พระสงฆ์กระโดดลงไปขวางขบวนรถไฟ ทับร่างดับ

พระสงฆ์จากอำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ กระโดดลงไปในรางรถไฟ ขณะที่ขบวนรถไฟกำลังเคลื่อนเข้าสถานีศรีสะเกษ พนักงานขับรถไฟเบรคไม่ทัน เหยียบร่างพระม้วนเข้าไปใต้ท้องขบวนรถ ศรีษะขาด เสียชีวิต

วันที่ 24 พฤศจิกายน 2563 เวลา 10.29 น ร้อยตำรวจเอก มงคล พิลัย ร้อยเวรสอบสวน สถานีตำรวจภูธรเมืองศรีสะเกษ ได้รับแจ้งจากนายสถานีรถไฟศรีสะเกษ ว่า มีเหตุขบวนรถไฟ ที่ 146 วิ่งรับส่งผู้โดยสารมาจากสถานีอุบลราชธานี เพื่อที่จะไปส่งผู้โดยสารปลายทางสถานีกรุงเทพมหานคร พอรถไฟแล่นมาถึงสถานีศรีสะเกษ ขณะที่ขบวนรถไฟกำลังเคลื่อนเข้าสู่ชานชลา อยู่ ๆ ก็มีพระสงฆ์รูปหนึ่งกระโดดลงไปในร่องรางรถไฟรางที่ 1 ลงไปยืนกางแขนออก และนอนลงไปกับรางรถไฟ อยู่ด้านหน้ารถไฟในระยะกระชั้นชิด เป็นเหตุให้พนักงานควบคุมรถไฟไม่สามารถที่จะเบรคได้ทัน จึงเหยียบเข้าไปที่ร่างของพระสงฆ์ดังกล่าว ร่างม้วนติดเข้าไปใต้ท้องรถไฟ ศรีษะขาด เสียชีวิตทันที ภายหลังเมื่อรับแจ้งเหตุเจ้าที่ตำรวจได้รุดไปตรวจสอบยังสถานีรถไฟทันที

เมื่อเดินทางไปถึงพบขบวนรถไฟ ขบวนที่ 146 จอดอยู่บน ชานชาลารางที่หนึ่ง ติดกับฟุตบาทของสถานี มีพี่น้องประชาชนมุงดูภาพหวาดเสียวที่พบเห็นจีวรพระอยู่ใต้ท้องรถบริเวณล้อรางรถไฟช่วงหัวจักรรถไฟ แต่เมื่อตรวจสอบก็พบร่างของพระสงฆ์ ทราบชื่อภายหลัง พระสมพงษ์ บุญธง อายุ 55 ปี มีที่อยู่ตามใบสุทธิ บ้านเลขที่ 121  หมู่ที่ 2 ตำบลห้วยติ๊กชู อำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ เสียชีวิตคาที่ เลือดไหลนองเต็มรางรถไฟ ศรีษะขาดออกตกอยู่ตรงรางรถไฟตรงกลาง ตำรวจได้ประสานหน่วยกู้ภัยมูนิธิสว่างจิตต์ศรีสะเกษธรรมสถาน และหน่วยแพทย์ EMS โรงพยาบาลศรีสะเกษ เข้าช่วยมาตรวจสอบเก็บร่างของพระสงฆ์ดังกล่าว พร้อมด้วยขอตรวจสอบกล้องวงจรปิดของ สถานีรถไฟเพื่อประกอบหลักฐานในการสอบสวนการเกิดเหตุตามกฏหมายต่อไป

ด้าน นายธนชัย ทองลอง พนักงานคุมประแจสถานีรถไฟศรีสะเกษ เล่าภาพเหตุการให้ฟังว่า ขณะที่ขบวนรถไฟกำลังเคลื่อนเข้าสถานี ขณะนั้นเองก็ได้มีพระสงฆ์รูปหนึ่ง กระโดดลงไปในรางรถไฟ พร้อมกับนั่งลงด้านหน้าขบวนรถไฟที่กำลังเคลื่อนมาในระยะกระชั้นชิดโดยไม่มีวี่แววมาก่อนล่วงหน้าทุกคนที่มองเห็นต่างตกตะลึงและเข้าไปช่วยเหลือไม่ทันขบวนรถไฟได้เหยียบร่างของพระสงฆ์ม้วนเข้าไปใต้ท้องรถเสียชีวิตทันที จากนั้นขบวนรถไฟได้หยุด จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ พร้อมเปิดกล้องวงจรปิดเพื่อส่งมอบให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจประกอบหลักฐานภาพเหตุการณ์จริงต่อไป

ภาพ/ข่าว นายพงษ์พัฒน์ ไตรพิพัฒน์ / ศรีสะเกษ