ข่าว

 ขยะพิษกทม.29ตัน/วัน  คพ.เพิ่มจุดทิ้ง4พันแห่ง

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

 ขยะพิษกทม.29ตัน/วัน  คพ.เพิ่มจุดทิ้ง4พันแห่ง

  

กรมควบคุมมลพิษ-เอกชน จับมือสร้างจุดทิ้งขยะอันตรายใน กทม.เพิ่มขึ้นเกือบ 4 พันแห่ง เผยกทม.สร้างขยะพิษ 29 ตันต่อวัน เร่งอำนวยความสะดวกให้ประชาชนแยกทิ้งของเสียอันตรายจากชุมชน เล็งขยายให้ครอบคลุมพื้นที่ต่างจังหวัดปีต่อไป

นางสุณี ปิยะพันธุ์พงศ์ อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า ของเสียอันตรายจากบ้านเรือนและชุมชน ซึ่งเป็นของเสียของเหลือใช้ที่เสื่อมสภาพและภาชนะบรรจุจากผลิตภัณฑ์ที่มีหรือปนเปื้อนด้วยสารอันตรายประเภทต่างๆ ทั้งสารพิษ สารกัดกร่อน สารไวไฟ เป็นต้น มีจำนวนประมาณ 618,749 ตัน เป็นซากผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ ร้อยละ 65 ของเสียอันตรายจากชุมชนประเภทอื่นๆ ร้อยละ 35 โดยแต่ละคนก่อให้เกิด ของเสียอันตราย 7.1 กก.ต่อคนต่อปี

โดย กทม.มีปริมาณของเสียอันตรายประมาณ 29 ตันต่อวัน ปี 2560 จัดเก็บรวบรวมได้ 993 ตัน ของเสียที่เกิดขึ้นดังกล่าว ถูกทิ้งปะปนไปกับขยะมูลฝอยทั่วไปและทำให้เกิดปัญหากับสุขภาพและสิ่งแวดล้อมการทิ้งลงพื้นดิน ทิ้งรวมกับขยะมูลฝอยทั่วไปทิ้งลงท่อระบายน้ำหรือเผา จะทำให้เราได้รับสารอันตรายเข้าสู่ร่างกายได้ทั้งทางตรงโดยการสัมผัสทางผิวหนัง การหายใจรับไอระเหย และการกินอาหารที่ปนเปื้อน เป็นต้น และทางอ้อม โดยสารพิษที่มีอยู่ในของเสียอันตรายจะแพร่กระจายและสะสมอยู่ในสิ่งแวดล้อมและห่วงโซ่อาหารจนในที่สุดกลับมาสู่ตัวเราได้

ทั้งนี้ คพ.ได้จัดโครงการประชารัฐร่วมใจ แยกทิ้งขยะอันตราย ที่ได้ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2560 เป็นความร่วมมือระหว่างภาครัฐกับภาคเอกชน เช่น ศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า ปั๊มน้ำมัน ร้านสะดวกซื้อ เป็นต้น มีเป้าหมายในการเพิ่มช่องทางอำนวยความสะดวกให้ประชาชนในพื้นที่ กทม. สามารถแยกทิ้งของเสียอันตรายจากชุมชน ซึ่งนำร่อง 5 ประเภท ได้แก่ แบตเตอรี่มือถือ ซากโทรศัพท์มือถือ ถ่านไฟฉาย หลอดฟูออเรสเซนต์ และภาชนะปนเปื้อนที่เป็นอันตราย อาทิ กระป๋องสเปรย์ สามารถนำไปทิ้งได้ที่จุดทิ้งของเสียอันตราย เพื่อให้ กทม.เก็บรวบรวมนำไปกำจัดอย่างถูกต้อง 

โดยมีจุดรวบรวมของเสียอันตรายจากชุมชนใน กทม. เพิ่มขึ้นจำนวน 3,815 แห่ง และมีแผนงานขยายครอบคลุมพื้นที่ต่างจังหวัดในปีต่อไป ซึ่งผู้ที่ประสงค์จะทิ้งขยะอันตราย สามารถนำไปทิ้งได้ ณ จุดทิ้งของเสียอันตรายที่กำหนดและจุดที่มีสัญลักษณ์โครงการ

 

ที่มา  กรุงเทพธุรกิจ

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ