ข่าว

ไทยอยู่นอกจานเรดาร์ในกรุงวอชิงตัน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

กรุงวอชิงตัน-ไทยเป็นพันธมิตรสหรัฐอเมริกา มีความสัมพันธ์กันมายาวนานถึง 178 ปี แต่พอมาถึงเมืองหลวงที่นี่ รู้สึกได้ทันทีว่าไม่มีใครสนใจแมืองไทย หรือในภาษาการทูต เขาบอกว่า ไทยเราไม่ได้อยู่ในจานเรดาร์ ขณะนี้ประเทศเนื้อหอมอยู่ในเรดาร์คือ อินโดนีเซีย เวียดนาม แ

 แปลกเหมือนกัน ไทยกับสหรัฐอเมริกาเป็นเพื่อนกันมานาน สองประเทศยังเป็นพันธมิตรกันมานมนาน มากกว่าครึ่งศตวรรษ แต่ไม่เห็นมีอะไรพิเศษ ที่น่าสนใจคือเวลาบรรดาผู้กำหนดนโยบายสหรัฐอเมริกามองเมืองไทยจากหอคอยที่นี่ ยังเห็นว่าการเมืองไทยยังไม่นิ่งมีปัญหาแน่นอน ควรนั่งบนรั้ว เฝ้าดูไปเรื่อย (เป็นมาหลายปี) รอจนกว่าสถานการณ์การเมืองไทยจะชัดเจนขึ้น โดยเฉพาะในตอนนี้ ยังต้องรอดูว่า จะมีการเลือกตั้งหรือเปล่า ท่าทีสหรัฐอเมริกาเป็นแบบนี้มานานแล้ว

 น่าเสียดาย ทั้งรัฐบาลสหรัฐอเมริกาและสภาคองเกรสมีแนวความคิดนี้ในลักษณะแบบนี้เช่นกัน ที่ร้ายที่สุดคือภายในสภาคองเกรส นักการเมืองอเมริกันมีทัศนคติต่อไทยก็ไม่ค่อยดี เห็นแต่ปัญหาเต็มไปหมด โดยเฉพาะเรื่องละเมิดสิทธิมนุษยชน ตัวอย่างเช่น ปลายปีนี้ จะมีรายงานประจำปีเกี่ยวกับการค้าและลักพามนุษย์ในไทย โดยเฉพาะในประเด็นที่เกี่ยวกับการว่าจ้างแรงงานพม่าในธุรกิจประมงทั้งหลาย ซึ่งตอนนี้ต้องยอมรับว่าไทยเรา มีชื่อเสียงไปในทางเลวมากๆ เพราะมีโทรทัศน์ช่องซีเอ็นเอ็นและบีบีซีได้ทำรายงานพิเศษเกี่ยวกับเรื่องนี้พร้อมกันทั้งสองสถานี

 น่าแปลกใจไหม? ทั้งๆ ที่สองประเทศมีประวัติศาสตร์สายสัมพันธ์การทูตอันยาวนาน รัชกาลที่ 3 เคยเสนอส่งช้างผือกไปให้ประธานาธิบดีคนที่สองคือบุเคนอนสู้สงคราม แต่มาดูความเป็นจริงในปัจจุบัน คือ คนไทยยังไม่มีได้รับการยกเว้นวีซ่า พาสปอร์ตสหรัฐสามารถเข้ามาไทยได้สามเดือนไม่ต้องมีวีซ่า แต่สำหรับไทยต้องขอวีซ่าเข้าประเทศเป็นคนๆ ไป รู้หรือเปล่าว่าไทยสามารถเข้ารัสเซียโดยไม่ต้องมีวีซ่า ทั้งสองประเทศไม่เคยเป็นพันธมิตรกัน แถมในช่วงสงครามเย็น รัสเซียยังเคยศัตรูไทยเพราะสนับสนุนประเทศคอมมิวนิสต์ในอินโดจีน

 ถึงเวลาแล้ว ต้องทบทวนความเป็นพันธมิตรไทย-สหรัฐอเมริกา ถ้าไม่มีความจำเป็นหรือไม่มีประโยชน์ก็ควรจะเลิกมันเสียให้รู้แล้วรู้รอด เก็บเอาไว้ทำไม เจ็บปวดหัวใจเปล่าๆ เพราะไม่สามารถทำประโยชน์อะไรได้ในระดับทวิภาคีหรือในรูปกรอบพหุภาคี มีแต่เป็นอุปสรรคเพราะทั้งสองประเทศมีความคาดหวังในรูปพันธมิตรที่ไม่สามารแปรสภาพเป็นความจริงได้

 กองทัพไทยไม่ได้ใช้ประโยชน์ความเป็นพันธมิตรกับสหรัฐอเมริกาให้คุ้มค่า มีแต่รอว่าสหรัฐอเมริกาจะให้อะไร ไม่เคยความริเริ่มทางยุทธศาสตร์ใหม่ๆ ที่สามารถสร้างความสนใจให้แก่กระทรวงกลาโหมที่นี่ คอบราโกลด์ก็ฝึกกันไปทุกปี พูดไปอายชาวบ้านเขา ยกตัวอย่างสิงคโปร์ไม่เห็นต้องเป็นพันธมิตรหรือมีฐานะอะไรแบบไทยเป็นพิเศษ แต่สัมพันธ์สหรัฐกับสิงคโปร์นั้นดีเยี่ยมที่สุดในเอเชียอาคเนย์

 ผู้นำกองทัพไทยชุดนี้น่าจะรู้ว่าจะทำอย่างไรถึงจะอยู่ในเรดาร์กรุงวอชิงตัน

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ