ข่าว

โฆษก ตร.ยืนยัน 19 ธ.ค ใบสั่งออนไลน์พร้อม

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

โฆษก ตร. ยืนยัน ระบบชำระค่าปรับ จราจรออนไลน์ พร้อมใช้งานตามกำหนด 19 ธ.ค. หลังรวมหารือ พัฒนา "เชื่อมโยง เว็บ แอพลิเคชั่น ข้อมูล" รถทุกประเภท เสถียรแน่นอน

 

 

          เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. 2562 - พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. เปิดเผยถึงกรณีความพร้อมดีเดย์ 19 ธ.ค.นี้ กรมการขนส่งทางบกจะรับชำระค่าปรับตามใบสั่งที่ค้างชำระ แทน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยผู้ขับขี่หรือเจ้าของรถสามารถชำระค่าปรับพร้อมกับการชำระภาษีประจำปีได้ที่สำนักงานขนส่งทุกแห่งทั่วประเทศ นั้น ว่า ขอเรียนว่าหลังจากที่ กรมการขนส่งทางบก และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ การเชื่อมโยงข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบังคับใช้กฎหมายว่าด้วยการจราจรทางบก ไปแล้วเมื่อวันที่ 25 ก.ย.2562 ที่ผ่านมานั้น พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้มอบหมายให้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบ.ตร. ลงไปกำกับดูแล โดยมี พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. พร้อมคณะทำงานได้ทำการขับเคลื่อนความร่วมมือในการเชื่อมโยงข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ กับ กรมการขนส่งทางบก  

 

          รองโฆษก ตร. กล่าวว่า โดยที่ผ่านมามีการร่วมประชุมหารือระหว่างหน่วยงานไปแล้ว 5 ครั้ง พร้อมทั้งมีและการทดสอบระบบที่เกี่ยวข้องไปแล้ว ประมาณ 109 ครั้ง โดยในวันที่ 18 ธ.ค.62 เวลาประมาณ 15.30 น. มีการทดสอบระบบการเชื่อมโยงข้อมูลใบสั่งของรถทุกประเภท ของสำนักงานขนส่งในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร เพื่อเตรียมความพร้อมให้กับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน พัฒนาระบบการเชื่อมโยงข้อมูลให้รวดเร็ว และประสิทธิภาพสูงสุด เกิดความเสถียร โดยก่อนหน้านี้ พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 141/1 แก้ไขเพิ่มเติมโดย คำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ 14/2560 ซึ่งมีผลบังคับใช้เมื่อ 16 มี.ค. 2560 กำหนดให้นายทะเบียนกรมการขนส่งทางบก มีอำนาจรับชำระค่าปรับที่ค้างชำระตามใบสั่งแทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แต่ในกรณีดังกล่าวยังไม่สามารถดำเนินการให้เป็นรูปธรรมได้ เนื่องจากระบบข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ของทั้งสองหน่วยงานยังไม่เชื่อมโยงกัน 


          ต่อมา พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 4/1 แก้ไขเพิ่มเติมโดย (ฉบับที่ 12) พ.ศ.2562 ซึ่งมีผลบังคับใช้ในวันที่ 20 ก.ย.2562 กำหนดให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติและกรมการขนส่งทางบก เชื่อมโยงข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ร่วมกัน ซึ่งขณะนี้ทั้งสองหน่วยงานได้ทำการเชื่อมโยงข้อมูลกันเรียบร้อยแล้ว 


          รอง โฆษก ตร. กล่าวอีกว่า ขณะนี้ยังมีระเบียบ ข้อกำหนด บางฉบับ ที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติและกรมการขนส่งทางบก ต้องร่วมกันกำหนดหลักเกณฑ์ ขั้นตอนและวิธีการต่างๆ ให้แล้วเสร็จ เพื่อรองรับการรับชำระค่าปรับ ณ ที่ทำการของกรมการขนส่งทางบกตามพื้นที่ต่างๆ ตามใบสั่งที่ค้างชำระแทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยเมื่อ 2 หน่วยงานได้ดำเนินการปรับปรุงระบบ การเชื่อมโยงข้อมูลจนแล้วเสร็จ ผู้ขับขี่หรือเจ้าของรถสามารถชำระค่าปรับดังกล่าวพร้อมกับการชำระภาษีประจำปี ได้ที่สำนักงานขนส่งทุกแห่งทั่วประเทศ 

 

          ทั้งนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้จัดทำเว็บไซต์ใบสั่งจราจรออนไลน์สำหรับประชาชน คือ https://ptm.police.go.th/eTicket/#/ หรือเรียกชื่อย่อว่า e-Ticket เพื่อให้ประชาชนได้ศึกษาข้อมูล และตรวจสอบใบสั่งจราจร จำนวนค่าปรับและช่องทางการชำระค่าปรับ นอกจากนี้ยังได้พัฒนาระบบวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์อย่างอื่นควบคู่ไปด้วย เช่น Web service และ Application “ขับดี” ซึ่ง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือโครงการประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสาร เพื่อความสะดวกและปลอดภัยในการจราจรในรูปแบบโมบายล์แอปพลิเคชัน เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2562  โดย Application ขับดี ในช่วงแรกของการพัฒนาจะสามารถตรวจสอบใบอนุญาตขับขี่ ตรวจสอบใบสั่ง ตรวจสอบคะแนนความประพฤติผู้ขับขี่พร้อมแจ้งเตือนเมื่อถูกตัดคะแนน และการโต้แย้งข้อกล่าวหาของผู้ขับขี่


          สำหรับ เจตนารมณ์ของ พ.ร.บ.จราจรทางบก ที่แก้ไขเพิ่มเติมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบังคับใช้กฎหมายว่าด้วยการจราจรทางบก ทำให้ผู้ขับขี่ที่กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องกับรถหรือการใช้ทาง ต้องถูกลงโทษทั้งทางอาญาและทางปกครองด้วยการควบคุมการกระทำความผิดด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ เนื่องจากการเชื่อมโยงข้อมูลดังกล่าว จะบันทึกข้อมูลการกระทำความผิดของผู้ขับขี่ บันทึกค่าปรับที่ค้างชำระตามใบสั่ง การตัดคะแนนความประพฤติของผู้ขับขี่และการพักใช้ใบอนุญาตขับขี่เมื่อคะแนนหมด การระงับการใช้รถชั่วคราวเมื่อเจ้าพนักงานจราจรเห็นว่าการขับรถต่อไปอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินของตนเองหรือผู้อื่น ซึ่งจะทำให้ผู้ขับขี่เกรงกลัว และเคารพกฎหมายมากขึ้น ส่งผลให้อุบัติเหตุบนท้องถนนลดลง

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ