พี่สะใภ้ ชี้ จุดห่อผ้าก่อนฝัง"น้องนาเดีย"
วันที่ 23 มิ.ย.2564 พ.ต.อ.ชูเกียรติ ภูกาบพลอย รองผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ราชบุรี รักษาการผู้กำกับการตำรวจภูธร อ.โพธาราม พร้อม พ.ต.ท.วิโรจน์ เจริญใจ สารวัตรสอบสวน และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสภ.โพธาราม เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ภ.จ.ราชบุรี ได้นำตัวนางรุ้งลาวัลย์ พุ่มบัว หรือ เจี๊ยบ อายุ 45 ปี อยู่ที่บ้านเลขที่ 23/2 หมู่ 2 ต.คลองข่อย อ.โพธาราม จ.ราชบุรี ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ในคดีที่นางรุ้งลาวัลย์ นั้นได้รับเลี้ยงเด็กสองคนคือ ด.ญ. ชโรชา แอบเสมา อายุ 4 ปี น้องโมเดล เป็น ลูกครึ่งอังกฤษ-ไทย และด.ญ.ธาราลักษ์ ลือบางใหญ่ อายุ 2 ปี น้องนาเดีย ซึ่งลูกของน.ส.สุรินทร์ แอบเสมา อายุ 30 ปี ที่ฝากให้เลี้ยงดูในฐานะของพี่สะใภ้ แต่ด.ญ.ธาราลักษ์ ลือบางใหญ่ อายุ 2 ปี น้องนาเดีย เกิดจมน้ำตาย และด้วยความตกใจและเกรงกลัวความผิด จึงได้นำร่างของน้องนาเดียไปฝัง ก่อนจะพาลูกสาวของตนเองวัย 13 ปี และด.ญ. ชโรชา แอบเสมา อายุ 4 ปี น้องโมเดล หลานสาวคนโต ขี่รถจักรยานยนต์ไปเรื่อยๆจนถึงจ.เพชรบูรณ์ ก่อนจะถูกเจ้าหน้าที่ไปติดตามจับกุมมาได้เพราะได้รับแจ้งเบาะแสมาจากผู้นำชุมชนในพื้นที่
ซึ่งการทำแผนในครั้งนี้มีชาวบ้านให้ความสนใจเข้ามาดูการทำแผนจำนวนมาก โดยส่วนใหญ่ทุกคนต่างก็มาตะโกนให้กำลังใจนางเจี๊ยบ เพราะเชื่อว่าการตายของเด็กนั้นเกิดจากอุบัติเหตุ ซึ่งนางเจี๊ยบได้พาเจ้าหน้าที่เข้าชี้จุดบริเวณอ่างน้ำที่น้องนาเดียจมลงไป ก่อนที่ตนเองนั้นกลับมาจากไปซื้อฟางให้วัว และกลับมาเห็นก็ช่วยดึงร่างน้องขึ้นมาและทำการปั๊มหัวใจ จนน้องมีชีพจร และพาน้องมาเปลี่ยนเสื้อผ้า และให้น้องนอน จนรุ่งเช้ามาก็พบว่าน้องนั้นตายแล้ว ด้วยความตกใจจึงนำน้องมาห่อด้วยผ้า และใส่กระสอบ นำไปใส่รถซาเล้ง และนำไปฝังในไร่อ้อย โดยบอกว่าทุกอย่างที่ทำนั้นคิดคนเดียวทำคนเดียวเพราะความตกใจและกลัวความผิด ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้นางเจี๊ยบ นั้นได้ทำการจุดธูปขออโหสิกรรมให้กับน้องนาเดีย ทั้งที่อ่างน้ำที่น้องจม และที่บริเวณปากหลุมที่นำน้องไปฝัง ซึ่งนางเจี๊ยบนั้นได้ร้องไห้ตลอดเวลา และบอกว่าขอโทษถ้าเกิดชาติหน้าขอให้มาเป็นแม่ลูกกันจริงๆ จากนั้นได้เข้าไปกราบเท้าขอโทษนายรุ่งเรือง พุ่มบัว อายุ 67 ปี ผู้เป็นพ่อ โดยมีลูกชายคนโต และสามีของนางเจี๊ยบ เข้ามาสวมกอดเพื่อให้กำลังใจกัน และขอให้พูดเรื่องจริงทุกอย่าง
ด้าน พ.ต.อ.ชูเกียรติ ภูกาบพลอย รองผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ราชบุรี รักษาการผู้กำกับการตำรวจภูธร อ.โพธาราม ก็บอกว่า จากการสอบปากคำผู้ต้องหานั้นก็ให้การตรงกับที่มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ แต่ผู้ต้องหานั้นเครียดมาก เนื่องจากเด็กที่ตายนั้นเลี้ยงดูมานาน ส่วนผลการชันสูตรศพที่สถาบันนิติเวช เบื้องต้นเท่าที่ทราบผลการชันสูตรศพนั้น ยังไม่พบร่องรอย หรือบาดแผลใดๆในตัวเด็ก แต่ทั้งก็จะต้องข้อกล่าวหา 2 ข้อ คือ กระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และฝัง ซ่อนเร้น ย้าย หรือทำลายศพ และในวันพรุ่งนี้ก็จะให้พนักงานสอบสวนนำตัวส่งฝากขังที่ศาล จ.ราชบุรีต่อไป
ข่าว ภัทรพงศ์ คำเปรม ผู้สื่อข่าวภูมิภาคจังหวัดราชบุรี
ข่าวที่เกี่ยวข้อง