ข่าว

เปิดใจ'ทส.ผบ.ทบ.'เงาสะท้อนตัวตน'บิ๊กตู่'

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

เปิดใจ'ทส.ผบ.ทบ.' เงาสะท้อนตัวตน'พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา'

               นอกจาก "รศ.นราพร จันทร์โอชา"คู่ชีวิต และลูกสาวฝาแฝดที่น่ารักสองคนแล้ว มีเพียงคนเดียวที่สามารถใกล้ชิด แบบที่เรียกว่า "มองตาก็รู้ใจ" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. คือ พ.ต.อัครพัฒน์ เทพณรงค์ " หรือ "ผู้กองโอม"นายทหารคนสนิท (ทส.) ที่ติดสอยห้อยตามผู้นำสูงสุดของกองทัพบก มายาวนานถึง 9 ปี ทำไม.?เหตุใดที่ผบ.ทบ.ถึงเลือกนายทหารผู้นี้มาอยู่เคียงข้างด้วย
 
               ถาม:มาเป็น ทส.ผบ.ทบ. ได้อย่างไร?
 
               ตอบ:ถึงตอนนี้ก็ย่างเข้าปีที่ 9 แล้วนะ เวลาผ่านไปเร็วจัง เมื่อปลายปี 49 ได้รับคำสั่งจากผู้บังคับกองพันในขณะนั้น (กองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์) ให้ไปรับการคัดเลือกเป็นนายทหารคนสนิท
 
               ซึ่งตอนนั้นท่านเพิ่งได้รับโปรดเกล้าฯให้ดำรงตำแหน่งแม่ทัพภาคที่ 1 ผู้บังคับกองพันบอกเพียงว่า ให้ลองไปคัดเลือกดูก่อน คงมีไปกันหลายคน ถ้าไม่ได้ก็กลับมาทำงานกับผู้พัน วันรุ่งขึ้นพอไปถึงที่กองบัญชาการกองทัพภาคที่ 1 ปรากฎว่า มีพี่คนเดียว มารู้ทีหลังว่าเรียกมาคนเดียว ก็ยังไม่ทราบที่มาจนถึงทุกวันนี้
 
               ถาม:เจอหน้ากันครั้งแรกเป็นอย่างไรบ้าง?
 
               ตอบ:ท่านก็ตบไหล่ 1 ที พูดว่ามาแล้วเหรอ เต็มใจไหม..แล้วจะให้พี่ตอบยังไง ทหารเราไม่ได้ถูกสอนมาให้ปฏิเสธอยู่แล้ว ตอนนั้นเพิ่งติดร้อยโท (หัวเราะ)และยังไม่ทราบเลยว่าหน้าที่นี้ต้องทำอะไรบ้าง แล้วก็เพิ่งกลับมาจากการปฏิบัติหน้าที่ราชการสนามที่ อ.ธารโต จ.ยะลา
 
               จริงๆแล้วก่อนหน้านั้นก็เคยพบท่านครั้งหนึ่ง ตอนที่ท่านร่วมคณะ พล.ท.อนุพงษ์ เผ่าจินดา แม่ทัพภาคที่ 1 (ยศในขณะนั้น) ไปตรวจเยี่ยมหน่วยของกองทัพภาคที่ 1 ที่ลงไปปฏิบัติหน้าที่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งตอนนั้นท่านก็เดินเข้ามาพูดคุยเรื่องสถานการณ์ทั่วไปในพื้นที่
 
               หลังจากนั้นอีก 2 เดือนท่านก็เป็นแม่ทัพภาคที่1 ก็เลยคิดว่าท่านคงดูประวัติการทำงาน ผลการศึกษา ความประพฤติย้อนหลังตอนเป็นนักเรียนทหาร ทั้งโรงเรียนเตรียมทหารและโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า ซึ่งพี่ไม่มีอะไรเสียหาย แต่ไม่เคยถามท่านนะว่าทำไมเลือกพี่
 
               ถาม:หลายคนอาจคิดว่าเป็นทส. งานสบาย เดินตามนาย ยศขึ้นไว
 
               ตอบ:อันนั้นเป็นภาพภายนอกที่คนทั่วไปมอง ถ้าทำแค่นั้นแล้วยศขึ้นไวก็ดีซิ กองทัพบกเรามีมาตรฐาน เรามีกฎ ระเบียบ ข้อบังคับ หลักเกณฑ์การพิจารณาในทุกระดับชั้นยศ ซึ่งแท้จริงแล้วกว่าจะเป็นอย่างที่เห็นได้ก็ไม่ง่ายเหมือนกัน อย่างที่พวกเราเห็นที่ผ่านๆมาคนที่ได้รับการคัดเลือกมาทำหน้าที่นี้ก็ผ่านการคัดกรองมาจากผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นในระดับหนึ่งแล้ว พูดง่ายๆคือแต่ละคนก็มีต้นทุนทางสังคมที่ดีเป็นทุนเดิมมาก่อน
 
               เพราะฉะนั้นแล้วการที่บุคคลเหล่านั้นจะเติบโตจึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจสำหรับคนในกองทัพด้วยกันเอง อยากให้มองลึกๆว่าคนที่มาทำงานตรงนี้ได้แต่ละคนต้องผ่านอะไรมาบ้าง ทั้งความสามารถ คุณวุฒิ วัยวุฒิ ประสบการณ์การทำงาน วุฒิภาวะล้วนเป็นองค์ประกอบที่สำคัญทั้งสิ้น 
 
               ส่วนตัวพี่มองว่าการที่ผู้บังคับบัญชามอบหมายงานมากก็เหมือนท่านไว้วางใจและเชื่อมั่นตัวเรามาก ถ้ามีเวลาว่างเมื่อไหร่ก็จะต้องพยายามใช้เวลาว่างที่มีอยู่นั้นให้เป็นประโยชน์เพื่อองค์กร ตัวเราเองก็จะได้พัฒนาตนเองไปด้วย
 
               เพราะสาเหตุนี้พี่จึงพยายามใช้เวลาที่มีอยู่ทั้งเวลาหลังเลิกงานและวันหยุดที่ท่านไม่มีภารกิจให้เป็นประโยชน์ทุกนาที ทั้งในแง่การเพิ่มพูนทักษะความรู้ทางการทหารและ
 
               เรื่องอื่นๆที่จะเป็นประโยชน์ต่อกองทัพในอนาคต ในประเด็นของงานในหน้าที่ ทส.นั้น ผู้บังคับบัญชาแต่ละท่านจะมีวิธีการใช้งาน ทส.แตกต่างกัน ทส.คือฝ่ายอำนวยการประจำตัว ซึ่งแต่ละท่านจะมีฝ่ายเสธ.(เสนาธิการ)ประจำตัวอยู่แล้ว การทำงานจึงเป็นลักษณะการประสานงานเป็นหลัก ที่เหลือก็จะเป็นงานที่ท่านมอบหมายเพิ่มเติมเป็นครั้งคราวไป
 
               ซึ่ง ผบ.ท่านนี้ การทำงานกับท่านจะต้องทำงานรวดเร็ว ถูกต้อง และทันเวลา พี่มีหน้าที่ในการจัดเตรียมทุกสิ่งทุกอย่างให้พร้อมในแต่ละวัน ตั้งแต่การเตรียมการ วางแผนในเรื่องกำหนดการประจำวัน เตรียมเอกสารการประชุม วันนี้เดินทางไปไหน ใช้เวลาเท่าไหร่ จะต้องเดินทางอย่างไร แต่งเครื่องแบบอะไร อาหารการกินจะเป็นอะไร โดยจะมีฝ่ายเสนาธิการประจำตัวท่าน คอยช่วยเตรียมและหาข้อมูลให้ ถ้ามีอะไรสำคัญ จำเป็นก็จะหาข้อมูลเพิ่มให้ 
 
               หลักการทำงานของพี่ คือพยายามทำให้ท่านต้องคิดและกังวลเฉพาะเรื่องงานเท่านั้นเพราะภาระท่านมากพออยู่แล้ว ในส่วนที่เหลือพี่จะคอยดูแลทุกอย่างเพื่อให้ท่านไม่ต้องกังวล ทำงานได้อย่างเต็มที่
 
                ส่วนการเจริญเติบโตในหน้าที่การงานของตัวเองนั้น ก็เป็นไปตามจังหวะเวลาที่เหมาะสม คนเราถ้าคิดแต่ว่าอยากจะเป็นอะไร ก็ไม่ได้ทำงานกันพอดี คิดเพียงแต่ว่าทำงานในหน้าที่ให้ดีที่สุด มีมาตรฐานในการทำงานและทุ่มเทกับงานให้เต็มที่ก็น่าจะเพียงพอครับ
 
               ผบ.ทบ.ท่านอ่านข่าวหลายฉบับ ทั้งหนังสือพิมพ์ ทั้งออนไลน์ แล้วท่านจะถามข้อมูลเยอะ ซึ่งพี่ก็ต้องเตรียมพร้อมก่อนเช่นกัน หลังเลิกงานพี่ก็ต้องมาเตรียมข้อมูลติดตามสถานการณ์ เพราะต้องช่วยคิด ช่วยบอกข้อมูล หากบอกผิดพลาดก็จะทำให้ท่านตัดสินใจผิด เวลาท่านถามพี่จะบอกว่า นี่คือข้อเท็จจริงนะครับ แต่ถ้าพี่ใส่ความคิดเห็นลงไปพี่ก็จะบอกว่านี่คือความคิดเห็นของผมนะครับ
 
                โทรศัพท์พี่ต้องเปิด 24ชม. หลับไม่ค่อยสนิท วันนึงนอนประมาณ 4ชั่วโมง อันไหนเป็นเรื่องด่วน เป็นเรื่องที่ท่านต้องตัดสินใจ พี่ก็ต้องหาวิธีเรียนท่านให้ทราบ แม้ว่าจะอยู่ในช่วงที่ท่านพักผ่อนแล้วก็ตามเพื่อที่ท่านจะได้รับรู้ ตัดสินใจได้ถูกต้องและทันท่วงที มีหลายท่านพูดว่า ผบ.ท่านนี้เก่ง ฉลาด ตัดสินใจรวดเร็ว กองทัพบกมีการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นอย่างชัดเจน พี่เองแอบอมยิ้มนะครับ
 
               ส่วนที่สำคัญที่สุดคือตัวท่านเป็นคนตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา รับทราบข้อมูลหลายด้าน ประกอบกับท่านมีประสบการณ์สูงจึงทำให้ท่านเป็นเเบบนี้ ทำอะไรก็ประสบความสำเร็จ พี่เองก็พลอยภาคภูมิใจกับท่านไปด้วยกับความสำเร็จในทุกจังหวะชีวิตที่ผ่านมาของท่านและพี่ได้เป็นส่วนหนึ่งในช่วงเวลานั้น
 
               ถาม:ตัวจริง  ผบ.ทบ. เป็นอย่างไร ดุไหม
 
               ตอบ:อย่าใช้คำว่าดุเลย เอาเป็นว่าท่านเข้มงวดมากกว่า สาเหตุที่ท่านเข้มงวด ก็เพราะท่านจริงจังกับทุกสิ่งที่ท่านได้ดำริไป ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เพื่อประโยชน์ต่อกองทัพบกและประเทศชาติทั้งสิ้น โดยส่วนตัวท่านเป็นคนมีเมตตา รักลูกน้อง เป็นคนเก่งมาก เข้าใจง่าย คิดเร็ว สมองเร็ว เวลาไม่มีงานท่านก็จะออกกำลังกาย ท่านชอบอ่านหนังสือ ดูข่าว ดูหนังภาษาอังกฤษ ท่านชอบอ่านหนังสือพิมพ์ แม็กกาซีนบ้าง พ็อคเกตบุ๊คบ้าง
 
               ถาม:ผบ.ทบ.มีมุมน่ารักๆบ้างหรือไม่
 
               ตอบ:ก็มีนะ เช่นวันเกิดพี่ พี่ก็ไม่ค่อยบอกใคร ไม่ได้บอกท่านเพราะดูเหมือนเราไปทวงของขวัญ ไม่อยากให้ท่านลำบากใจก็เลยเฉยๆ แต่ท่านรู้จากคนอื่น ก็จะพูดว่า วันเกิดทำไมไม่บอก แฮปปี้เบิร์ทเดย์นะ แล้วก็มีการ์ด เขียนอะไรให้เล็กน้อย น่ารักดี (อมยิ้ม)
 
               "เวลาเครียดมากๆ ท่านก็จะนั่งคิด พี่ไม่เคยเห็นผู้ใหญ่ในกองทัพที่วันๆคิดแต่เรื่องแก้ปัญหาให้กองทัพ แก้ปัญหาให้บ้านเมือง จะทำประโยชน์อะไรให้บ้านเมือง ท่านห่วงกำลังพลทุกระดับ เป็นคน บอร์น ทู บี ผบ.ทบ.มากๆ"
 
               ถาม:สิ่งที่ได้และหายไปกับหน้าที่ ทส. ของ ผบ.ทบ.คนนี้
 
               ตอบ:สิ่งที่ได้คงเป็นประสบการณ์ ได้เห็นการทำงานในระดับใหญ่ๆของกองทัพ เวลาที่ผบ.ทบ.ไปตรวจเยี่ยมหน่วยหรือไปเยือนต่างประเทศก็จะได้เห็นอะไรค่อนข้างเยอะ ซึ่งหากอยู่ในยศร้อยตรี ร้อยโท ร้อยเอก พันตรี ตามตำแหน่งปกติพี่คงไม่มีวันได้เห็น จุดเด่นของแต่ละหน่วยทั้ง 7 ส่วนของกองทัพบก พัฒนาการของแต่ละหน่วยที่ผ่านๆมา เห็นการตัดสินใจในนาทีวิกฤตว่าผู้ใหญ่มีหลักการคิด แก้ปัญหาอย่างไร
 
               พี่อยู่กับท่านประมาณการณ์ว่าเดินทางเป็นล้านกิโลเมตรแล้วมั้ง แต่ถ้าพี่อยู่ที่หน่วยปกติ ยศพี่ก็จะเป็นระดับผู้กอง ก็ทำงานตามหน้าที่ของหน่วย ไม่ได้ยุ่งขนาดนี้ มีลูกน้องคอยดูแล แต่พี่ก็จะมองได้แค่ภาพเล็กๆ ซึ่งพี่มองว่าเป็นโอกาสที่ดี ที่ได้ทำหน้าที่นี้เพราะถ้าเราใส่ใจและเต็มที่กับงานในหน้าที่ เราก็จะได้อะไรเยอะ
 
               การเรียนรู้ไม่มีที่สิ้นสุด และพี่ก็ไม่ใช่คนที่ปล่อยเวลาให้ผ่านไปโดยไม่ได้อะไรเลย แต่การคิดและทำแบบนี้ก็ต้องแลกกับความสุขส่วนตัว เวลาและหลายสิ่งหลายอย่างที่นายทหารวัยนี้ควรจะได้รับครับ
 
               สิ่งที่หายไปชัดเจน ก็คือช่วงชีวิตช่วงวัยรุ่น พี่ไม่มีเลย หายไปและย้อนกลับมาไม่ได้ อย่าลืมว่าชีวิตนายทหารก่อนจบมารับราชการจะต้องเป็นนักเรียนประจำทั้งในโรงเรียนเตรียมทหารและโรงเรียนนายร้อยฯ ส่วนตัวพี่เองเป็นนักเรียนประจำมาก่อนเป็นนักเรียน
 
               เตรียมฯอีก เกินครึ่งชีวิตสำหรับนักเรียนประจำ ไม่ต้องพูดถึงความเป็นส่วนตัวกันเลยนะ พี่แทบไม่มีโอกาสพาพ่อแม่ไปทานข้าว พาพ่อแม่ไปเที่ยว มีเวลาให้ครอบครัวน้อย
 
               แต่พ่อแม่พี่เข้าใจ ท่านเคยพูดกับพี่ตอน ผบ.ท่านเป็นแม่ทัพใหม่ๆว่าดูแลท่านให้ดี ต่อไปท่านจะเป็นผู้ใหญ่ของบ้านเมือง กับเพื่อนๆพี่ก็ไม่ค่อยมีเวลาแฮงเอ้าท์ด้วยกัน บางคนนัดกันเป็นปีกว่าจะได้เจอ ถ้าต้องไปงานเลี้ยงส่วนตัวตอนค่่ำ ประมาณ 5 ทุ่มพี่ก็ต้องขอตัวกลับละ ดื่มแก้วเดียวเดินทั้งงาน จะให้สนุกแบบคนอื่นคงไม่ได้ 
 
               ตื่นเช้ามาผบ.ทบ.ถามเรื่องงานแล้วมาเบลอๆอยู่ก็คงไม่ใช่ เคยมีครั้งหนึ่งพี่วางแผนจะไปเที่ยวต่างจังหวัด เพราะเสาร์ อาทิตย์นั้นไม่มีงาน ขับรถไปถึงพระปฐมเจดีย์ ปรากฎว่าท่านโทรมาบอกว่ามีธุระให้จัดการ พี่ก็รีบวกรถกลับทันทีโดนไม่ได้บอกท่านว่าอยู่ต่างจังหวัดเพราะคิดว่างานของท่านสำคัญกว่าเรื่องส่วนตัวเสมอ ซึ่งถ้าบอกท่าน ท่านก็คงเข้าใจเพราะท่านมีเมตตา แต่คิดตอนนั้นว่ากลับไปทำเองดีกว่าให้ลูกน้องไปทำ กังวลว่าจะไม่เรียบร้อย
 
               "มันเป็นความภาคภูมิใจของเราที่ได้ดูแลผู้ใหญ่คนหนึ่ง ที่ตลอดเวลาคิดแต่จะทำเพื่อกองทัพบก ทำเพื่อชาติจริงๆ น้อยคนนักที่จะเป็นแบบนี้ มันเป็นความศรัทธาที่เกิดขึ้น ท่านก็เหมือนพ่ออีกคน ใช้เวลาอยู่ด้วยกันมากกว่าพ่อจริงๆซะอีก บอกท่านว่า ไม่ว่าอย่างไรก็จะขอดูแลท่านต่อไปไม่ว่าจะเกษียณไปแล้ว หรือเป็นลุงคนนึงก็ตาม"
 
                ถาม:วันนี้ 21 มีนา วันคล้ายครบรอบวันเกิด ผบ.ทบ. อยากอวยพรอะไรเป็นพิเศษไหม.?
 
               ตอบ:วันคล้ายวันเกิดปีนี้ ท่านก็อายุครบ 60 ปีแล้ว ก็อยากให้ท่านมีเวลาพักผ่อนมากกว่าเดิม และขอให้ท่านมีสุขภาพแข็งแรงแบบนี้ตลอดไปครับ
 
               ถาม:ขอถามเรื่องส่วนตัว ข่าวว่า lucky in game unlucky in love
 
               ตอบ:เคยมีคนนึงนานแล้วคบประมาณ 7-8 ปี พอพี่ไปเรียนที่อเมริกากลับมาก็เลิกกัน ตอนนี้เขาก็มีครอบครัวไปแล้ว ส่วนหนึ่งคงเป็นเพราะเวลา การทำงานแบบนี้ก็มีข้อดีคือมีโอกาสได้เจอคนเยอะ คนที่ดีก็เยอะ บางคนก็คิดว่าพี่เจ้าชู้ เพราะคุยกับคนเยอะแต่จริงๆแล้วไม่ใช่ พี่จำเป็นต้องมีปฏิสัมพันธ์เรื่องงาน พี่เป็นคนรักเดียวใจเดียว ถ้าคุยกับใครคนใดคนหนึ่งก็จะคุยกับคนนั้นคนเดียวเพราะเราอยากให้เค้าทำกับเราแบบนั้นเหมือนกัน
 
               พี่เชื่อเรื่องกฎแห่งกรรม ทำดีก็ต้องได้ดี ถ้าเราเป็นคนดีเราก็ควรจะเจอคนดีๆ ที่ผ่านมาก็เป็นแบบนั้นจริงๆ เพื่อนพี่หลายคนบอกว่าเลือกเยอะ จริงๆแล้วไม่ใช่แบบนั้น อธิบายลำบาก ประมาณว่าจะต้องหาคนที่เข้าใจเรา ยอมรับในสิ่งที่เราเป็นได้ พี่ก็จะบอกว่าชีวิตพี่ พี่เลือกที่จะทำงานและเป็นคนที่ต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน ตอบแทนสังคม
 
               ชีวิตพี่คงจะไม่สบายเหมือนคนอื่น และพี่ก็ต้องหาคนที่พอดีๆ ก็เลยยากหน่อย เพราะเรื่องนี้สำคัญต่อชีวิต ตัวเราเองดูแลตัวเองได้อยู่แล้ว แต่พี่คิดว่าถ้ามีคนที่เข้ามาอยู่ในชีวิตเราพี่ก็ต้องดูแลคนคนนั้นให้ดี เค้าไม่ควรจะต้องลำบากแบบพี่ เพราะแค่เค้าเข้าใจและอยู่กับเราก็เป็นสิ่งที่มากพอสำหรับพี่แล้ว
 
                ได้ยินแบบนี้ ทส.หนุ่มนักเตรียมทหาร รุ่น 41 นักเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า รุ่นที่ 52 คงทำให้สาวๆหลายคนปลื้มมมมม....แต่น่าเสียดายที่ตอนนี้ที่หัวใจผู้กองฯ "ไม่ว่าง" แล้วจ้า.......
 
..............................................
 
(หมายเหตุ  : เปิดใจ'ทส.ผบ.ทบ.' เงาสะท้อนตัวตน 'พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา' : http://www.konkao.net/read.php?id=2717)
logoline

ข่าวที่น่าสนใจ