ข่าว

อากาศร้อนจัด!ปลากระชังตายเกลื่อน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เกษตรกรผู้เลี้ยงปลากระชังเดือดร้อนหนัก! หลังอากาศร้อนจัดทำปลาตายนับหมื่นตัว เสียหายกว่า 600,000 บาท วอนขอหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงให้คำปรึกษาแก้วิกฤต

 
          9 มีนาคม 2558 สภาพอากาศที่แห้งแล้งและร้อนจัดในช่วงนี้ ส่งผลทำให้หลายพื้นที่ได้ประสบปัญหาภัยแล้ง ทำให้ปลาเก๋าที่เกษตรกรเลี้ยงไว้ในกระชังริมคลองสิเกาบ้านพรุจูด ต.บ่อหิน อ.สิเกา ตายลงเป็นจำนวนมาก เนื่องจากอากาศร้อนจัดกว่าทุกปีที่ผ่านมา ส่งผลทำให้ปริมาณน้ำในคลองสิเกา ซึ่งอยู่ติดชายฝั่งทะเลมีค่าปริมาณความเค็มเพิ่มสูงขึ้น จนทำให้ปลาในกระชัง โดยเฉพาะปลาเก๋าตายวันละประมาณ 30-40 ตัว นับจากเดือนมกราคมจนถึงต้นเดือนมีนาคม รวมกว่า 10,000 ตัว 
 
          ซึ่งปลาเก๋าจะจำหน่ายตามท้องตลาดกิโลกรัมละ 230 - 250 บาท ทำให้ผู้เลี้ยงสูญเสียรายได้ไปแล้วเป็นจำนวนเงินกว่า 600,000 บาท ซึ่งหากปลาโตเต็มวัยที่จับขายโดยทั่วไปมีน้ำหนักตั้งแต่ประมาณ 1 กิโลกรัม ถึง 2 กิโลกรัม ทำให้เกษตรกรขาดรายได้ในส่วนนี้ไปแล้วไม่ต่ำกว่า 2 ล้านบาท
 
          นายวรุฒ อัตกลับ เกษตรกรเลี้ยงปลากระชังบ้านพรุจูดบ่อหินฟาร์มสเตย์ ม.2 บ้านพรุจูด ต.บ่อหิน อ.สิเกา จ.ตรัง กล่าวว่า สำหรับฤดูแล้งปีนี้เกษตรกรที่เลี้ยงปลากระชังริมคลองสิเกา ซึ่งมีประมาณ 15 ราย ที่เลี้ยงปลาเก๋า ปลาช่อนทะเล และปลากะพง ต่างก็จะเจอวิกฤตหลายๆอย่างมากกว่าทุกปีที่ผ่านมา เนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนจัดกว่าทุกปี 
 
          โดยปัญหาเริ่มประสบมาตั้งแต่เดือนมกราคม เริ่มจากปลาช่อนทะเลที่เลี้ยงไว้น้ำหนักประมาณ 400-500 กรัม ได้น็อคน้ำตาย พอมาถึงช่วงเดือนกุมภาพันธ์เป็นรอยต่อของสภาพอากาศจากฤดูหนาวมาเป็นฤดูร้อน ก็ทำให้ปลาเก๋าหรือปลากะรัง เกิดอาการน๊อคน้ำตายลงทุกวัน และถือว่ารุนแรงกว่าทุกปีที่ผ่านมา เพราะปีที่ผ่านมา ปลาเก๋าตัวขนาดนี้ไม่ได้รับผลกระทบในช่วงหน้าแล้ง 
 
          ทั้งนี้ น่าจะเกิดจากปริมาณน้ำในคลองลดลงและอากาศร้อนจัด ตอนนี้ตายไปแล้วนับหมื่นตัว แต่ละตัวนำหนักประมาณ 300- 400 กรัม จะมีรอยบาดแผลเล็กๆบริเวณครีบหูครีบหางจะมีการสึกกร่อน ถ้าดูจากอาการแล้วก็เหมือนอาการติดเชื้อบางชนิด ซึ่งจะเจริญเติบโตได้ดีในช่วงที่อุณหภูมิสูง 
 
          ในส่วนของตนเองเลี้ยงปลาเก๋าไว้ทั้งหมด 10 กระชัง เฉลี่ยตายกระชังละ 8-10 ตัวต่อวัน หรือวันละประมาณ 30-40 ตัว หากดูสถานการณ์ตอนนี้ตนคิดว่าปี 2558 ในพื้นที่คลองสิเกาซึ่งเป็นแหล่งเลี้ยงปลากระชังแหล่งใหญ่ อาจทำให้ปลาเก๋าหายไปจากท้องตลาดอย่างแน่นอน เท่าที่ผ่านมาตั้งแต่เดือนตุลาคม ปี 57 ก็มีวิกฤตของปลากะพงขาวเสียหายเล็กน้อย เดือนมกราคมวิกฤตของปลาช่อนทะเล เสียหายประมาณ 100 กิโลกรัม และมาเดือนกุมภาพันธ์ เป็นวิกฤตอย่างหนักของการเลี้ยงปลาเก๋า ซึ่งตอนนี้ทางหน่วยงานราชการ หรือผู้ที่เกี่ยวข้องก็ยังไม่มีการเข้ามาดูแลหรือให้คำปรึกษาในการแก้ปัญหาวิกฤตนี้แต่ประการใด
 
 
 
 
logoline

ข่าวที่น่าสนใจ