ญี่ปุ่นกำหนดอายุขั้นต่ำยินยอมมีเพศสัมพันธ์แค่ 13 ปี กลุ่มนศ.ยื่นแก้ไขเพิ่มเป็น 16

กลุ่มรณรงค์ Your Voice Matters (เสียงของคุณก็สำคัญ) กำลังพยายามเคลื่อนไหวเรียกร้องให้รัฐบาลญี่ปุ่นแก้ไขกฎหมาย เพิ่มอายุขั้นต่ำที่สามารถรับรู้ยินยอมให้มีเพศสัมพันธ์ได้ (age of concent) เป็น 16 ปี จากปัจจุบันอยู่ที่ เพียง 13 ปี เพื่อคุ้มครองเยาวชนในวัยมัธยมต้นและมัธยมปลายจากนักล่าทางเพศ และทำให้กฎหมายญี่ปุ่นทัดเทียมกับนานาประเทศ 

เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (20 พ.ย.) กลุ่ม Your Voice Matters แจ้งผ่านทวิตเตอร์ว่า ได้ยื่นคำร้องพร้อมลายมือชื่อสนับสนุนจำนวน 40,839 ชื่อ กับความเห็นจำนวนมากสะท้อนความรู้สึกช็อกและผิดหวังกับเกณฑ์อายุให้ความยินยอมทางเพศของญี่ปุ่น ต่อโยโก คามิคาวะ รัฐมนตรียุติธรรมญี่ปุ่นแล้ว 
 

 

 

จากข่าวนี้ทำให้หลายคนเพิ่งรู้ว่า ประเทศพัฒนาแล้วอย่างญี่ปุ่นเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศที่กำหนดอายุให้ความยินยอมทางเพศได้แค่  13 ปี เช่นเดียวกับบูร์กีนาฟาโซ  โคโมรอส หรือไนเจอร์  และเป็นอันดับสองในเอเชีย รองจากฟิลิปปินส์ ที่กำหนดอายุให้ความยินยอมทางเพศไว้เพียง 12 ปี  แต่หลังจากมีกระแสเรียกร้องให้แก้ไข ทางการฟิลิปปินส์ผ่านข้อเสนอให้เพิ่มอายุให้ความยินยอมทางเพศได้เป็น 16 ปีแล้ว ส่วนประเทศที่อายุให้ความยินยอมทางเพศต่ำสุดในโลกคือ ไนจีเรีย แค่ 11 ปีเท่านั้น ประเทศส่วนใหญ่ ตั้งเกณฑ์ไว้ที่ 16-18 ปี

ส่วนของไทย อายุที่สามารถให้ความยินยอมทางเพศได้อยู่ที่ 15 ปี  ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 279  ผู้ใดกระทำอนาจารแก่เด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปี โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสิบปี หรือปรับไม่เกินสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

 

IG/feminisminjapan

 

ในคำร้องที่กลุ่มรวบรวมรายชื่อผ่าน change.org ระบุว่า ลองนึกดูว่าเมื่อตอนอายุ 13 ปี  หรืออายุลูกของคุณ 13 ปี พี่ชายหรือน้องสาวที่อายุ 13 ปี  คนอายุ 13 ปีจะสามารถแสดงเจตจำนงค์กิจกรรมทางเพศ ว่า yes หรือ no ได้หรือไม่  13 ปี ยังเป็นเด็กและยังรู้เรื่องเพศน้อยเกินไป 

กรณีมีความสัมพันธ์ทางเพศแบบไม่สมยอมเกิดขึ้นในญี่ปุ่น  หากเหยื่ออายุ 13 ปีหรือมากกว่านั้น เหยื่อจะต้องพิสูจน์ว่า "มีการทำร้ายหรือข่มขู่คุกคาม" และ “ขัดขืนมากน้อยแค่ไหน " และต่อให้ผู้ใหญ่ไม่อาจปฏิเสธกิจกรรมทางเพศนั้นได้  แต่ก็จะยังไม่ถือว่าเป็นการกระทำผิดทางอาญา เว้นแต่จะพิสูจน์ให้ได้ก่อนว่า ไม่มีการทำร้ายหรือข่มขู่คุกคาม

Your Voice Matters ได้กล่าวขอบคุณแรงสนับสนุนที่มีจุดมุ่งหมายเดียวกันคือการคุ้มครองเยาวชนในญี่ปุ่น ขณะหวังว่าการยื่นคำร้องในครั้งนี้จะประสบความสำเร็จ นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงในสังคมญี่ปุ่นอย่างแท้จริง