ข่าว

'โจ๊ก'ชน'บิ๊กแป๊ะ' จับคนร้ายไม่ได้ต้องรับผิดชอบ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

'โจ๊ก'ชน'บิ๊กแป๊ะ' จับคนร้ายไม่ได้ต้องรับผิดชอบ บี้ 2 ปมทุจริต แฉจัดซื้อแพงเว่อร์ -ไร้ประสิทธิภาพ ทีมสอบยังยิงขู่-รื้อรถทำหัวกระสุน

กรณี 2 คนร้ายใช้รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงกระหน่ำรถยนต์ส่วนตัวของพล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ที่ปรึกษาพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี อดีตผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (อดีต ผบช.สตม.) จำนวน 8 นัด เหตุเกิดบริเวณร้านนวดย่านบางรัก คืนวันที่ 6 มกราคม ที่ผ่านมา กระทั่งเจ้าตัวออกมาเปิดเผยว่า สาเหตุน่าจะมาจากเรื่องการทุจริตโครงการไปโอเมทริกซ์ของ สตม. ซึ่งอยู่ระหว่างสอบสวนของป.ป.ช. โดยมีนายตำรวจระดับสูงเข้าไปเกี่ยวข้อง ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

 

       ความคืบหน้าวันที่ 8 มกราคม เวลา 13.00 น. พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ได้เดินทางมาที่ สน.บางรัก เพื่อให้ปากคำเกี่ยวกับคดีที่เกิดขึ้น โดยมี พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผบ.ตร. และพล.ต.ต.สุคุณ พรหมายน รอง ผบช.น. เป็นผู้สอบปากคำ

       พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ เปิดเผยก่อนเข้าให้ปากคำว่า คดีนี้น่าจะจับตัวคนก่อเหตุได้ไม่ยากเพราะมีกล้องวงจรปิดมากมาย และส่วนตัวทราบมีผู้สั่งการอยู่เบื้องหลัง โดยเป็นผู้มีอำนาจสั่งการ และอยากจะเรียกร้องให้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ช่วยจับตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีให้ได้ เพราะการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจวาระประจำปีนี้ ผบ.ตร.ออกมายืนยันว่ามีการแต่งตั้งคนดีเข้ามาทำงาน ซึ่งหากจับผู้ก่อเหตุไม่ได้ ผบ.ตร.ต้องรับผิดชอบ

      พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ บอกว่า ส่วนตัวแล้วอยากกลับมาเป็นตำรวจแต่คงไม่จำเป็นต้องสร้างเรื่องหรือสร้างสถานการณ์ต่างๆ เพื่อให้ตัวเองเด่นดัง เพราะตั้งแต่พ้นจากตำรวจก็เก็บตัวเงียบมาตลอด ไม่เคยออกมาโวยวาย หรือร้องขอต่อสื่อมวลชน และส่วนตัวยังคงเชื่อมั่นว่าสาเหตุที่ถูกลอบยิงรถยนต์มาจากการที่ตัวเองเตรียมเข้าเป็นพยานกรณีที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช.สอบสวนโครงการจัดซื้อจัดจ้างซื้อ “ไบโอเมทริกซ์” ซึ่งส่วนตัวมองว่า โครงการนี้มีมูลค่าสูงถึง 2,000 ล้านบาท และผ่านการพิจารณาเรื่องจากอดีต ผบช.สตม.มามากถึง 3 คน ดังนั้นการที่ตัดสินใจยกเลิกโครงการนี้ในสมัยที่ดำรงตำแหน่งเป็น ผบช.สตม. จึงถือเป็นการทำเพื่อผลประโยชน์ของประชาชนที่จะได้รับ

      "วันนี้ที่ผมเดินทางมาก็ไม่ได้มีอะไร ผมมาตัวเปล่า และขอบคุณสื่อมวลชนที่มากันมากมาย ก่อนหน้านี้ผมก็พยายามเก็บเนื้อเก็บตัวมาเป็นปีจนกระทั่งเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น ผมไม่เคยคาดคิดว่าจะได้เจอสื่อมวลชนในสถานการณ์เช่นนี้ แต่ควรจะพบเจอกันในสถานการณ์ที่ผมได้ทำเพื่อประเทศชาติมากกว่า ผมไม่ได้มีเอกสารอะไรมา มีแค่เอกสารเกี่ยวกับโครงการไบโอเมทริกซ์ ซึ่งผมก็พูดไปหลายสื่อจากเหตุการณ์ที่มีคนมายิงรถผม ไม่ต้องไปกังวลใจว่าผมจะไปสร้างภาพในสถานการณ์อะไร ตอนนี้รู้ตัวแล้วว่าเป็นใคร คาดว่าน่าจะเกี่ยวข้องกับโครงการนี้ จึงอยากให้สื่อมวลชนไปตรวจสอบดูต่อว่าใครเป็นผู้สั่งยุติโครงการดังกล่าว นอกจากนี้คาดว่ากลุ่มคนร้ายดังกล่าวอาจจะเกี่ยวข้องเเละเป็นกลุ่มเดียวกันกับกลุ่มที่ลงมือก่อเหตุยิงรถนักข่าวเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา หากตอนนี้ผมเป็นผบ.ตร. และมีเหตุในลักษณะนี้เกิดขึ้นแต่ยังจับตัวคนรายไม่ได้ผมก็จะออกมารับผิดชอบ” พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าว

     ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่ สน.บางรัก มีบรรดาผู้สื่อข่าวและช่างภาพจากทุกแขนงจำนวนมากมาเฝ้ารอเกาะติดคดีดังกล่าว โดย พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ มีสีหน้ายิ้มแย้ม สดใสและกล่าวทักทายบรรดาผู้สื่อข่าวอย่างอารมณ์ดี พร้อมให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าให้ปากคำ หลังจากนั้นก็เข้าให้ปากคำตามนัดหมาย โดยใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมง

     พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ยังให้สัมภาษษณ์เพิ่มเติมหลังการสอบปากคำว่า วันนี้ได้เข้าให้ข้อมูลหลายส่วนทั้งเรื่องโครงการทุจริตจัดซื้อจัดจ้างเครื่องไบโอเมทริกซ์ หรือเครื่องพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล ที่เซ็นยกเลิกคำสั่งสมัยเป็น ผบช.สตม. ซึ่งเชื่อว่าสาเหตุการยิงรถครั้งนี้เกิดจากเรื่องดังกล่าว พร้อมนำเอกสารรายงานแจ้งปัญหาการใช้งานของไบโอเมทริกซ์ ซึ่งมีผู้หวังดีส่งมาให้ ยืนยันว่าระบบนี้ไม่ได้ดีจริง และที่จับได้หลายๆคดีเป็นเพราะฝีมือตำรวจทั้งนั้น นอกจากนี้ยังให้ข้อมูลเกี่ยวกับการติดตามคนร้ายที่ขับรถจักรยานยนต์ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงรถ รวมถึงให้ข้อมูลในเรื่องรถเบนซ์สีดำต้องสงสัยที่ขับเข้ามาวนเวียนภายในบริเวณร้านนวดแผนโบราณก่อนเกิดเหตุ ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานแต่ยังไม่สามารถพิสูจน์ทราบตัวบุคคลได้ว่าผู้ก่อเหตุเป็นใคร

      พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวอีกว่า สำหรับเรื่องรถสายตรวจอัจฉริยะยี่ห้อบีเอ็มดับเบิลยูิ ที่ สตม. จัดซื้อจัดจ้างราคากว่า 900 ล้านบาท แต่นำไปใช้เพียงแค่นำขบวน ทั้งที่หน่วยงานอื่นใช้รถที่ราคาถูกกว่า ซึ่งโครงการดังกล่าวมีค่าซ่อมบำรุงที่ค่อนข้างสูงและมองว่าเป็นการนำภาษีประชาชนมาใช้โดยไม่เกิดประโยชน์สูงสุด ถือว่าวันนี้ได้ให้ข้อมูลที่สามารถให้ได้ครบเรียบร้อยแล้ว 

     “เอกสารรายงานปัญหาของโครงการไบโอเมทริกซ์ ซึ่งพบข้อบกพร่องของระบบ อีกทั้งยังเป็นข้อเท็จจริงที่ผมเก็บเอกสารไว้นานแล้ว จึงนำออกมาแจ้งให้ทุกคนได้ทราบทั่วกัน ส่วนในคดียิงรถผมก็ไม่ทราบเช่นกันว่ากระสุนที่คนร้ายใช้ก่อเหตุเป็นกระสุนขนาดใด ไม่แน่ใจว่าเป็นปืนลูกโม่หรือปืนออโตเมติก จึงได้เซ็นเอกสารฉบับหนึ่งที่เจ้าหน้าที่ระบุว่าเป็นการให้ความยินยอมจากผมโดยอนุญาตให้เจ้าหน้าที่สามารถรื้อรถตรวจสอบหาหัวกระสุนที่อาจอยู่ในรถได้ อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ผมต้องระมัดระวังมากขึ้นกว่าเดิม ถามว่ากลัวหรือไม่ ก็ไม่กลัว เพราะอะไรจะเกิดก็ต้องเกิด เชื่อว่าผู้ที่อยู่เบื้องหลังตัวบงการเป็นผู้ที่มีอำนาจ หากไม่มีอำนาจก็คงไม่มีใครกล้าลงมือก่อเหตุในลักษณะเช่นนี้” พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวย้ำ

     วันเดียวกัน เวลา 12.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. เปิดเผยคดีดังกล่าวว่า หากได้หัวกระสุนเพิ่มเติมจะช่วยในเรื่องการตรวจสอบเปรียบเทียบให้สิ้นสงสัยว่าหัวกระสุนตรงกับการก่อคดีอะไรหรือไม่ และจะยืนยันว่ากระสุนที่ถูกใช้ในการก่อเหตุเป็นขนาดใด เบื้องต้นเชื่อว่าเป็นกระสุนขนาด .38 หรือขนาด 9 มม. ขณะนี้ชุดสืบสวนอยู่ระหว่างการตรวจพิสูจน์หาตัวผู้ก่อเหตุว่าเป็นบุคคลใด ส่วนสาเหตุยังไม่มีการตัดประเด็นใดทิ้ง ต้องพิสูจน์ทราบในทุกเรื่อง แม้ว่า พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ จะเชื่อว่าเกี่ยวข้องกับเรื่องไบโอเมทริกซ์ 

     พล.ต.ท.ภัคพงศ์ กล่าวอีกว่า ลักษณะในการก่อเหตุคนยิงรู้อยู่แล้วว่าในรถไม่มีคนจึงไม่น่าจะประสงค์ต่อชีวิต ขณะเดียวกันหลังเกิดเหตุ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ยังไม่มีการร้องขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไปคุ้มกันแต่อย่างใด นอกจากนี้ยังไม่รู้วัตถุประสงค์ในการก่อเหตุครั้งนี้ จะต้องจับตัวคนร้ายให้ได้ก่อนจึงจะทราบว่าสาเหตุเกิดจากอะไร ซึ่งชุดสืบสวนสอบสวนกำลังอยู่ในระหว่างการดำเนินการตรวจสอบหาข้อเท็จจริง โดยมอบหมายให้ พล.ต.ต.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ รอง ผบช.น. เป็นหัวหน้าชุดสืบสวน มีการแบ่งงานกันทำ พร้อมทั้งให้ตำรวจสืบสวน บก.น.6 รับผิดชอบตรวจสอบก่อนเกิดเหตุ ส่วน สน.บางรัก รับผิดชอบขณะเกิดเหตุ และ บก.สส.บช.น. รับผิดชอบตรวจสอบหลังเกิดเหตุ ส่วนการสอบสวนมี พล.ต.ต.สุคุณ พรหมายน รอง ผบช.น. เป็นผู้ดูแล อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังไม่มีการตั้งคณะพนักงานสอบสวนระดับ บก. ซึ่งได้มอบหมายให้ สน.บางรัก เป็นผู้ดำเนินการ ส่วน พล.ต.ต.สุคุณ เป็นผู้ควบคุมในภาพรวมของการสอบสวน ทั้งนี้หากตรวจสอบแล้วพบว่ามีความยุ่งยากซับซ้อนจึงจะตั้งพนักงานสอบสวน

      รายงานข่าวแจ้งว่าสำหรับปลอกกระสุนปืนที่หายไป ไม่พบในที่เกิดเหตุนั้น มีความเป็นไปได้ว่าอาวุธปืนที่ใช้อาจเป็นอาวุธปืนรีวอลเวอร์ หรือออโตเมติก ซึ่งปัจจุบันเทคโนโลยีที่มีขีดความสามารถเก็บปลอกกระสุนได้ กลุ่มมือปืนใช้เยอะ จะทราบว่ามีถุงเก็บปลอก เวลายิงปลอกกระสุนจะกระเด็นเข้าไปในถุง จึงทำให้ในที่เกิดเหตุไม่พบปลอกกระสุนปืน แต่ทั้งนี้คาดว่าน่าจะเป็นอาวุธปืนขนาด .38 หรือ ขนาด 9 มม. เนื่องจากทั้งสองขนาดมีหัวกระสุนเท่ากัน อย่างไรก็ตามหัวกระสุน 2 หัวที่ตกอยู่ในที่เกิดเหตุนั้นยังมีสภาพบิดเบี้ยวจึงจำเป็นต้องหาหัวกระสุนที่ตกอยู่ในรถอีก 6 หัวมาตรวจสอบเปรียบเทียบกับ 2 หัวกระสุนที่พบเพื่อยืนยันขนาดกระสุนที่ถูกต้อง ซึ่งจะทำให้เจ้าหน้าที่ทำงานได้แม่นยำ และสามารถชี้ได้ว่าใช้อาวุธปืนอะไรในการก่อเหตุ

     ด้านนายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการ ป.ป.ช. กล่าวถึงกระแสข่าวที่ว่า ป.ป.ช.จะเรียก พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ มาให้ข้อมูลโครงการไบโอเมทริกซ์ ของ สตม.วงเงิน 2,100 ล้านบาทที่ถูกร้องเรียนเรื่องความไม่โปร่งใส ว่าขณะนี้การตรวจสอบโครงการไบโอเมทริกซ์ ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นของคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งยังไม่มีการตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมาไต่สวน โดยมีการรวบรวมพยานหลักฐานไปได้แล้วประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์ แต่เนื่องจากโครงการดังกล่าวมีมูลค่าสูง อาจจะต้องพิจารณาเรียกตัวบุคคลต่างๆ มาให้ข้อมูลต่อ ป.ป.ช. และคณะทำงานกำลังพิจารณาว่าจะต้องเรียกใครมาให้ข้อมูลหรือไม่ ซึ่งในสัปดาห์หน้าจะลงพื้นที่ไปตรวจสอบดูการติดตั้งเครื่องไบโอเมทริกซ์ตามพื้นที่จังหวัดต่างๆ ว่าสามารถใช้งานได้จริงหรือไม่

    “ส่วนจะต้องเรียก พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ มาให้ข้อมูลต่อป.ป.ช.หรือไม่นั้น อยู่ระหว่างการใช้ดุลพินิจของคณะทำงานจะพิจารณาว่ามีความเกี่ยวข้องมากน้อยแค่ไหน แต่ยังไม่มีการแจ้งมายังที่ประชุมป.ป.ช.ว่าจะเรียก พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ มาให้ข้อมูล หากมีการเรียกมาให้ข้อมูลตามปกติ ป.ป.ช.มีกระบวนการคุ้มครองพยานอยู่แล้วแต่จะต้องมีการร้องขอเข้ามาก่อนถึงจะให้ความคุ้มครองพยานตามขั้นตอนได้” เลขาธิการ ป.ป.ช. กล่าว

     ขณะที่ผู้สื่อข่าวประจำทำเนียบรัฐบาลได้สอบถามคดีดังกล่าวกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี โดยเฉพาะประเด็นเกี่ยวข้องกับเรื่องไบโอเมทริกซ์ ซึ่งรองนายกฯ พูดเพียงสั้นๆ ว่า ไม่ตอบ เพราะไม่รู้ เป็นเรื่องของตำรวจเขา

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ