ข่าว

จับอดีตผู้สมัครส.ส. หลอกฉกข้อมูลมือถือเหยื่อ เข้าแอปฯโอนเงินสูญ 4 แสน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ผบช.น. แถลงจับ อดีตผู้สมัครส.ส.พรรคภราดรภาพ หลอกเหยื่อฉกข้อมูลในมือถือ ก่อนขโมยเงินออกจากบัญชี สูญร่วม 4 แสนบาท เช็คประวัติพบมีคดีฉ้อโกงติดตัวเกือบ 10 คดี

 

จากกรณีผู้ใช้งานเฟซบุ๊ก "Kasidit Kwang Visetthanakorn" หรือนายกษิดิศ วิเศษธนากร อายุ 31 ปี นักธุรกิจหนุ่ม ได้โพสต์เตือนภัยมิจฉาชีพแฮกข้อมูลในลักษณะสร้างเรื่องว่า เป็นผู้โชคดีได้รับรางวัลเป็นโทรศัพท์มือถือจากการเข้าพักโรงแรมหรู ก่อนว่าจ้างให้บุคคลอื่นนำโทรศัพท์มือถือไปให้นายกษิดิศถึงที่บ้าน จากนั้นได้แฮกข้อมูลส่วนตัวแล้วถอนเงินออกจากบัญชีนายกษิดิศ รวมมูลค่าความเสียหาย 395,000 บาท นั้น

 

ล่าสุดวันนี้ (4 มิถุนายน 2563) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พลตำรวจโทภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) พร้อมคณะรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พลตำรวจตรีสำเริง สวนทอง ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 พันตำรวจเอกภูริส จินตรานันท์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง ตำรวจสถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง ได้แถลงผลการจับกุมแก๊งมิจฉาชีพหลอกลวงเอาข้อมูลส่วนตัวของประชาชน โดยการหลอกมอบรางวัลเป็นโทรศัพท์มือถือ แต่ให้ผู้เสียหายเอาซิมใส่อ้างว่า เพื่อยืนยันการรับรางวัล จากนั้นแอบรับ SMS OTP ก่อนนำไปโอนเงินผ่านแอพพลิเคชั่นต่างๆ มีผู้เสียหายเป็นจำนวนมาก มูลค่ารวมหลายแสนบาท โดยสามารถจับกุม นายอานนท์วัฒน์ วรเมธชยางกูร อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคภราดรภาพ อายุ 34 ปี ได้ที่บริเวณหน้าเรือนจำกลางจังหวัดสมุทรปราการ หมู่ 5 ตำบลคลองด่าน อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ

 

พลตำรวจโทภัคพงศ์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากนายอานนท์วัฒน์ กับพวก ได้ร่วมกันหลอกลวงเอาข้อมูลส่วนตัวของประชาชนโดยการหลอกมอบรางวัลเป็นโทรศัพท์มือถือ ให้ผู้เสียหายเอาซิมโทรศัพท์ใส่ โดยอ้างว่าเพื่อยืนยันการรับรางวัล จากนั้นแอบรับ SMS OTP ก่อนนำไปโอนเงินผ่านแอพพลิเคชั่นต่างๆ มีผู้เสียหายเป็นจำนวนมาก มูลค่ารวมหลายแสนบาท

 

 

นายกษิดิศ กล่าวว่า เมื่อช่วงกลางเดือนพฤษภาคม ตนพร้อมครอบครัวได้ไปเข้าพักที่โรงแรมหรูแห่งหนึ่ง จากนั้นได้มีโทรศัพท์โทรเข้ามาหา แต่ตนไม่ได้รับ จากนั้นก็มีสายโทรศัพท์โทรเข้าเครื่องมารดาพร้อมขอสายตน โดยแจ้งว่าเป็นผู้โชคดีจากสุ่มจับรางวัลผู้เข้าพักในโรงแรม โดยได้รางวัลเป็นโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง พร้อมแพคเกจที่พัก 3 วัน 2 คืน จากนั้นให้คนนำมามอบให้ที่บ้าน แต่มีการแจ้งว่าต้องใช้ซิมโทรศัพท์มือถือของตัวเองเปลี่ยนใส่เข้าเครื่องที่ได้รับรางวัลเป็นเวลา 2 ชั่วโมง เพื่อยืนยันสิทธิ จากนั้นไม่นานเงินในบัญชีส่วนตัวและเงินในบัญชีนิติบุคคลหายไปจากบัญชีเกือบ 4 แสนบาท จึงได้เข้าแจ้งความที่ สน.ห้วยขวาง

 

อานนท์วัฒน์

 

ด้านนายนิวัตร เหลืองศิริเชียร อดีตผู้ประกาศข่าว กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุตนทำงานด้านสื่อมวลชน แต่จากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ต้องหารายได้เพิ่ม จึงรับงานฟรีแลนซ์ผ่านเว็บอย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยถูกว่าจ้างให้นำโทรศัพท์ไปมอบให้กับผู้โชคดี จำนวน 3 ราย โดยว่าจ้าง 5,000 บาท พร้อมจ่ายเงินล่วงหน้า 50% เป็นเงิน 2,500 บาท และอีก 2,500 บาทจะจ่ายหน้างาน แต่ปรากฎว่าหลังจากนำโทรศัพท์ไปให้ผู้เสียหายแล้วกลับไม่ได้เงินส่วนที่เหลือ ตนจึงยุติไม่ไปส่งโทรศัพท์อีก 2 ราย หลังจากนั้นตนพยายามติดต่อขอเงินค่าจ้างที่ตกลงกันไว้ แต่ก็ไม่ได้รับเงิน จึงยุติการรับงานกับเคสนี้โดยสิ้นเชิง

 

อานนท์วัฒน์

 

ต่อมาทราบว่าผู้เสียหายที่ตนนำโทรศัพท์ไปให้นั้นถูกขโมยเงินจากบัญชีไป และมีภาพของตนตอนส่งมอบโทรศัพท์ไปเกี่ยวข้องด้วย จึงได้รีบเข้าแจ้งความไว้ก่อนหน้านี้ พร้อมยืนยันว่าไม่เคยรู้จักนายอานนท์วัฒน์ ไม่เคยเห็นหน้าและติดต่องานกันมาก่อน และไม่มีส่วนรู้เห็นกับหารหลอกลวงในครั้งนี้ ซึ่งที่ผ่านมาก็รับงานฟรีแลนซ์มาตลอดและไม่เคยมีปัญหา

 

อานนท์วัฒน์

 

 

"เคสนี้เป็นเคสแรกที่ถูกหลอกให้ทำงาน จึงต้องยุติบทบาทการเป็นผู้ประกาศ และหยุดรับงานฟรีแลนซ์ การหลอกลวงลักษณะนี้ไม่เคยพบและเกิดขึ้นมาก่อน ยอมรับว่าในชีวิตไม่เคยคิดทำงานสกปรกที่อยู่ในทางสีเทา ยืนยันความบริสุทธิ์โดยได้ให้ข้อมูลทุกอย่างกับตำรวจด้วยดีมาตลอด"

 

อานนท์วัฒน์

 

ด้าน พันตำรวจเอกภูริส กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่า นายอานนท์วัฒน์ จบการศึกษาจากประเทศเยอรมัน มีความรู้ทางด้านคอมพิวเตอร์ และจากการตรวจสอบประวัติพบนายอานนท์วัฒน์ มีคดีติดตัวอยู่ 9 คดี ส่วนใหญ่เป็นคดีฉ้อโกง เกี่ยวกับหลอกลวงขายหน้ากากอนามัย นอกจากนี้ยังได้ออกหมายจับผู้ต้องหาอีก 1 ราย เป็นผู้ร่วมขบวนการ อยู่ระหว่างการติดตามตัวมาดำเนินคดี ส่วนกรณีคนร้ายรู้ประวัติของผู้เสียหายและครอบครัว เชื่อว่าคนร้ายได้ข้อมูลจากคนใกล้ชิดของผู้เสียหาย คาดว่าน่าจะเป็นคนที่เคยทำงานในบริษัทของผู้เสียหาย พร้อมเตือนว่าหากเกิดกรณีเช่นนี้ขึ้น หากโทรศัพท์มือถือไม่ใช่ของตัวเอง ขอให้มีการล้างข้อมูลในเครื่องก่อนใช้งาน เนื่องจาก อาจมีฝังโปรแกรมดูดข้อมูล เพื่อสร้างความเสียหายไว้

 

อานนท์วัฒน์

 

"สำหรับประชาชนที่เคยถูกหลอกลวงในลักษณะนี้สามารถเข้าไปชี้ตัวผู้ต้องหาได้ที่ สน.ห้วยขวาง และขอให้ประชาชนระมัดระวังในการให้ข้อมูลส่วนตัวแก่บุคคลหรือเว็บไซต์ที่ไม่เป็นทางการ ซึ่งคนร้ายอาจจะนำข้อมูลส่วนบุคคลมาใช้กระทำความผิดได้ หากพบเห็นการกระทำความผิดต่างๆ สามารถแจ้งสายด่วน 191 หรือสถานีตำรวจท้องที่"

 

อานนท์วัฒน์

 

เบื้องต้นแจ้งข้อหา ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน, ร่วมกันเข้าถึงโดยมิชอบซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ซึ่งมีมาตรการการเข้าถึงโดยเฉพาะและมาตรการนั้นมิได้มีไว้สำหรับตน ก่อนนำส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลห้วยขวาง เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

 

นอกจากนี้ นายกษิดิศ พร้อมครอบครัว ได้มอบดอกไม้ให้กับ พลตำรวจโทภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เพื่อขอคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ช่วยเหลือจนสามารถตดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีได้

 

จับอดีตผู้สมัครส.ส. หลอกฉกข้อมูลมือถือเหยื่อ เข้าแอปฯโอนเงินสูญ 4 แสน

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ