พ่อกับปู่ทุกข์ระทม ลูกสาววัย 14 ปี หายออกจากบ้าน

                             สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 14 พ.ย.ที่ผ่านมา พ่อและปู่ของเด็กหญิงหนึ่ง (นามสมมุติ) อายุ 14 ปี นักเรียนชั้นม.1 ซึ่งอาศัยอยู่ในจ.นครสวรรค์ ร้องทุกข์ต่อ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี แจ้งว่า เด็กหญิงหนึ่งมีพฤติกรรมติดเพื่อนไม่ค่อยกลับบ้าน ไม่เรียนหนังสือ และภายหลังหายตัวไปร่วม 1 เดือนแล้ว ทางบ้านติดต่อไม่ได้เลย เกรงว่าจะถูกเพื่อนชักชวนไปเสพยาเสพติดมั่วสุมจนเสียคน ที่ผ่านมาพ่อกับแม่แยกทางกันจึงไม่ค่อยมีเวลาดูแลลูก ขอมูลนิธิปวีณาฯ ช่วยเหลือด้วย หลังรับเรื่องนางปวีณา ได้ประสานไปยัง พ.ต.อ.ชัยเสถียร มณีจักร ผกก.สภ.บรรพตพิสัย จ.นครสวรรค์ ช่วยสืบหาเด็กหญิงหนึ่ง ก่อนให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิปวีณาฯ พาพ่อกับปู่เข้าแจ้งความ ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามไปพบเด็กหญิงหนึ่งอาศัยรวมอยู่กับกลุ่มเพื่อนวัยรุ่นหลายคนในห้องเช่าแห่งหนึ่งในพื้นที่ ขณะเดียวกันนางปวีณาก็ได้ประสาน นางศรีสุดา เถาเมืองใจ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครสวรรค์ และนายสมหมาย เฉลิมมุข หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดนครสวรรค์ เข้าช่วยเหลือรับเด็กหญิงเข้าอยู่ในความคุ้มครอง จากการที่นักสังคมสงเคราะห์สอบถาม เด็กหญิงหนึ่ง เล่าว่า ก่อนหน้านี้ตนไปเที่ยวบ้านเพื่อนและได้รู้จักกับนายก อบต.คนหนึ่ง ที่มานั่งดื่มเหล้ากับพ่อแม่เพื่อนแต่ก็ไม่ได้คิดอะไร หลายวันต่อมาตนกับเพื่อนก็ไปเดินห้างสรรพสินค้าเห็นชุดชั้นในผู้หญิงสวยๆ จนเกิดความอยากได้ แต่ไม่มีเงินซื้อ ตนกับเพื่อนจึงแอบขโมยจนถูกพนักงานห้างฯ จับได้ และถูกดำเนินคดีส่งตัวเข้าสถานพินิจ ต่อมา นายก อบต.

ได้มาเยี่ยมตนและยื่นข้อเสนอจะช่วยประกันตัวออกมา แต่ต้องยอมไปหลับนอนกับเขาด้วย ตนจึงจำใจต้องยอมตกลงเพื่อให้ได้พ้นจากสถานพินิจ หลังออกมาแล้วนายก อบต. ก็ล่อลวงตนไปกระทำชำเรา หลังจากทำกับตนเสร็จนายก อบต. ก็ปลอบใจและให้เงินตนใช้ 1,000 บาท จากนั้นตนก็ถูกกระทำชำเราเรื่อยมาแต่ต้องยอมทน ทุกครั้งจะได้รับเงินประมาณ 1,000-1,500 บาท เป็นค่าตอบแทน ทั้งที่ตนเองก็อยากเรียนหนังสือแต่ไม่รู้จะทำอย่างไร ขณะเดียวกันนายกองค์การบริหารส่วนตำบลก็ได้เช่าห้องให้ตนอยู่อาศัยกับเพื่อนๆ เวลารวมตัวกับเพื่อนบางครั้งก็ชวนกันเสพไอซ์ และกิน "โปรโคดิล" คือเอายาแก้แพ้ ยาแก้ไอ ยาแก้ปวด ยาทรามาดอล ผสมกันน้ำอัดลม เมื่อดื่มแล้วจะมีอาการมึนเมาเหมือนกับดื่มแอลกอฮอล์ เพราะคิดหาทางออกไม่ได้ว่าจะทำยังไงให้หลุดพ้นจากตรงนี้ ต่อมาพนักงานสอบสวน สภ.บรรพตพิสัย ได้ทำการส่งตัวเด็กหญิงหนึ่งไปตรวจร่างกายพบร่องรอยถูกล่วงละเมิดทางเพศ และมีสารเสพติด (ไอซ์) อยู่ในร่างกาย ก่อนจะนัดสอบสหวิชาชีพในวันที่ 20 พ.ย.62 โดยเด็กหญิงหนึ่งให้การชัดเจน หลัง

สอบสหวิชาชีพเสร็จทางพนักงานสอบสวนจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับนายกองค์การบริหารส่วนตำบลที่ก่อเหตุ ในข้อหา พรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ไปเพื่อการอนาจาร และกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี โดยหลังตำรวจออกหมายจับ ผู้ต้องหาได้มีการติดต่อมาทาง พ.ต.อ.ชัยเสถียร มณีจักร ผกก.สภ.บรรพตพิสัย ว่าจะขอเข้ามอบตัวในวันที่ 21 พ.ย.นี้ เวลา 08.00 น.

ล่าสุดวันที่ 21 พ.ย.2562 เวลา 13.30 น. นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ ได้เดินทางไปเยี่ยมเด็กหญิงหนึ่งและครอบครัวด้วยความห่วงใย จากนั้นได้พาพ่อและปู่ไปที่ตำรวจภูธรจังหวัดนครสวรรค์

เข้าพบ พล.ต.ต.สุกฤษฎิ์ บุญทรง ผบก.ภ.จว.นครสวรรค์ และพ.ต.อ.ชัยเสถียร มณีจักร ผกก.สภ.บรรพตพิสัย เพื่อขอให้การคุ้มครองช่วยเหลือครอบครัวของเด็กหญิงหนึ่ง เนื่องจากครอบครัวฐานะยากจนเมื่อมีคู่กรณีเป็นถึงนายกองค์การบริหารส่วนตำบล เกรงว่าจะไม่ปลอดภัย และนางปวีณายังได้ขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ที่ดำเนินการช่วยเหลือเด็กอย่างรวดเร็ว พร้อมประสานให้เด็กหญิงหนึ่งอยู่ในความคุ้มครองของบ้านพักเด็กฯ นครสวรรค์ เพื่อฟื้นฟูสภาพจิตใจและได้กลับไปเรียนหนังสือต่อตามที่เด็กตั้งใจเพื่อจะได้มีชีวิตปกติสุขเหมือนเด็กคนอื่นๆ โดยมูลนิธิปวีณาฯ จะประสานความช่วยเหลือกับพมจ.นครสวรรค์ และบ้านพักเด็กฯนครสวรรค์อย่างต่อเนื่อง จากนี้นางปวีณาจะได้ประสานกรมคุ้มครองสิทธิฯ กระทรวงยุติธรรม เพื่อให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิปวีณาฯ พาพ่อและปู่ไปติดต่อขอรับเงินเยียวยาผู้เสียหายทางคดีต่อไป 

ภาพ/ข่าว รณกฤต วรณันวรกุล ผู้สื่อข่าวจังหวัดนครสวรรค์