บก.จร. ขานรับนโยบายรัฐบาล เปิดศูนย์สกัดควันดำ 17 จุดทั่วกรุง เร่งลดปัญหามลภาวะทางอากาศ PM2.5 ที่กำลังส่งผลกระทบต่อประชาชน
เมื่อเวลา 09.45 น. วันที่ 16 มกราคม 2563 ที่จุดตรวจสภาพรถ กก.5 บก.จร. อาคารประสารราชกิจ ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพฯ พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น. พร้อมด้วยพล.ต.ต.คมสันต์ สุมังเกษตร ผบก.จร. , พ.ต.อ.พายัพ สมบูรณ์ ผกก.กก.5 บก.จร. ร่วมกันเปิดศูนย์เพื่อติดตามการตรวจวัดควันดำ และโครงการจุดบริการตรวจวัดควันดำเพื่อประชาชน โดยตำรวจจราจรได้ขานรับนโยบาย ตรวจเช็ครถควันดำฟรี เพื่อช่วยลดปัญหาการเกิดมลภาวะทางอากาศ PM2.5 ทั้งนี้ได้ปล่อยแถวกำลังตำรวจบก.จร. จำนวน 102 คน ออกปฏิบัติหน้าที่ตั้งจุดตรวจวัดมลภาวะทั่วทั้งกรุงเทพฯ 17 จุด พร้อมสาธิตการตรวจวัดควันดำโดยใช้เครื่องตรวจวัดควันชนิดทึบแสง
พล.ต.ต.จิรสันต์ กล่าวว่า ทางกองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้ขานรับนโยบายรัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการกำหนดแนวทางการปฏิบัติ เพื่อบรรเทาปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก pm 2. 5 ซึ่งปัจจุบันมีปริมาณเกินกว่าค่ามาตรฐานเริ่มส่งผลกระทบต่อสุขภาพ และการใช้ชีวิตประจำวันของประชาชน โดยเล็งเห็นว่าปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 นั้น ส่วนหนึ่งมาจากควันดำที่เกิดจากการเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์ของรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซล ที่นำมาขับขี่บนท้องถนน กองบัญชาการตำรวจนครบาลจึงได้จัดตั้งศูนย์ติดตามการตรวจวัดควันดำ โดยการตรวจเช็ครถควันดำฟรี เพื่อให้ผู้ใช้รถได้ทราบว่ารถยนต์ของตนเองมีค่าควันดำเกินค่ามาตรฐานที่กฎหมายกำหนดไว้หรือไม่ หากมีค่าเกินกว่ามาตรฐานจะได้นำรถยนต์ไปแก้ไขปรับปรุงต่อไป
พล.ต.ต.จิรสันต์ กล่าวต่อว่า โดยจะให้บริการตรวจวัดควันดำให้แก่ประชาชนฟรีตั้งแต่วันที่ 16-31 มกราคม 2563 ระหว่างเวลา 09. 00 น. ถึง 15. 00 น. (ยกเว้นวันอาทิตย์) จำนวน 3 จุดดังนี้ จุดที่ 1 งานช่างเครื่องยนต์ / ตรวจพิสูจน์กก. 5 บก.จร. ณ อาคารประสารราชกิจ ถนนวิภาวดีรังสิตแขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพฯ โทร. 02-537 8015-6 จุดที่ 2 สถานีตำรวจคู่ขนานลอยฟ้า แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา กรุงเทพฯ โทร. 02-8883249 จุดที่ 3 เต็นท์ให้บริการบริเวณทางคู่ขนานถนนเทพรัตน์กม. 2 ขาเข้า (ระหว่างซอยบางนา 14-16 ก่อนถึงไบเทคบางนา) โทร 097-3564146
พล.ต.ต.คมสันต์ กล่าวว่า กรณีบริษัทขนส่งหรือสถานประกอบการที่มีรถบรรทุกจำนวนมาก กองบัญชาการตำรวจนครบาลได้จัดเตรียมชุดรถโมบายเคลื่อนที่เข้าไปให้บริการ เพื่อเป็นการลดความแออัด และลดการนำรถที่มีค่าควันดำเกินมาตรฐานมาวิ่งบนท้องถนน โดยสามารถติดต่อประสานขอรับบริการผ่านหมายเลขโทรศัพท์ 02-5153040 และ 097-3564146
พล.ต.ต.คมสันต์ กล่าวอีกว่า สำหรับมาตรการการบังคับใช้กฎหมาย กองบัญชาการตำรวจนครบาลยังคงดำเนินการตั้งจุดตรวจวัดมลภาวะครอบคลุมทั้งกรุงเทพมหานครจำนวน 17 จุด เพื่อป้องกันไม่ให้รถที่มีค่าควันดำเกินมาตรฐาน มาใช้บนท้องถนนในเขตกรุงเทพฯ จึงขอประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนนได้ทราบ และขอเชิญชวนให้มาใช้บริการตรวจเช็คควันดำฟรี เพื่อร่วมมือกันลดปัญหาค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก pm 2.5 เกินค่ามาตรฐานและหากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมสามารถสอบถามได้ที่ศูนย์ควบคุมและสั่งการจราจร (บก. 02) หมายเลขโทรศัพท์ 1197 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง หรือทางแอพพลิเคชั่น M-Help Me
ทางด้าน พ.ต.อ.พายัพ กล่าวว่า จากนี้ตำรวจจราจรยังต้องหารือร่วมกับกรมการขนส่งถึงมาตรการทางกฎหมายอีกครั้งว่าจะมอบหมายให้ตำรวจมีหน้าที่รับผิดชอบดำเนินการกับรถยนต์ควันดำได้อย่างไรบ้าง เนื่องด้วยปัจจุบันตำรวจได้รับมอบอำนาจจากกรมควบคุมมลพิษที่จะสั่งห้ามใช้รถยนต์ที่มีควันดำเกินมาตรฐาน ซึ่งเกณฑ์การตรวจวัดจะกำหนดค่าควันไม่เกินร้อยละ 50 ด้วยระบบกระดาษกรอง และไม่เกินร้อยละ 45 ด้วยระบบตรวจวัดความทึบแสง หากพบเกินกว่าที่กำหนด ก็จะปิดสติ๊กเกอร์สีเหลืองที่หน้ารถ เพื่อห้ามใช้ชั่วคราวและนำไปปรับปรุงแก้ไขภายใน 30 วัน ก่อนกลับมาให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบอีกครั้ง ไม่เช่นนั้นจะถูกปิดสติ๊กเกอร์สีแดงสั่งห้ามใช้เด็ดขาด ซึ่งการขับขี่รถยนต์ควันดำเป็นความผิดอาญา มีโทษปรับสูงสุด 1,000 บาท สำหรับรถขนาดเล็ก และมีโทษปรับสูงสุด 50,000 บาท สำหรับรถขนาดใหญ่ ขณะที่ตำรวจสามารถสั่งระงับการใช้รถยนต์ขนาดเล็ก เช่น รถตู้ รถกระบะ รถเก๋ง ตามที่กำหนดตาม พ.ร.บ.รถยนต์ กำหนดได้ แต่กรมการขนส่ง จะสั่งห้ามใช้รถขนาดใหญ่ตั้งแต่ 6 ล้อขึ้นไป ตามที่ พ.ร.บ.ขนส่ง กำหนด ซึ่งตำรวจทำได้เพียงออกใบสั่งเท่านั้น
จากนั้นทางพล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น. ได้ตรวจศูนย์เพื่อติดตามการตรวจวัดควันดำ ที่ศูนย์ควบคุมและสั่งการ (บก.02) ซึ่งศูนย์ดังกล่าวสามารถควบคุมสั่งการจุดตรวจวัดมลภาวะที่ตั้งอยู่ตามจุดต่างๆ ทั่วทั้งกรุงเทพฯ โดยได้มีการสาธิตการสั่งการกับจุดตรวจวัดมลภาวะบริเวณดอนเมือง ซึ่งได้มีการรายงานผลการตรวจควันดำรถใหญ่และรถเล็กพบว่าผลจากการสุ่มตรวจ 15 คัน พบว่ามีรถที่มีค่าควันดำเกินมาตรฐานจำนวน 5 คัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง