เตือน! คนรถไฟเร่งปิดดีลรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน

            เตือนคนรถไฟเร่งปิดดีลรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินส่อเอื้อเอกชนอย่างเห็นได้ชัด ชี้ซี.พี.ยื่นข้อเสนอผิดเงื่อนไขทีโออาร์ตั้งแต่แรก  ชี้สุ่มเสี่ยงที่ทำให้เกิดปัญหาตามมาในอนาคต

             แหล่งข่าวจากกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงกรณีที่ คณะกรรมการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) เร่งเจรจาเพื่อปิดดีลสัมปทานกับกิจการร่วมค้าบริษัท เจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้ง จำกัด (ซี.พี.) โดยทางบริษัทเอกชนยอมปลดเงื่อนไข ข้อเสนอที่อยู่นอกกรอบทีโออาร์ ( RFP  ) ทั้ง 12 ข้อ และคาดว่าจะสามารถนำเสนอบอร์ดอีอีซี และลงนามในสัญญาโครงการให้ได้ภายในเดือนพฤษภาคมนี้ ว่า

             แม้การรถไฟและคณะกรรมการเจรจา จะได้ข้อยุติในเรื่องของการปลดล็อคเงื่อนไขข้อเสนอนอกกรอบทีโออาร์ และมติคณะรัฐมนตรี(ครม.)ทั้ง 12 ข้อ แต่การที่การรถไฟดำเนินการเปิดเจรจากับกลุ่มบริษัทอกชนรายดังกล่าวทั้งที่เอกชนยื่นข้อเสนอเข้ามาผิดเงื่อนไขทีโออาร์ตั้งแต่แรกนั้น ถือเป็นความเสี่ยงที่อาจทำให้โครงการนี้ถูกหยิบยกขึ้นร้องต่อองค์กรที่ทำหน้าที่ตรวจสอบอย่างคณะกรรมการ ป.ป.ช.ในภายหลังได้ทุกเมื่อ เพราะถือเป็นการเจรจาเอื้อประโยชน์ต่อบริษัทเอกชนที่ยื่นข้อเสนอเข้ามาผิดเงื่อนไขทีโออาร์ตั้งแต่แรก

              “แม้จะอ้างว่า บริษัทผ่านคุณสมบัติเบื้องต้นและคุณสมบัติด้านเทคนิค แต่การที่บริษัทยื่นข้อเสนอเงื่อนไขทางการเงินและเงื่อนไขอื่น ๆ ที่ผิดเงื่อนไขทีโออาร์ตั้งแต่แรก การถไฟฯย่อมไม่สามารถจะเปิดการเจรจากับบริษัทได้แต่แรกอยู่แล้ว แต่จะต้องเรียกผู้เสนอราคาอีกรายเข้ามาเจรจาแทน ดังนั้นผลการเจรจาที่ได้ล่าสุดนั้น จึงสุ่มเสี่ยงที่จะถูกฟ้องร้องตามมา เพราะถือเป็นการเอื้อประโยชน์ต่อเอกชน”

                แหล่งข่าว กล่าวอีกว่า ฝ่ายบริหารการรถไฟฯ ต่างมีประสบการณ์จากการดำเนินโครงการระบบทางรถไฟและถนนยกระดับโฮปเวลล์มาก่อนแล้ว ซึ่งมีการจัดตั้งสัญญาที่หละหลวม ไม่มีความชัดเจน จนเป็นเหตุให้ต้องมีการจัดตั้งคณะทำงานขึ้นเจรจาเงื่อนไขตามสัญญาในภายหลังกันหลายชุด จนทำให้ในท้ายที่สุดไม่สามารถจะดำเนินโครงการต่อไปเพราะความไม่ชัดเจนของสัญญาที่มี  

         "โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน  การที่ รฟท.เร่งรัดเจรจากับบริษัทเอกชนในสัญญาหลักๆไปก่อน ส่วนรายละเอียดค่อยมาพิจารณา ในภายหลังนั้น ย่อมสุ่มเสี่ยงที่ทำให้เกิดปัญหาตามมาในอนาคตอย่าลืมว่าสัมปทานโครงการนี้มีอายุถึง 50 ปี หากจะต้องมีการมาตีความตัวสัญญาและเงื่อนไขต่างๆกันในภายหลังจะก่อให้เกิดปัญหาในการบริหารและกำกับดูแลโครงการตามมาอย่างแน่นอน"แหล่งข่าวคนเดิมตั้งข้อสังเกตุ