วิระชัย บุกตรวจเก๋ง บิ๊กโจ๊ก ไม่รู้คลิป บิ๊กแป๊ะ สั่งเบรก

          จากกรณีคลิปเสียงการสนทนาทางโทรศัพท์ปริศนา ซึ่งมีการคาดการณ์ว่าน่าจะเป็นเสียงของ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ขณะกำลังพูดคุยกับ พล.ต.ท.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. โดยมีข้อความการสนทนาในลักษณะสั่งการ ไม่ให้นายตำรวจผู้นี้ ลงมาทำคดีคนร้ายยิงถล่มรถยนต์ของ พล.ต.ท.โทสุรเชษฐ์ หักพาล ที่ปรึกษาพิเศษสำนักนายกรัฐมนตรี อดีตผู้บัญชาการตำรวจคนเข้าเมือง โดยที่เสียงของผู้สั่งการ บอกว่า คดีนี้เป็นหน้าที่ของกองบัญชาการตำรวจนครบาล ซึ่งมีการรายงานความคืบหน้าให้ทราบอยู่ตลอดเวลา พร้อมทั้งมีการปรารภในทำนองตำหนิด้วยว่า บุคคลทั้งสองกำลังคิดทำอะไรอยู่ โดยมีการไปมาหาสู่กันที่คอนโดฯ แห่งหนึ่งย่านเพลินจิต อยู่ตลอดเวลา ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น  

อ่านข่าว-วิระชัย ล่องหน ไม่โผล่ตรวจสอบ ชำแหละรถ บิ๊กโจ๊ก

           ที่สำนักงานตรวจพิสูจน์หลักฐานกลาง(สพฐ) เมื่อเวลา 11.15 น. วันที่ 9 มกราคม 2563 พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผบ.ตร. ได้เดินทางมาร่วมดูแลการตรวจสอบรถยนต์ของ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กรณีถูกคนร้ายลอบยิง 8 นัด เมื่อกลางดึกวันที่ 6 มกราคม ที่ผ่านมา พร้อมเปิดเผยผลการตรวจสอบว่า หลักฐานที่พบภายในรถถือว่าค่อนข้างมีความสมบูรณ์ โดยหลังจากนี้จะเริ่มนำไปตรวจสอบขยายผล เพิ่มเชื่อมโยงกับฐานข้อมูลเพื่อหาตัวคนร้าย โดยหัวกระสุนที่พบเป็นขนาด 0.38 มม. หรือขนาด 9 มม. รวมถึงจะมีการตรวจสอบอีกด้วยว่า เป็นการยิงจากปืนกระบอกเดียวกันหรือไม่ พร้อมยืนยันว่าระหว่างที่ตนเองทำหน้าที่ รักษาราชการแทน ผบ.ตร. อยู่นั้น จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด 

         พล.ต.อ.วิระชัย กล่าวอีกว่า โดยหลังจากนี้ได้สั่งการให้ทีมสืบสวน บก.น.5 และทีมสืบสวน บก.น.6 ร่วมกันสืบสวนและสะกดรอยตามคนร้าย ซึ่งขณะนี้มีความคืบหน้าไปมากเกี่ยวกับเส้นทางการหลบหนีของคนร้าย รวมถึงจะมีการตรวจสอบรถเบนซ์สีดำ ที่พบใกล้จุดเกิดเหตุว่ามีความเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่      

            ส่วนกรณีที่ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ระบุว่าการยิงรถของตนเองในครั้งนี้ มีความคล้ายคลึงกับการยิงรถนักข่าวเมื่อหลายปีก่อนนั้น พล.ต.อ.วิระชัย กล่าวว่า จากแนวทางการสืบสวนก็จะต้องดำเนินต่อไป ตามพยานและหลักฐานที่พบ เพื่อหาข้อเท็จจริงว่า การก่อเหตุดังกล่าวเป็นการสร้างสถานการณ์ หรือการข่มขู่เพื่อหวังผลบางอย่างหรือไม่

          นอกจากนี้ พล.ต.อ.วิระชัย ยังเปิดเผยถึงกรณีคลิปเสียงสนทนาที่คล้ายกับเสียงของ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. พูดคุยกับตนเองในลักษณะสั่งเบรกไม่ให้ลงมาทำคดีของ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ มากเกินไป ว่า เรื่องนี้ตนเองยังไม่ทราบ จึงต้องขอตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน แต่ก่อนหน้านี้ตนเองก็มีการรายงานทางโทรศัพท์กับผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และก็มีการกำชับเกี่ยวกับการทำงานมาโดยตลอด 

          ผู้สื่อข่าวถามว่า มีความเป็นไปได้หรือไม่ ที่การสนทนาดังกล่าวจะถูกดังฟัง พล.ต.อ.วิระชัย กล่าวว่า ก็อาจเป็นไปได้ เพราะปัจจุบันโทรศัพท์ก็สามารถถูกดักฟังได้ โดยเฉพาะหมายเลขโทรศัพท์ของคนที่มีความสำคัญ ปัจจุบันสามารถทำได้ง่าย