลนก็สามารถรับทุนนี้ได้ อย่างปีนี้เราก็มีทั้งหมด 150 ทุนระดับปวช. เกณฑ์การพิจาณาก็จะมีเจ้าหน้าที่ลงไปดูพื้นที่สภาพบ้านเป็นยังไง รายได้ครอบครัวเป็นยังไง การเดินทางเป็นยังไงมาประกอบการพิจารณา แต่ในส่วนทุนการศึกษาที่เป็นค่าเรียนที่เราให้ 6,500 บาทต่อเทอมนั้น เราก็ทำสัญญากันว่าหลังจบการศึกษาจะต้องทำงานใช้ทุนให้เรา 1 ปี หลังจากนั้นนักเรียนก็ออกไปทำงานที่อื่นได้ แต่ส่วนใหญ่จะออกไปทำที่อื่นน้อยมากเพราะนักเรียนจะมีความก้าวหน้า มั่นคงอยู่แล้ว” พงษ์วิจักษณ์ สรุปทิ้งท้าย 
           

                       
 “ฝึกงานสลับเรียน”จุดเด่นปัญญาภิวัฒน์
         พรนภา สวัสดี หรือควีน ศิษย์เก่าสถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ สำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาตรีสาขานิเทศศาสตร์ เมื่อปี 2561  ซึ่งปัจจุบันเป็นเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ สังกัดกระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กล่าวถึงเหตุผลในการเข้ารับการศึกษาที่สถาบันแห่งนี้ เพราะได้รับทุนเจียระไนเพชร ซึ่งรับการยกเว้นค่าเล่าเรียนตลอดหลักสูตรหรือ 4 ปี โดยค่าเล่าเรียนต่อเทอมเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 3 หมื่นบาท ในขณะที่ผู้ได้รับทุนจ่ายเองเพียง 2,500 บาทเท่านั้น   

 "ปัญญาภิวัฒน์"แหล่งปั้นคนรุ่นใหม่สู่ผู้ประกอบการมืออาชีพ
        “ทุนนี้จะต้องดูที่เกรดด้วย เกรดเฉลี่ยแต่ละเทอมต้องไม่ต่ำกว่า 2.5 ถ้าต่ำกว่านี้ก็จะไม่ได้ ก็มีเพื่อนหลายคนหลุดไปเพราะเกรดไม่ถึง” พรนภา กล่าวถึงทุนที่ได้รับเมื่อครั้งยังศึกษาอยู่ที่สถาบันปัญญาภิวัฒน์ โดยยอมรับจุดเด่นของสถาบันแห่งนี้ นอกจากมีทุนให้นักศึกษาแล้วการเรียนการสอนยังมุ่งเน้นไปที่การฝึกงานเพื่อหาประสบการณ์ โดยตลอดระยะเวลา 4 ปีจะมีการฝึกงานทุกเทอมเทอมละ 3 เดือนในสถานที่หรือองค์กรที่แตกต่างกัน
      “จุดเด่นของที่นี่คือการฝึกงานเพื่อหาประสบการณ์ตลอดหลักสูตร จะเริ่มฝึกตั้งแต่ปี 1  เรียน 3 เดือน ฝึก 3 เดือน ข้อดีคือเมื่อเรียนภาคทฤษฎี 3 เดือนเสร็จก็นำความรู้ไปใช้ในการฝึกงานเลยจะได้ไม่ลืม เป็นแบบนี้ตลอด 4 ปี แต่ทุกหลักสูตรจะต้องไปฝึกที่ร้านเซเว่น 3 เดือน อย่างหนูจะไปฝึกที่ร้านเซเว่นตอนปี 3 แล้ว ขณะที่สถาบันอื่นส่วนใหญ่จะฝึกงานกันตอนปี 4 หรือเทอมสุดท้ายก่อนจบ” ศิษย์เก่าคนเดิมกล่าว
  

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ