ข่าว

อพท. เร่งขยายผลอนุสัญญาฯสู่มิติการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

อพท. เร่งขยายผลอนุสัญญาฯสู่มิติการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน

 

             อพท.ต่อยอดความร่วมมือ อนุสัญญาว่าด้วยการสงวนรักษามรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ เร่งพัฒนาบุคลากร เพื่อขยายผลสู่การประยุกต์ใช้ความร่วมมือครั้งนี้ ให้เกิดประโยชน์ในมิติการท่องเที่ยวของไทย

 

             ดร. ชูวิทย์ มิตรชอบ รองผู้อำนวยการองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) หรือ อพท.  กล่าวว่า  ตามที่รัฐบาลนำประเทศไทยเข้าร่วมเป็นภาคีอนุสัญญาว่าด้วยการสงวนรักษามรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ ค.ศ.2003 (หรือปี พ.ศ. 2546)  โดยประเทศไทยได้เข้าร่วมอนุสัญญาในปี พ.ศ. 2559 เพื่อเป็นการส่งเสริมและรักษามรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติทั้งในระดับประเทศและระดับสากล  ซึ่งมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้เหล่านั้นส่วนใหญ่ล้วนกระจายอยู่ในชุมชนต่างๆทั่วประเทศ  ไม่ว่าจะเป็นประเพณี วัฒนธรรม ภูมิปัญญาพื้นบ้าน นิทานพื้นบ้าน การละเล่นพื้นบ้าน  ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นอัตลักษณ์ที่โดดเด่น ที่ อพท. สามารถแนะนำให้ชุมชนได้พัฒนาสู่การเป็นกิจกรรมทางการท่องเที่ยว หรือจุดขายทางการท่องเที่ยวได้ทั้งสิ้น

             จากภารกิจหน้าที่ ที่ อพท. ได้รับมอบหมายจากสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ซึ่งเป็นหน่วยงานกลางในการจัดทำแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ ให้ อพท. เป็นหน่วยงานเจ้าภาพหลักในเรื่องการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์และวัฒนธรรม โดยใช้องค์ความรู้และนวัตกรรม ผนวกกับจุดแข็งในด้านความหลากหลายในเชิงวิถีชีวิตและมรดกภูมิปัญญา เพื่อสร้างสรรค์คุณค่าและมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้า รวมถึงการพัฒนากิจกรรมและบริการด้านการท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ๆ บนฐานของทุนทางวัฒนธรรมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะถิ่น ที่จะตอบสนองพฤติกรรม ความต้องการนักท่องเที่ยว และสร้างทางเลือกของประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับนักท่องเที่ยว

              ด้วยเหตุผลดังกล่าว อพท. จึงเห็นความสําคัญ และความจําเป็นที่จะดําเนินการพัฒนาศักยภาพบุคลากร จึงได้จัดกิจกรรมเชิงปฏิบัติการ "ภาคีเครือขายเพื่อพัฒนาศักยภาพบุคลากรสูการทองเที่ยวอยางยั่งยืน ด้านมิติมรดกภูมิปญญาทางวัฒนธรรม หรือ Intangible Cultural Heritage (ICH)" ให้ความรู้แก่บุคคลากรและภาคีเครือข่าย โดยได้บูรณาการร่วมกับภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้องทั้งในระดับชาติ และนานาชาติ อาทิ กรมส่งเสริมวัฒนธรรม สถาบันไทยคดีศึกษา มหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร์ และ UNESCO ในการขับเคลื่อนการท่องเที่ยวที่ยั่งยืนในพื้นที่พิเศษของ อพท.และเขต พัฒนาการท่องเที่ยวทั้ง 9 เขต

             "กิจกรรมครั้งนี้ อพท. คาดหวังสร้างความตระหนัก และความรับรู้ ความเข้าใจ ให้แก่ผู้เข้าร่วมการอบรม ในเรื่องอนุสัญญาว่าด้วยการสงวนรักษามรดกวัฒนธรรมที่จับ ต้องไม่ได้ ค.ศ. 2003  เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมให้บุคลากรเหล่านี้ ได้สามารถนําหลักการระดับสากลไปใช้ส่งเสริมและรักษามรดกภูมิ ปัญญาทางวัฒนธรรมในมิติเรื่องของการท่องเที่ยวได้ต่อไป"

             สำหรับของดีที่เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของชุมชนในพื้นที่พิเศษของ อพท. เช่น  การทอผ้าพื้นเมือง สูตรอาหารท้องถิ่น ความรู้เรื่องการปั้นการหล่อพระพุทธรูป การละเล่นพื้นบ้าน เป็นต้น

      

              อย่างไรก็ตาม การทำงานของบุคลากรของ อพท. คือต้องทำงานใกล้ชิดกับชุมชนในพื้นที่ต่างๆ  อพท. จึงให้ความสำคัญที่จะต้องสร้างความรู้ความเข้าใจ และพัฒนาศักยภาพแก่บุคลากรเป็นอันดับแรก   ซึ่งหลายองค์กรเริ่มนำอนุสัญญาว่าด้วยการสงวนรักษามรดกวัฒนธรรม ไปใช้ประโยชน์ในมิติต่างๆ อพท. ในฐานะองค์กรที่ทำงานด้านการพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน จึงใช้โอกาสความร่วมมือครั้งนี้ นำอนุสัญญาดังกล่าวมาใช้ในมิติเรื่องของการท่องเที่ยวให้เกิดประโยชน์เช่นกัน

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ