เครื่องบินเอเชียนาแอร์ไลนส์ ของเกาหลีใต้ ตกขณะลงจอดที่สนามบินฟรานซานซิสโกไฟลุกท่วมตัวเครื่อง เสียชีวิต 2 คน บาดเจ็บ 181 คน
7 ก.ค. 56 เครื่องบินโดยสารแบบโบอิ้ง 777-200 ER สายการบินเอเชียนา ของเกาหลีใต้ เที่ยวบินที่ 214 จากกรุงโซล พร้อมผู้โดยสาร 291 คน ลูกเรือ 16 คน ประสบอุบัติเหตุตกและเกิดไฟลุกท่วมอย่างรุนแรง ขณะกำลังลงจอดที่สนามบินนานาชาติซานฟรานซิสโก เมื่อเวลา 11.30 น. วันเสาร์ตามเวลาในสหรัฐฯ ( 01.30 น. วันอาทิตย์ตามเวลาในไทย) เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตที่ได้รับการยืนยัน 2 คน บาดเจ็บ 181 คน โดยมีผู้ใหญ่ 8 คนและเด็ก 2 คนอาการสาหัส และมีอีกอย่างน้อยที่ยังไม่สามารถยืนยันชะตากรรมได้ 60 คน ซึ่งไม่ชัดเจนว่าพวกเขาอยู่ที่ไหน
เอเชียนาแถลงว่า เครื่องบินออกเดินทางจากสนามบินอินชอน กรุงโซล ช่วงเช้าของวันเสาร์ โดยผู้อยู่บนเครื่อง 77 คนเป็นชาวเกาหลี ชาวจีน 141 คน สหรัฐฯ 61 คน และอีกคนเป็นชาวญี่ปุ่น
ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บในขณะนี้ รวมถึงคาดการณ์สาเหตุ แต่เบื้องต้น เจ้าหน้าที่สำนักงานสืบสวนกลาง(เอฟบีไอ)ระบุว่าไม่มีสิ่งบ่งชี้ว่าเป็นการก่อการร้าย
จากคำบอกเล่าผู้เห็นเหตุการณ์ ภาพและคลิปวิดีโอ บ่งว่า เครื่องบินกระแทกกับบริเวณที่เป็นหินหรือกำแพงกั้นทะเลริมอ่าวซานฟรานซิสโกก่อนแตะรันเวย์ ส่วนหางเครื่องบินแตกกระจายและหลุดออกจากตัวเครื่อง เช่นเดียวกับล้อลงจอด ทิ้งเศษซากเป็นทางบนรันเวย์ก่อนหยุดนิ่ง สภาพเครื่องบินถูกไฟไหม้รุนแรงโดยเฉพาะส่วนบนของเครื่องบิน
ผู้รอดชีวิตคนหนึ่งเล่าว่าขณะที่เครื่องบินกำลังแตะพื้น ดูเหมือนนักบินได้เร่งความเร็วเหมือนกับรู้ว่ากะระยะผิด จากนั้น ส่วนท้ายเครื่องบินกระแทกพื้นก่อน แรงกระแทกส่งให้ทุกคนบนเครื่องกระเด้งลอยสูง ศีรษะแตะถึงเพดาน
เครื่องบินโบอิ้ง 777 แบบสองเครื่องยนต์ เป็นหนึ่งในเครื่องบินสำหรับบินระยะไกลที่ได้รับความนิยมมากที่สุด มักใช้สำหรับทำการบิน 12 ชั่วโมงหรือนานกว่านั้น
เอเชียนา เป็นสายการบินใหญ่เป็นอันดับสอง รองจากโคเรียนแอร์ของเกาหลีใต้ และเป็นสมาชิกของสตาร์ อัลไลแอนซ์
นับเป็นครั้งที่สองที่เครื่องบินของเอเชียนา แอร์ไลนส์ ประสบอุบัติเหตุครั้งใหญ่ ครั้งก่อนเกิดขึ้นเมื่อปี 2536 เครื่องบินโบอิ้งประสบเหตุตกขณะพยายามลงจอดที่สนามบินม็อกโพ ห่างจากกรุงโซลไปทางใต้ประมาณ 410 กิโลเมตร เป็นเหตุให้ลูกเรือ 2 คนและผู้โดยสาร 66 คนจาก 110 คนเสียชีวิต
----------------------
(หมายเหตุ : ที่มาภาพ : EPA , AFP)
ข่าวที่เกี่ยวข้อง