พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผช.ผบ.ตร.) "บิ๊กโจ๊ก" พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ทหารเรือ จ.สงขลา ได้เดินทางบุกเข้าตรวจสอบ และอายัดเรือประมง ขนาด 30 ตันกลอส 150 และ 200 ตันกลอส จำนวน 5 ลำ ที่แสดงตนว่าเป็นเรือสัญชาติอินโดนีเซีย และลักลอบเข้ามาในประเทศไทยอย่างผิดกฎหมาย
เบื้องต้นพบว่า มีการปลอมแปลงชื่อบริเวณหัวเรือ จากชื่อเรือมาเลเซีย เป็นชื่อเรือและประดับธงอินโดนีเซีย ก่อนเดินทางออกจากท่าเทียบเรือ ประเทศมาเลเซีย มายังอู่เรือศรีสงขลา จ.สงขลา ซึ่งเป็นของนายวสันต์ กิตติยานันท์ หรือเสี่ยยศ โดยไม่ผ่านพิธีการศุลกากร รวมทั้งไม่แจ้งกรมประมง และกรมเจ้าท่า โดยเรือประมงบางลำ ยังได้มาจอดพักที่ท่าเทียบเรือ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ก่อนเดินทางมายังอู่เรือศรีสงขลา
ทั้งนี้ เรือประมงทั้ง 5 ลำ มีลูกเรือรวมทั้งสิ้น 15 ราย เป็นบุคคลสัญชาติไทย จำนวน 12 ราย กัมพูชา 2 ราย และเมียนมา 1 ราย และมีพฤติการณ์ในการแจ้งข้อมูลการเข้า-ออก ท่าเทียบเรือช้ากว่าที่กำหนด และตัวแทนเรือดังกล่าว มีการยื่นเอกสารสำแดงเป็นเรือประมงสัญชาติอินโดนีเซีย แต่รายละเอียดในเอกสารไม่ตรงกับตัวเรือจริง ทั้งสัญชาติ ขนาดและเครื่องยนต์
การกระทำดังกล่าวเป็นความผิดฐาน “ลักลอบนำเข้าเรือประมงเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ผ่านพิธีการศุลกากร” ตาม พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2560 มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับเป็นเงิน 4 เท่าของราคาของ ซึ่งได้รวมค่าอากรเข้าด้วยแล้ว หรือทั้งจำทั้งปรับ, “ปลอมแปลงหรือปิดบังเครื่องหมายเรือประมงหรือทะเบียนเรือประมง” ซึ่งเป็นความผิดตาม พระราชกำหนดประมง พ.ศ.2558 มีโทษปรับตามขนาดเรือ ตั้งแต่ 6 แสน ไปจนถึง 30 ล้านบาท ซึ่งเรือประมงทั้ง 5 ลำ จะต้องถูกปรับเป็นวงเงินรวมกันถึง 67.2 ล้านบาท
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ขยายผลเข้าจับกุมนายพิทักษ์ อิ่มทั่ว , นางสมสวย คงวัดใหม่ และ นายสุรัตน์ บัวผุด เจ้าของเรือทั้งหมด ที่บ้านพัก เพื่อควบคุมตัวมาสอบสวนขยายผล
พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผช.ผบ.ตร.) เปิดเผยว่า จากนี้จะดำเนินการตรวจเข้ม อู่เรือประมง ท่าเทียบเรือประมง และท่าเทียบเรือสนับสนุนการประมงทุกแห่ง เพื่อขจัดเรือประมงผิดกฎหมายเหล่านี้ให้หมดสิ้นไป และหากพบว่ามีเจ้าหน้าที่เอื้อประโยชน์ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ก็จะดำเนินการเอาผิดโดยเด็ดขาดเช่นเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม ก่อนหนน้านี้ ประเทศไทย ได้รับการปลดใบเหลือง เมื่อช่วงเดือนมกราคม 60 ก่อนหน้านั้นราว 3 เดือน ( กรกฏา 61 ) สหรัฐอเมริกา ประกาศเลื่อน อันดับค้ามนุษย์ไทย จาก 2.5 ขึ้นเป็น 2 และ กลางปี 64 ไม่โดนลดอันดับจาก 2 เป็น 2.5 และในต้นปี 2565 ผู้แทน EU จะมาประเมินแผนการแก้ปัญหาของไทยอีกครั้ง หากไม่เร่งแก้ไข มีโอกาสสูงที่ไทยจะต้องกลับไปใบเหลืองรอบ 2
ข่าวที่เกี่ยวข้อง