ตำรวจเร่งล่า แก๊งจักรยานยนต์ มือปาระเบิดถล่มตำรวจ-นักข่าว หน้าจามจุรีสแควร์ ย่านถนนพระราม 4 เบื้องต้นกล้องวงจรปิด จับภาพใบหน้าคนร้ายที่ก่อเหตุได้ชัดเจน แถมเชื่อมโยงแกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมในวันเกิดเหตุ ขณะที่ โฆษก ตร. ไม่ฟันธงฝีมือใครอุ้ม "เยล การ์ดราษฎร"
จากกรณีกลุ่มการ์ดปลดแอกรวมตัวกันบริเวณเกาะพญาไท อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ โดยกลุ่มผู้ทำกิจกรรมได้เคลื่อนขบวนไปตามถนนพญาไท พร้อมกับได้ปิดการจราจรถนนพญาไท บริเวณหน้าปากซอยจุฬา 34 ทำให้การจราจรติดขัดอยู่ระยะหนึ่ง ต่อมาได้มีกลุ่มรถจักรยานยนต์ ได้ขว้างระเบิดลงมาจากสะพานลอยไทย-ญี่ปุ่น ลงมาใส่ตำรวจและกลุ่มสื่อมวลชน รวมทั้งประชาชนที่อยู่ในบริเวณลานหน้าอาคารจามจุรีสแควร์ ฝั่งถนนพระราม 4 ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 4 ราย ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบเกี่ยวกับเรื่องนี้ (18 ม.ค.64) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. เปิดเผยว่า เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการควบคุมตัวผู้จัดกิจกรรมดังกล่าวบริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ 2 ราย และบริเวณสามย่าน 4 ราย เป็นการฝ่าฝืนการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และ พ.ร.บ.ควบคุมโรคติดต่อ ส่วนกรณีมีการขว้างระเบิดปิงปองใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ผู้สื่อข่าว และผู้ปฏิบัติงานในบริเวณที่เกิดเหตุ อยู่ระหว่างติดตามตัวผู้ก่อเหตุ แต่จากการตรวจสอบบริเวณที่เกิดเหตุพบว่า วัตถุที่มีการระเบิดมีการใช้วัสดุดินที่มีแรงดันต่ำผสมอยู่ระเบิดโดยการกระแทก
ส่วนการเปรียบเทียบกับเหตุการณ์ใกล้เคียงกันนั้น พล.ต.ท.ภัคพงศ์ กล่าวว่า อยู่ระหว่างการตรวจสอบ เนื่องจากมีหลายจุด ซึ่งที่จ.สมุทรปราการ ได้มีการจับกุมผู้ที่มีการใช้ระเบิดลักษณะดังกล่าว แต่อยู่ระหว่างตรวจสอบว่า เป็นระเบิดชนิดเดียวกันหรือไม่ อย่างไรก็ตาม กรณีดังกล่าวมีความคืบหน้าไปค่อนข้างมาก โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้มีการจับกุมความผิดเกี่ยวกับการชุมนุมแต่อย่างใด
แต่เนื่องจากมีการแพร่ระบาดเชื้อโรคอยู่ จึงได้มีการประกาศใช้พระราชกำหนดฉุกเฉิน จึงได้มีการจับกุมดำเนินคดีตามกฎหมายดังกล่าว ก่อนหน้านี้ก็มีการจับกุมระหว่าง สน.ลุมพินี ร่วมกับตำรวจคนเข้าเมือง จับกุมคนไทยและชาวต่างชาติในร้านอาหาร จุดประสงค์คือเพื่อพยายามควบคุมไม่ให้มีการแพร่ระบาดเพิ่มเติม
ส่วนกรณีแนวร่วมกลุ่มการ์ดปลดแอกหายตัวไปนั้น พล.ต.ท.ภัคพงศ์ กล่าวว่า กลุ่มบุคคลกลุ่มหนึ่งได้เดินทางไปที่ สน.พญาไท ให้การพนักงานสอบสวน เกี่ยวกับเพื่อนที่เข้าร่วมการชุมนุมว่า ภายหลังจากที่มาร่วมทำกิจกรรมบริเวณสามย่านระหว่างเดินทางกลับไปแล้ว ถูกกลุ่มบุคคลไม่ทราบว่าเป็นใครพาตัวไป ทราบเพียงจากการสอบปากคำเท่านั้น ยังไม่มีพยานหลักฐานนำมาให้กับทางพนักงานสอบสวนสน.พญาไทแต่อย่างใด ทั้งนี้ เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นในพื้นที่จ.สมุทรปราการ ต้องให้ตำรวจภูธรสมุทรปราการเป็นผู้ดำเนินการต่อไป
ขณะที่มีรายงานข่าวแจ้งว่า ฝ่ายสืบสวนได้มีการตรวจสอบวัตถุระเบิดที่มีการโยนลงมาใส่กลุ่มเจ้าหน้าที่ตำรวจ และผู้สื่อข่าวบริเวณแยกสามย่าน จากการตรวจสอบพบว่า ระเบิดดังกล่าวเป็นระเบิดปิงปอง ที่มีการพันด้วยเทปกาว ซึ่งเป็นลักษณะเดียวกับกลุ่มนักเรียนอาชีวะใช้ก่อเหตุอยู่บ่อยครั้ง จากการตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่า ระเบิดลักษณะดังกล่าวมีการใช้อยู่ในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังเร่งไล่ล่าผู้ก่อเหตุดังกล่าว โดยจากข้อมูลการสืบสวนพบว่า ผู้ก่อเหตุดังกล่าว ได้มีการขับขี่รถจักรยานยนต์ จำนวน 2-3 คัน ขึ้นไปบนสะพานลอยไทย-ญี่ปุ่น ก่อนที่จะโยนระเบิดดังกล่าวลงมาใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ และนักข่าว จนได้รับบาดเจ็บ ซึ่งหลังก่อเหตุได้หลบหนีไปยังบริเวณฝั่งธนบุรี ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณโดยรอบแล้ว และทราบตัวผู้ก่อเหตุทั้งหมด โดยจากภาพเห็นใบหน้าผู้ก่อเหตุค่อนข้างชัดเจน และเป็นกลุ่มเดียวกันกับกลุ่มผู้ชุมนุม ทั้งนี้ ชุดสืบสวนจะเร่งติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ขณะเดียวกัน ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกตร. ชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีที่มีการอ้างว่า กลุ่มการ์ดคณะราษฎรถูกอุ้มหายตัวไป โดยกรณีแรก นายมงคล สันติเมธากุล หรือเยล อายุ 24 ปี สมาชิกกลุ่มการ์ดราษฎร ที่หายตัวไปจากหน้าบ้านเวลา 23.00 น. เมื่อวันที่ 16 มกราคมที่ผ่านมา อยู่ในสถานะผู้เสียหายได้แจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.เมืองสมุทรปราการ ซึ่งอ้างว่าขณะเดินทางกลับจากการชุมนุมมาที่คอนโด ถูกคนร้ายอุ้มขึ้นรถตู้ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนหายไป 1 คืน ก่อนจะถูกนำมาส่งใกล้จุดที่อุ้มหายไป สภ.เมืองสมุทรปราการ ตำรวจกำลังเร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพื่อสืบสวนหาตัวผู้ก่อเหตุยอมรับว่า หากเป็นเรื่องจริงถือว่าอุกอาจมาก ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าเป็นฝีมือของ กอร.มน. นั้นก็ยังเป็นเพียงความเชื่อ ซึ่งต้องรอผลการสอบสวนอีกครั้งว่าใครเป็นคนทำ หากดำเนินการใดที่เป็นการละเมิดสิทธิของประชาชนก็ต้องถูกดำเนินคดี
ส่วนอีกกรณีคือ นายทศเทพ ดวงเนตร หรืออาร์ต อายุ 24 ปี ไม่ได้ถูกอุ้มหายไปแต่อย่างใด แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางแก้ว ได้เชิญมาสอบถามกรณีมีการพ่นสีสเปรย์ที่บริเวณฐานพระฉายาลักษณ์และตามสถานที่ต่าง ๆ ซึ่งเจ้าตัวได้ให้การยอมรับรับสารภาพว่าเป็นคนทำจริง ตำรวจจึงขอศาลออกหมายจับและแจ้งข้อหาทำให้ทรัพย์สินของทางราชการเสียหาย และจะนำตัวไปขออำนาจศาลจังหวัดสมุทรปราการฝากขังวันนี้( 18 ม.ค.64) ส่วนการร้องขอทนายความก็เป็นสิทธิ์ที่ทำได้ เบื้องต้นผู้ต้องหาให้ความร่วมมือดีไม่ได้ขัดขืนอะไร
โฆษก ตร. ยังกล่าวถึงความคืบหน้ากรณีเหตุคนร้ายปาระเบิดปิงปอง บริเวณหน้าห้างจามจุรีสแควร์เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 4 รายว่า ชุดสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล มีข้อมูลและเบาะแสคนร้ายอยู่แล้วว่าเป็นกลุ่มไหน แต่ยังไม่สามารถบอกรายละเอียดได้ คาดว่าจะยืนยันได้เร็วๆ นี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง