ข่าว

"กมม.”อ้างคนกรุงใช้สิทธิน้อยเหตุให้แพ้ยับ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

"กมม.”อ้างคนกรุงเทพใช้สิทธิน้อยเป็นสาเหตุให้แพ้ยับ ยอมรับสมัครครั้งแรก ยังไม่มีผลงาน แถมเจอการเมืองเก่าอัดเงิน-โจมตีสารพัด ยันเดินหน้าเลือกตั้งใหญ่-ผู้ว่าฯ

(29ส.ค.) เวลา 19.45 น. คณะผู้บริหารพรรคการเมืองใหม่ นำโดยนายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการพรรค นายสำราญ รอดเพชร โฆษกกมม. นายพิเชษฐ พัฒนโชติ ผ.อ.ศูนย์เลือกตั้งสก.และสข. ร่วมกันแถลงข่าวหลังการประชุมนานกว่า 2 ชั่วโมง โดยนายสำราญ กล่าวว่า ขอขอบคุณประชาชนชาวกทม.ที่ออกมาใช้สิทธิแม้จะไม่มากพอที่จะทำให้ผู้สมัครของพรรคได้รับเลือกตั้ง แต่ทุกคะแนนเสียงจะเป็นพลังใจให้พรรคและผู้สมัครที่จะทำงานการเมืองรับใช้ประชาชนต่อไป ขอชื่อชมจิตใจเสียสละของผู้สมัครทุกคน แต่พรรคการเมืองใหม่ลงสมัครครั้งแรกยังไม่มีผลงานที่เพียงพอ และไม่มีคะแนนเสียงจัดตั้งรวมทั้งผู้ออกมาใช้สิทธิน้อยกว่าครั้งที่ผ่านมา

 ถ้ามีผู้ใช้สิทธิ 60 - 70 เปอร์เซนต์ พรรคจะมีโอกาสมากกว่านี้ อย่างไรก็ตามขอตั้งข้อสังเกต 3 ประการ ดังนี้ 1 .ประชาชนใช้สิทธิน้อยเกินคาดน้อยกว่าครั้งที่แล้ว พลังเงียบไม่ออกมาใช้สิทธิ 2 .กมม.ลงครั้งแรกไม่มีผลงาน คะแนนที่ได้รับจึงเป็นคะแนนบริสุทธิ์ และ 3 .พรรคเผชิญกับรูปแบบการหาเสียงแบบเก่าที่มีการใช้เงินและการสร้างวาทกรรมการเมืองแบบเก่า อย่างไรก็ตามแม้จะไม่ประสบความสำเร็จตามเป้า แต่กมม.มีความภูมิใจที่ได้พิสูจน์ว่าเราไม่ซื้อเสียง และได้ประกาศนโยบายหลายๆด้าน หลังจากนี้พรรคจะนำประสบการณ์ครั้งนี้พรรคจะนำบทเรียนเพื่อเฟ้นหาผู้สมัครลงรับเลือกตั้งทั่วไปหากมีการยุบสภา และเลือกผู้ว่าฯกทม.ในอีก 2 ปีข้างหน้า

 ด้านนายพิเชฐ พัฒนโชติ ผ.อ.ศูนย์เลือกตั้ง กล่าวว่า แม้ว่าผู้สมัครของพรรคจะไม่ได้รับเลือกตั้งแต่ทุกคนยืนยันว่าจะต่อสู้ทางการเมืองต่อไป การแข่งขันครั้งนี้ทำให้เราได้เรียนรู้การเมืองที่เป็นจริงมากขึ้น ทั้งนี้ยืนยันว่ากมม.ไม่ได้เป็นตัวตัดคะแนนพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมกันนี้ขอตั้งข้อสังเกตไปยังกกต.ว่าการจัดเลือกตั้งวันอาทิตย์ทำให้ประชาชนในเขตเมืองเช่น สัมพันธวงศ์ ที่ไปซื้อบ้านอยู่ชานเมืองไม่มาลงคะแนน

 นายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการพรรค กล่าวว่า คะแนนที่ออกมาแสดงให้เห็นว่าการแข่งขันครั้งนี้วัดกันที่เสียงจัดตั้งของแต่ละฝ่าย แต่คนอีก 60 เปอร์เซนต์ ไม่เห็นความสำคัญต่ออนาคตของชาวกทม. ดังนั้นคะแนนที่ออกมาไม่สะท้อนเจตจำนงค์ของประชาชนในระดับชาติ จึงถือว่ายังมีโอกาสที่เปิดกว้างสำหรับพรรคการเมืองใหม่ที่จะเสนอตัวทำงานการเมืองต่อไป ไม่มีคำว่าแพ้สำหรับผู้ที่ต้องการเปลี่ยนแปลงสังคม

logoline
แท็กที่เกี่ยวข้อง

ข่าวที่น่าสนใจ