ข่าว

ตร.เร่งสอบภาพ"ชายนอนชักข้างถนน"ว่อนโซเชียล ขู่ เอาผิดหากพบสร้างสถานการณ์ทำให้ตื่นตระหนก

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

รองโฆษกตร. เร่งตรวจสอบภาพโซเชียล ผู้เสียชีวิตบนท้องถนนหลายสถานที่ พบแต่งกายเหมือนกัน-รูปร่างหน้าตาคล้ายกัน ระบุ สร้างความหวาดกลัว ตื่นตระหนกช่วงสถานการณ์โควิด หากพบสร้างสถานการณ์ เอาผิดผู้เกี่ยวข้องทุกราย

29 ก.ค. 2564 จากกรณีที่ในโลกโซเซียลมีแชร์คลิปเป็นชายสวมเสื้อ แขนยา กางเกงขาสั้นลายพราง นอนชักอยู่ริมถนน ท่ามกลางสายตาผู้ที่ผ่านมา แต่ไม่มีใครกล้าเข้าไปให้การช่วยเหลือ เนื่องจากเกรงว่าจะเป็นผู้ป่วยโควิด -19 

 

 

 ตร.เร่งสอบภาพ"ชายนอนชักข้างถนน"ว่อนโซเชียล ขู่ เอาผิดหากพบสร้างสถานการณ์ทำให้ตื่นตระหนก

 

 

 

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีการแชร์ภาพและคลิปวิดีโอคนเสียชีวิตบนท้องถนน ทำให้เกิดความตื่นตระหนกในสังคม  กรณีดังกล่าวมีผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์ได้โพสต์เตือนประกอบกับคลิปวิดีโอที่ปรากฎเป็นภาพผู้เสียชีวิตบนท้องถนน ในหลายสถานที่ แต่ปรากฎว่าผู้เสียชีวิตในหลายคลิปนั้นแต่งกายเหมือนกันและมีรูปร่างหน้าตาคล้ายกัน ซึ่งโพสต์ดังกล่าวก็ได้ถูกส่งต่อข้อมูลหรือแชร์ไปอย่างแพร่หลาย ทำให้ประชาชนเกิดความหวาดกลัวตื่นตระหนก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงสถานการณ์ฉุกเฉินและการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะพิสูจน์ทราบข้อเท็จจริง รวมถึงตัวผู้ที่เกี่ยวข้องทุกรายหากพบว่าเป็นการสร้างสถานการณ์หรือเป็นความผิดจริง ก็จะดำเนินการตามกระบวนการทางกฎหมายกับผู้กระทำความผิดหรือผู้ที่เกี่ยวข้องทุกราย

 

 ตร.เร่งสอบภาพ"ชายนอนชักข้างถนน"ว่อนโซเชียล ขู่ เอาผิดหากพบสร้างสถานการณ์ทำให้ตื่นตระหนก

 

 

อย่างไรก็ตามหากตรวจสอบพบว่าเป็นความผิดจริง การกระทำดังกล่าวในลักษณะการผลิตและเผยแพร่ข่าวปลอม หรือบิดเบือนข้อมูลข่าวสาร ทำให้เกิดความตื่นตระหนก เกิดความสับสนวุ่นวาย โดยเฉพาะในสถานการณ์ฉุกเฉิน เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มาตรา 14(2), (5) มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และเป็นความผิดฐานฝ่าฝืนข้อกำหนด ประกาศ หรือ คำสั่งที่ออกตามความมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หรือกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

 

 


 

รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวทิ้งท้ายอีกว่า ปัจจุบันที่ประชาชนเข้าถึงข้อมูลข่าวสารต่างๆ ได้ง่าย จึงขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อ ไม่ส่งต่อหรือแชร์ข้อมูล จนกว่าจะตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลข่าวสารให้ชัดเจนเสียก่อน เพื่อมิให้เกิดความสับสนและตื่นตระหนกในสังคม เพราะในปัจจุบันนี้มีข่าวปลอมเกิดขึ้นทุกวัน

 

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เหตุการณ์ดังกล่าว เกิดขึ้นบริเวณถนนวิภาวดีรังสิต ฝั่งขาออก ใกล้เคียงสถานีรถไฟบางเขน เมื่อวันที่ 26 ก.ค. ที่ผ่านมา โดยชายคนดังกล่าว มีอาการเมาสุรา เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบและให้กลับที่พัก ไม่เกี่ยวข้องกับการติดเชื้อโควิด-19 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ