กคช.จ้างเอกชนบิรการการขายโครงการเอื้ออาทร 8,521 หน่วย

              การเคหะแห่งชาติคิดนอกกรอบ จ้างเอกชนบริหารการตลาดและการขายอาคารคงเหลือโครงการบ้านเอื้ออาทร 8,521 หน่วยทั่วประเทศ เผยทดลองใช้แล้วผลลัพธ์ออกมาดีชัดเจน ส่วนอาคารคงเหลือกลุ่มที่ไม่ตอบโจทย์ลูกค้ากeาลังหารือขายหรือให้เช่าในราคาพิเศษกว่าปกติ
        

          ธัชพล กาญจนกูล ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ กล่าวถึงการแก้ปัญหาอาคารคงเหลือพร้อมขาย
โครงการบ้านเอnhออาทร จา นวน 8,521 หน่วยว่า การเคหะแห่งชาติจะแยกโครงสร้างฝ่ายการตลาดและขายออกเป็น 2 ส่วน คือ ฝ่ายการตลาดและฝ่ ายขาย โดยฝ่ายการตลาดมีหน้าที่วิจยัและชี้เป้ากลุ่มเป้าหมาย ส่วนฝ่ายขายทำหน้าที่ในการขายให้กับกลุ่มเป้าหมายโดยตรง ซึ่งจะทำาให้เห็นภาพชัดขี้นและแก้ปัญหาของแต่ละฝ่ายได้ง่ายขึ้น
             ที่สำคัญ การเคหะแห่งชาติเตรียมเปิดให้บุคลากรภายนอกเข้ามาช่วยบริหารงานการตลาดและ
การขายอีกส่วนหนึ่ง หลังจากทดลองให้เข้ามาช่วยงานขายมาได้ระยะหนึ่งแล้วและมีแนวโน้มที่ดี
               “เขาขายได้ในปริมาณที่เราพอใจ แถมยังจัดการเรื่องการจัดหาแหล่งสินเชื่อเงินกู้ให้ลูกค้า ดูแลจนได้รับการอนุมัติในสัดส่วนที่ค่อนข้างสูง พิจารณาจากผลงานแล้วมั่นใจว่าจะช่วยเร่งรัดการขายหน่วยคงเหลือให้การเคหะแห่งชาติได้เร็วขึ้น” ดร.ธัชพลกล่าว
          นอกจากนั้นเพื่อจูงใจลูกค้า การเคหะแห่งชาติยังปรับกระบวนการปรับปรุงหน่วยที่อยู่อาศัยที่ลูกค้า
มีความต้องการจะซื้อใน 2แนวทางคือแนวทางแรก ให้ส่วนลดกับลูกค้า เพื่อให้ลูกค้าปรับปรุงที่อยู่อาศัยเองแนวทางที่สอง การเคหะแห่งชาติปรับปรุงที่อยู่อาศัยให้เดิมทีมีหลายขั้นตอน ดังนั้นจะให้บุคคลภายนอกที่มาช่วยขายรับไปดำเนินการด้วยอีกส่วนหนึ่ง ซึ่งสามารถดำเนินการได้รวดเร็วกว่า
            “ต้องยอมรับว่าอาคารคงเหลือมีสภาพที่ค่อนข้างทรุดโทรม ดังนั้นทางออกในการปรับปรุงจึงต้อง
ดำเนินการด้วยความรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นการให้ส่วนลดลูกค้าโดยตรงหรือให้หน่วยช่วยขายจากภายนอกรับไปดำเนินการให้โดยเราประเมินราคารวมท้งัตรวจสอบคุณภาพผู้รับจ้าง”
          สำหรับหน่วยคงเหลือพร้อมขายโครงการบา้นเอื้ออาทร 8,521 หน่วยนั้นการเคหะแห่งชาติแบ่งเป็น
กลุ่มสีเขียวที่มีโอกาสขายได้ง่ายกว่าจำนวน 308 โครงการ 3,851 หน่วย คิดเป็น 45% ของหน่วยคงเหลือ
ทั้งหมดโดยพื้นที่ปริมณฑล มีหน่วยคงเหลือมากที่สุด 2,053 หน่วยจาก 80 โครงการคิดเป็น 53% ของหน่วยคงเหลือสีเขียว
             อีกกลุ่มเป็นหน่วยคงเหลือสีแดง 4,670 หน่วยจาก17 โครงการ โดยพ้ืนที่ปริมณฑลมีหน่วยคงเหลือมากที่สุด 91% หรือ 4,232 หน่วย
     

    “อาคารกลุ่มสีแดงตอบโจทย์การขายได้ยากมาก ทั้ทำเลความต้องการ ขนาดและประเภทที่อยู่
อาศัย ถ้าขายตามราคาเดิมยังไงก็ขายไม่ออก คงต้องขายหรือให้เช่ายกล็อต โดยมีส่วนลดมากกว่าปกติ เรากำลังหารืออยู่ เพื่อผลักดันให้ขายออกไปให้หมด ลดภาระการเคหะแห่งชาติไปในตัวด้วย”ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติกล่าว