ข่าว

ญาติสาว กระโดดรถไฟฟ้า ยอมรับ "ติดโควิด"จริง แต่แพทย์รักษาหายแล้ว

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ญาติกลุ่มเพื่อนรับศพสาวโดดบีทีเอส น้องชายรับ "ติดโควิด" จริง แต่รักษาตัวหายแล้วขอให้พลเมืองดีคลายกังวล ส่วนชื่อตร.ที่ระบุในจม. ไม่รู้เรื่องมาก่อน  ส่วนสาเหตุเครียดสะสมหลายเรื่อง เพื่อนเผยเตรียมตัวกลับบ้านเกิดหลังตกงาน  ย้อนเวลาได้จะบอกเพื่อนไม่น่าคิดสั้น

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 22 มิถุนายน 2564 ที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ ญาติ พร้อมด้วยกลุ่มเพื่อนๆ ของ น.ส.นุช (นามสมมุติ) อายุ 38 ปี ซึ่งก่อเหตุกระโดดสถานีรถไฟฟ้า ย่านพระโขนง จนทำให้เสียชีวิต และงจากที่ในจดหมายมีการระบุว่า "ติดโควิด"  ได้เดินทางมาติดต่อรับศพไป เพื่อนำไปประกอบพิธีทางศาสนา

 

ญาติสาว กระโดดรถไฟฟ้า ยอมรับ "ติดโควิด"จริง แต่แพทย์รักษาหายแล้ว

 

 

จากการสอบถาม "น้องชายของผู้ตาย"  ทราบว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่ติดใจกับการเสียชีวิตของพี่สาว และยอมรับว่า พี่สาวได้มีอาการป่วยติดเชื้อโควิด-19 "ติดโควิด"จริง แต่ได้เข้ารับการรักษาอาการที่โรงพยาบาลรามาธิบดี โดยเข้าพบแพทย์และเข้าสู่กระบวนการรักษาตั้งแต่วันที่ 3 มิถุนายน ที่ผ่านมา จนหายดีแล้ว กระทั่งต่อมาแพทย์จึงได้อนุญาติให้กลับบ้านได้ ทั้งนี้ ขอยืนยันกับพลเมืองดี ที่เข้าให้การช่วยเหลือพี่สาว ให้คลายความกังวลได้ เนื่องจากพี่สาวผ่านการรักษาตัวจนหายดีแล้ว

 

“โดยก่อนหน้านี้ พี่สาวทำงานเป็นพนักงานของร้านสะดวกซื้อ และได้ลาออกมา โดยพี่สาวเตรียมตัวจะกลับบ้านเกิดที่จังหวัดสุรินทร์ เนื่องจากไม่มีงานทำ ส่วนสาเหตุของการเสียชีวิต ตนเองไม่ทราบมาจากเรื่องใด โดยเฉพาะเรื่องที่มีจดหมายเขียนพาดพิงถึงนายตำรวจนายหนึ่ง ซึ่งเรื่องนี้ตนก็ไม่ทราบเรื่อง เพราะพี่สาวจะไม่บอกอะไรให้ครอบครัวทราบมากนัก สำหรับการนำศพไปบำเพ็ญกุศลที่ใดนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการปรึกษากับทางครอบครัวอีกครั้ง”น้องชายระบุ

 

ทางด้าน น.ส.น้ำส้ม (สงวนนามสกุล) เพื่อนสนิทผู้ตาย ระบุว่า ยอมรับว่าเพื่อน "ติดโควิด" จริง โดยได้รับการรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี ตั้งแต่วันที่ 3มิถุนายนที่ผ่านมา จนอาการป่วยหายดีแล้ว ซึ่งแพทย์ก็ได้อนุญาตให้กลับบ้าน ตั้งแต่วันที่ 14 มิถุนายน และมาทำการกักตัวที่บ้านอีก 14 วัน ซึ่งช่วงที่เกิดเหตุนี้ ยังอยู่ในช่วงระหว่างการกักตัวตามคำสั่งแพทย์

 

ญาติสาว กระโดดรถไฟฟ้า ยอมรับ "ติดโควิด"จริง แต่แพทย์รักษาหายแล้ว

 

ส่วนกรณีที่มีพลเมืองดีช่วยเหลือเพื่อนในวันเกิดเหตุ และหลังจากนั้นพบจดหมายส่วนตัว ที่มีใจความว่า ติดเชื้อ"โควิด-19" นั้น ยืนยันว่าเพื่อนรักษาจนหายดีแล้ว ไม่อยากให้เป็นกังวลเรื่องการ "ติดโควิด" ส่วนสาเหตุในการคิดสั้นเชื่อว่าเป็นเพราะความเครียดสะสม เรื่องส่วนตัวหลายๆ เรื่อง รวมถึงปัญหาเรื่องการตกงาน ในช่วงโควิด-19 ที่กำลังแพร่ระบาด จนกระทั่งไม่สามารถหางานทำได้ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีการพูดคุยกันผ่านช่องทางออนไลน์ เรื่องที่จะกลับบ้านที่จังหวัดสุรินทร์ แต่ก็มาพบว่า เพื่อนได้คิดสั้นกระโดดสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส. ฆ่าตัวตายไปแล้ว

 

ส่วนเรื่องนายตำรวจที่ถูกระบุไว้ในจดหมาย เรื่องนี้ตนเองไม่ทราบเรื่องความสัมพันธ์  รู้เพียงว่า ก่อนหน้านี้เพื่อนเคยมีครอบครัวมาก่อน และมีลูก 1 คน แต่ก็ได้เลิกรากันไปนานแล้ว ทั้งนี้ หากย้อนเวลาไปได้ ตนเองอยากบอกกับเพื่อนว่า ไม่น่าคิดสั้นแบบนี้

 

รายงานแจ้งว่า ทางโรงพยาบาลที่ผู้ตายเข้ารักษาตัวโควิด-19 ได้มีการออกเอกสารใบรับรองแพทย์ผู้ป่วยใน เป็นลายลักษณ์อักษรระบุว่า ได้เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลตั้งแต่วันที่ 3 มิถุนายน จนถึงวันที่ 15 มิถุนายน และให้กลับบ้านได้

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ