ข่าว

'ประวิตร' ย้ำ 2 วัน คดีชิงทอง ชัด! ตำรวจเร่งขมวดปม

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

'บิ๊กป้อม' แย้ม 2 วัน มีข่าวดีคดีฆ่า 3 ศพ ชิงทอง ด้าน รอง ผบ.ตร. เร่งตามคดี

            วันที่ 14 มกราคม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าการจับกุมคนร้ายปล้นร้านทองที่ จ.ลพบุรี ว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ได้รายงานมา แต่มีความคืบหน้าพอสมควร​ ฝ่ายสืบสวนสอบสวนกำลังดำเนินการอยู่ ภายใน 1-2 วันนี้จะมีความชัดเจน​ ซึ่งตำรวจแจ้งมาอย่างนี้ แต่ไม่รู้ว่าตำรวจจะได้ตัวจริงมาหรือไม่

          ผู้สื่อข่าวถามว่า​ แนวโน้มอาจะเป็นคนในเครื่องแบบหรือพลเรือน พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ยังไม่รู้เหมือนกัน

        ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวว่า ทางรัฐบาลเองเร่งรัดคดีนี้อยู่แล้ว แต่การเร่งการทำงานเกินไปก็เป็นการกดดันเจ้าหน้าที่ ขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำงาน ดำเนินการด้วยความโปร่งใส เพราะไม่อยากให้ไปจับกุมคนที่ไม่ได้กระทำความผิดมา

     “ทุกอย่างก็เหมือนคดีอื่นๆ แต่คดีนี้เป็นคดีอุกฉกรรจ์ เป็นคดีที่คนให้ความสนใจ ซึ่งผมได้เร่งรัดเขาอยู่แล้ว แต่การเผยแพร่ข่าวทุกวันไม่มีประโยชน์อะไร เพราะต้องอย่าลืมว่าผู้ร้ายติดตามข่าวสารดูทีวีเหมือนกัน จะให้มาบอกว่าได้ตัวแล้ว สงสัยคนโน้นคนนี้ อาจทำให้คนร้ายหนีได้ เหมือนเป็นการช่วยคนร้าย” นายกรัฐมนตรีกล่าวและว่า ได้ย้ำไปแล้วว่าอย่าให้ข่าวอย่างเด็ดขาด เป็นเรื่องของคนทำงาน ซึ่งส่วนใหญ่จับกุมได้หมด

      ส่วนที่ จ.ลพบุรี วันเดียวกัน พล.ต.ต.ณัฐพล ศุกระศร ผบก.ภ.จว.ลพบุรี กล่าวว่า การดำเนินการของตำรวจมีความชัดเจนขึ้น ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมามีพลเมืองดีและประชาชนให้ความร่วมมือในการส่งข้อมูลเข้ามาแจ้งข่าวค่อนข้างเยอะ ทำให้ตำรวจทำงานได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะกล้องหน้ารถเส้นทางบายพาสช่วงเวลา 20.00-22.00 น. ของวันเกิดเหตุ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างประสานงานส่งกล้องวงจรปิดเข้ามาเพื่อตรวจสอบ

     “เมื่อวานนี้ มีการนำหุ่นจำลองมาที่สถานีตำรวจท่องเที่ยวเพื่อจำลองการแต่งกายของคนร้าย เพื่อทราบถึงการแต่งกายของคนร้ายในการก่อเหตุ เพื่อให้ตำรวจปฏิบัติหน้าที่และสังเกตบุคคลที่มีลักษณะใกล้เคียงคนร้ายได้ง่ายขึ้น” พล.ต.ต.ณัฐพล กล่าว

      ผบก.ภ.จว.ลพบุรี กล่าวอีกว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการเชิญบุคคลใดเข้ามาสอบปากคำ ส่วนการตรวจค้นบ้าน เป็นเพียงการพิสูจน์ทราบข้อมูลเพียงเท่านั้น แต่ยังไม่สามารถบอกข้อมูลได้ ยอมรับว่าในทุกพื้นที่ใน จ.ลพบุรี ทั้งชุมชน หมู่บ้าน หน่วยงานราชการ มีการตรวจสอบทั้งหมด ส่วนกรณีที่ตำรวจส่งเอกสารขอสัญญาณโทรศัพท์จากหน่วยงานเอกชน มีการดำเนินการในทุกด้านเพื่อได้ข้อมูลที่ชัดเจน โดยตัวคนร้ายที่ก่อเหตุครั้งนี้ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ยังยืนยันไม่ได้ 100% ว่าอยู่ในประเทศ หรือนอกประเทศ ส่วนเสื้อผ้าที่คนร้ายใช้ก่อเหตุขณะนี้ยังไม่พบ

     สำหรับกรณีที่ พล.อ.ประวิตร ระบุว่า อีก 2 วันจะได้ตัวผู้ก่อเหตุนั้น พล.ต.ต.ณัฐพล ระบุว่า จะพยายามให้ดีที่สุด ซึ่งทุกคดีมีความยากง่ายต่างกัน ทั้งนี้เพื่อตอบคำถามสังคมได้อย่างไม่มีข้อสงสัย

     รายงานข่าวแจ้งว่า เจ้าหน้าที่ชุดคลี่คลายคดีได้ลงพื้นที่ทำงานจนทราบว่าคนร้ายได้ซื้อเสื้อผ้าวันเกิดเหตุที่ร้านเสื้อผ้าแห่งหนึ่งใน อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี โดยเป็นเสื้อผ้าละเมิดลิขสิทธิ์ทำเลียนแบบยี่ห้ออื่น ซึ่งตำรวจได้ไปตรวจสอบที่ร้านดังกล่าวแล้วนำหุ่นที่มีลักษณะรูปพรรณคล้ายตัวคนร้ายมาจำลองการสวมใส่เสื้อผ้าให้เป็นลักษณะเดียวกับคนร้าย เพื่อตรวจสอบหาความเป็นไปได้

      ข่าวแจ้งว่า ขณะนี้มีผู้ต้องสงสัยที่ตำรวจเชื่อว่าเป็นคนร้ายที่สามารถระบุได้อย่างชัดเจนแล้วด้วยพยานหลักฐานที่ใกล้เคียงที่สุด มี 3 รายด้วยกัน รายแรกเป็นลูกหลานผู้มีอิทธิพลในจังหวัด เนื่องจากมีท่าทางการเดินคล้ายกับคนร้าย ส่วนรายที่สองเป็นบุคคลมีสี และรายสุดท้ายเป็นพลเรือน ซึ่งทั้ง 3 เป้าหมายเป็นคนในพื้นที่ จ.ลพบุรี ทั้งหมด ตำรวจอยู่ระหว่างการพิสูจน์ทราบอีกครั้ง จากนี้ตำรวจจะเตรียมขอหมายค้นเป้าหมายผู้ที่ครอบครองอาวุธปืนลักษณะใกล้เคียงกับที่คนร้ายใช้

      รายงานข่าวระบุว่า จากการตรวจสอบที่มีคนใช้ปืนลักษณะนี้ใน จ.ลพบุรี 300 กระบอก ตัดลงเหลือ 13 กระบอกแล้ว แบ่งเป็น ทหาร 2 ราย พลเรือน 11 ราย โดยจะนำอาวุธปืนไปเทียบเคียงกับหัวกระสุนปืนที่แพทย์ทำการผ่าชันสูตรศพผู้เสียชีวิตอีกครั้งเพื่อหาว่าอาวุธปืนกระบอกใดตรงกับที่ใช้ก่อเหตุ เพื่อจะได้ทราบว่าคนร้ายคือใคร ขณะเดียวกันตำรวจยังประสานค่ายโทรศัพท์มือถือตรวจสอบสัญญาณผู้ต้องสงสัย นอกจากนี้ ชุดสืบสวนนำโดยตำรวจระดับชั้นผู้ใหญ่ ลงพื้นที่สนามยิงปืน ขอข้อมูลจากสนามยิงปืนในพื้นที่ จ.ลพบุรี 4 แห่ง ซึ่งให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี นอกจากนี้ชุดคลี่คลายคดียังไม่ตัดประเด็นความขัดแย้งส่วนตัวของหนึ่งในผู้เสียหายทิ้ง เนื่องจากมีพยานได้เข้าให้เบาะแสต่อตำรวจ พร้อมระบุว่า พบเห็นบุคคลที่เกี่ยวข้องกับเหยื่อนำรถจักรยานยนต์ยามาฮ่า ฟีโน่ สีแดง-ดำ ที่มีลักษณะคล้ายกับรถที่คนร้ายใช้หลบหนีนั้น ไปเก็บซ่อนไว้ในบ้านหลังหนึ่ง แต่ขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังค้นหาไม่พบ

      ข่าวแจ้งด้วยว่า จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพิ่มเติมก่อนเกิดเหตุพบว่า มีกล้องวงจรปิดละแวกที่เกิดเหตุสามารถบันทึกภาพชายต้องสงสัยที่เชื่อว่าเป็นคนร้ายรายนี้ ขณะขับขี่รถจักรยานยนต์ ยามาฮ่า ฟีโน่ สีแดง-ดำ แล้วไม่มีการปิดบังใบหน้าแต่อย่างใด มีเพียงสวมหมวกกันน็อกแบบครึ่งใบ แต่ภาพดังกล่าวเป็นกล้องที่บันทึกจากระยะไกล ก่อนคนร้ายจะหายไปจากกล้อง กระทั่งมาเกิดเหตุดังกล่าวเพียงไม่นาน ขณะที่หลังก่อเหตุคนร้ายได้ใช้เส้นทางออกถนนบายพาส ต.โพตลาดแก้ว อ.เมือง จ.ลพบุรี ล่าสุดไปปรากฏที่ จ.สิงห์บุรี ระยะทางห่างจากจังหวัดเกิดเหตุไม่เกิน 150 กิโลเมตร ซึ่งมีความเป็นไปได้เพราะรถจักรยานยนต์ที่คนร้ายใช้นั้น หากเติมน้ำมันเต็มถังจะสามารถขับได้เพียงแค่ในระยะดังกล่าวเท่านั้น ไม่อย่างนั้นต้องมีการแวะเติมน้ำมัน ซึ่งเสี่ยงจะถูกพบเห็นได้

      ด้าน พล.ต.อ.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย รองผบ.ตร. หัวหน้าชุดคลี่คลายคดีจี้ชิงทอง เดินทางมาที่สถานีตำรวจท่องเที่ยวลพบุรี เพื่อติดตามความคืบหน้าคดี เปิดเผยว่า ขณะนี้ตำรวจยังไม่ได้คุมตัวผู้ต้องสงสัย 3 คน ทั้งลูกผู้มีอทธิพลในพื้นที่ คนมีสี และพลเรือน เพราะยังอยู่ในระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน แต่มีเส้นทางที่จะนำไปสู่การติดตามจับกุมตัวคนร้ายได้ เพราะตระหนักถึงความสูญเสียต่อญาติผู้เสียหาย และความรู้สึกประชาชน ยอมรับว่าคนร้ายมีพฤติกรรมที่ผิดปกติ ยืนยันว่าตำรวจทำงานแข่งกับเวลา ยังไม่ตัดกลุ่มคนที่ก่อเหตุว่าเป็นกลุ่มใด ทั้งพลเรือน อดีตทหาร กลุ่มนักการเมืองท้องถิ่นผู้มีอิทธิพล

     “ที่ พล.อ.ประวิตร บอกว่าอีก 2 วันจะมีความชัดเจนนั้น ไม่ถือว่าเป็นการกดดัน เชื่อว่าเป็นการให้กำลังใจและต้องการสื่อฝากบอกประชาชนว่า พล.อ.ประวิตรก็ให้อยากจับให้ได้เร็ว ทุกอยากให้จับตัวได้โดยเร็ว และทำงานอย่างเต็มที่ ส่วนคนที่เรียกมาสอบยังไม่มีใครเข้าข่ายต้องสงสัย” รองผบ.ตร. กล่าวและว่า ไม่อยากพูดอะไรมากเพราะคนร้ายติดตามดูอยู่ แต่ไม่เป็นไรปล่อยให้เขากบดานไป ตำรวจจะตามล่าเขาเอง พร้อมวอนให้ประชาชนให้ข้อมูลหากมีเบาะแสคนร้าย

      ขณะที่ พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. เปิดเผย ได้รับรายงานจากพื้นที่ยืนยันว่าผ่านมา 5 วัน คดีมีความคืบหน้าร้อยละ 60-70 ตำรวจสามารถคัดกรองบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องออกไปได้แล้ว ทำให้กลุ่มเป้าหมายแคบลง แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ เพราะจะกระทบแนวทางการสืบสวน ส่วนประเด็นผู้ก่อเหตุเป็นคนในเครื่องแบบหรือคนธรรมดานั้น มองว่าไม่ใช่ประเด็นสำคัญ สิ่งสำคัญคือ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. สั่งจับกุมให้ได้ ไม่มีการละเว้น ไม่ว่าจะเป็นคนมีสีหรือผู้มีอิทธิพล

      รองโฆษก ตร. ยืนยันด้วยว่า ตำรวจที่ลงพื้นที่คลี่คลายคดีไม่มีขัดแย้งกัน ทำงานอย่างมีเอกภาพ แต่ยอมรับว่าคดีมีความยาก อย่างเรื่องการพิสูจน์ทราบตัวบุคคล แต่ขอให้เชื่อมั่นในการทำงานโดยจะมีคำตอบให้สังคมเร็ววัน และช่วงเย็นวันนี้(14 ม.ค.)จะมีการประชุมทีมสืบสวนชุดใหญ่ หลังแบ่งหน้าที่ลงไปสืบสวนสอบสวนในแต่ละประเด็น

      ส่วนนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงการเยียวยาเหยื่อว่า ต้องแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ กรณีผู้เสียชีวิตกับผู้ได้รับบาดเจ็บ โดยในส่วนผู้เสียชีวิตจะมีการจ่ายเงินเยียวยาให้อย่างช้าภายในวันที่ 20 มกราคม รายละ 110,000 บาท แบ่งเป็นค่าเสียชีวิต 50,000 บาท ค่าทำศพ 20,000 บาท และค่าอุปการะเลี้ยงดู 40,000 บาท 

    “ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บที่ยังรักษาพยาบาลอยู่ ยังไม่สามารถคิดวงเงินได้ เพราะยังไม่ทราบว่าจะเสียเวลาในการทำงานเท่าไร และค่ารักษาพยาบาลเท่าไร เราต้องนำค่ารักษาพยาบาลและเวลาที่แพทย์ให้พักฟื้นมาคำนวณด้วย ยืนยันผู้รับบาดเจ็บจะได้รับเงินเยียวยาแน่นอน” รมว.ยุติธรรมระบุ

      นอกจากนี้แหล่งข่าวฝ่ายสืบสวนแจ้งว่าการล็อกเป้าผู้ต้องสงสัยโดยมุ่งไปยังทหารนอกราชการนั้น สายสืบได้ออกติดตามหลักฐานที่เป็นเสื้อผ้า รองเท้า อาวุธปืนกระสุนปืนที่สนามยิงปืน และจักรยานยนต์ในวันก่อเหตุ ซึ่งต้องใช้เป็นหลักฐานเพื่อการออกหมายจับเพื่อจับกุม นอกจากนี้ยังออกไปตรวจสอบโรงกลึงใน จ.สมุทรสาคร ทราบว่าเป็นผู้ผลิตท่อเก็บเสียงออกมา 20 อัน โดยส่งมาที่ อ.ชัยบาดาล จ.ลพบุรี 1 อัน ซึ่งกำลังเช็กดูหลักฐานดังกล่าวว่าผู้รับเป็นใครกันแน่

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ