ข่าว

รวบแล้ว ไอ้นนท์ หัวโจกแหกคุกเรือนจำสว่างแดนดิน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ตำรวจ สภ.เซกา จ.บึงกาฬ สนธิกำลังกรมราชทัณฑ์ รวบตัว นนท์ หัวโจก 1 ใน 5 แหกเรือนจำสว่างแดนดิน จ.สกลนคร หลังหลบหนีนาน 1 เดือน พบหลบซ่อนริมลำน้ำสงคราม กำลังจะหลบหนีข้าประเทศเพื่อนบ้าน

วันนี้ ( 4 มิ.ย.63 ) จากการอำนวยการของ พล.ต.ต.พลัฏฐ์ วิเศษสิงห์ ผบก.ภ.จว.บึงกาฬ  พ.ต.อ.อนุกูล ดาวลอย รองผบก.ภ.จว.บึงกาฬ  พ.ต.อ.ธำรงชัย ไล้ทองดี ผกก.สภ.เซกา พ.ต.ท.สุรัตน์ พินิจมนตรี รอง ผกก.ป.สภ.เซกา จ.บึงกาฬ ร่วมกับ พล.ต.ต.นิพนธ์ พานิชเจริญ  ผบก.ภ.จว.สกลนคร พ.ต.อ.นวกฤต นวการพาณิชย์ ผกก.สภ.บ้านม่วง พ.ต.ท.ณัฐพล เติมแก้ว รอง ผกก.ป.สภ.บ้านม่วง จ.สกลนคร ประสานงานร่วมกับ พ.ต.ท.ประวุธ วงศ์สีนิล รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ นำชุดปฏิบัติการพิเศษ ประจำเรือนจำกลางภาค 4 เข้าจับกุมตัวนายอนนท์ หลักคำ อายุ 42 ปี ผู้ต้องหาที่อยู่ระหว่างการหลบหนี จากเรือนจำสว่างแดนดิน จ.สกลนคร ได้ที่กระท่อมร้าง บริเวณหนองน้ำ ที่เป็นแหล่งป่าต้นผือ พื้นที่ บ.ตาลเดี่ยว ต.ท่าสะอาด อ.เซกา จ.บึงกาฬ ริมลำน้ำสงคราม เขตรอยต่อ อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ และเขต อ.บ้านม่วง จ.สกลนคร สภาพอิดโรยสวมเสื้อยืดสีเขียว กางเกงขาสั้นพบในตัวมีการพกมีดสั้นไว้ป้องกันตัวด้วย

รวบแล้ว ไอ้นนท์ หัวโจกแหกคุกเรือนจำสว่างแดนดิน

สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า นายอานนท์ รับสารภาพว่า ได้หลบหนีและมาซ่อนตัวในพื้นที่ดังกล่าวได้ประมาณ 1 อาทิตย์ รอการเดินทางหลบหนีไปยังพื้นที่อื่น แต่นายอานนท์ ไม่ได้รับว่า จะเดินทางไปยังเขตชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน ที่อยู่ห่างไปประมาณ 50 กิโลเมตร ซึ่งหลังจากที่ ตนเองได้หลบหนีออกจากเรือนจำสว่างแดนดิน บอกว่าเป็นช่วงเวลากลางคืน แต่หลงทางไปติดในพื้นที่อำเภอหนองหาน จ.อุดรธานี รอยต่อจังหวัดสกลนคร จึงหลบซ่อนตัว และค่อยๆลัดเลาะเดินทางมามาที่ อ.บ้านม่วง จ.สกลนคร เขตพื้นที่บ้านของตนเอง ก่อนจะข้ามลำน้ำสงคราม มาหลบซ่อนตัวในแหล่งปลูกต้นผือ อ.เซกา จ.บึงกาฬ เพื่อจะหาทางหลบหนีต่อไป แต่ก็มาถูกจับได้ก่อน เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจะสอบสวน และนำไปส่งดำเนินคดีในพื้นที่ สถานีตำรวจภูธรสว่างแดนดิน จ.สกลนคร ต่อไป

...แฟ้มภาพ...

รวบแล้ว ไอ้นนท์ หัวโจกแหกคุกเรือนจำสว่างแดนดิน

รวบแล้ว ไอ้นนท์ หัวโจกแหกคุกเรือนจำสว่างแดนดิน

ทั้งนี้จากกรณีเมื่อวันที่ 1 พ.ค.63  เกิดเหตุผู้ต้องขังเรือนจำสว่างแดนดิน อ.สว่างแดนดิน จังหวัดสลนคร อาศัยช่วงระหว่างการถูกกักตัว 14 วัน ตามมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคไวรัสติดเชื้อโคโรน่า สายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือ โควิด-19  ที่อาคารเรียนชั่วคราวภายในเรือนสว่างแดนดิน ก่อนจะถูกส่งตัวเข้าควบคุมในแดนรับผู้ต้องใหม่ โดยผู้ต้องหา เป็นนักโทษใหม่ ที่ต้องโทษคดีเกี่ยวกับยาเสพติด ในข้อหาเสพ และมียาเสพติดไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายประกอบ ประกอบด้วย  นายสุริยันต์ สุพรรณ์ประเสริฐ อายุ 33 ปี, นายวัฒนชัย พันภักดี อายุ 40 ปี, นายภานุพงษ์ โคตรชมภู อายุ 23 ปี, นายพัฒพงษ์ เกษ์คำใส อายุ 32 ปี และนายอนนท์ หลักคำ อายุ 42 ปี   โดยผู้ต้องหาทั้งหมด ได้วางแผนใช้ผ้าคลุมพลาสติกกั้นพื้นที่รับส่งอาหารจากด้านนอกห้องควบคุมชั่วคราว ปีนขึ้นไปใช้พลาสติกพาดแนวรั้วสายไฟฟ้าแรงสูงบนกำแพงเรือนจำ ก่อนจะแยกย้ายหลับหนีไป รวมผู้ต้องขัง 5 ราย แต่ไม่ถึงเวลา  48 ชั่วโมง ชุดปฏิบัติการพิเศษกรมราชทัณฑ์ ร่วมกับ ชุดปฏิบัติการพิเศษเรือนจำสว่างแดนดิน และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการพิเศษตำรวจภูธรสกลนคร  เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คำตากล้า สภ.สว่างแดนดิน และ สภ.บ้านม่วง จ.สกลนคร ได้กดดันเส้นทางหลบหนีของผู้ต้องขัง จนต้องออกมามอบตัว และสามารถจับกุมได้ ในพื้นที่ อ.คำตากล้า และ อ.สว่างแดนดินรวม 4 ราย เหลือเพียงนายนนท์ หลักคำ อายุ 42 ปี ผู้ต้องขังคดี ครอบครองยาเสพติด ยาบ้า 283 เม็ด และยาไอซ์ 32 กรัม ซึ่งถูกผู้ต้องหาทั้งหมดซัดทอด เป็นผู้วางแผนการหลบหนี และยังอยู่ระหว่างการหลบหนี โดยมีเครือข่ายยาเสพติดให้การช่วยเหลือหลบหนี ในพื้นที่รอยต่อ จ.สกลนคร และ จ.อุดรธานี แต่สุดท้ายนายอานนท์ ก็มาถูกจับกุมตัวได้ในพื้นที่เขตรอยต่อ อ.เซกา จ.บึงกาฬ กับ อ.บ้านม่วง จ.สกลนคร หลังหลบไปได้นาน 1 เดือน กับอีก 6 วัน 

ทวีป  ศรีสุชาติ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ.สกลนคร

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ