ข่าว

ป่วน ชิมช้อปใช้ เฟส 2 จับได้แน่นอน

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ดีอี - คลัง - กรุงไทย ร่วมแถลงกรณีผู้ไม่หวังดีป่วนระบบลงทะเบียน ชิมช้อปใช้ มั่นใจ เร็วๆ นี้ จะจับคนผิดได้แน่นอน

 

              สืบเนื่องจากกรณี เมื่อเช้า วันที่ 25 ต.ค. 62 เวลา 06.00 น. เว็บไซต์ www.ชิมช้อปใช้.com เปิดให้ประชาชนลงทะเบียน ชิมช้อปใช้ เฟส 2 รอบเช้า เพื่อรับสิทธิ์ 1,000 บาท สำหรับการใช้จ่ายผ่าน G-Wallet และเงินชดเชยร้อยละ 15 ของยอดใช้จ่ายไม่เกิน 30,000 บาท เช่นเดียวกับโครงการ ชิมช้อปใช้ เฟสแรก แต่ระยะ 2 ผู้ร่วมโครงการจะได้รับสิทธิ์ชดเชยร้อยละ 20 ของยอดใช้จ่ายในส่วนที่เกิน 30,000 บาท แต่ไม่เกิน 50,000 บาท (ชดเชยไม่เกิน 4,000 บาท) ซึ่งมีการขยายสิทธิ์ให้แก่ผู้ได้รับสิทธิ์ 10 ล้านคนแรกที่ไม่ถูกตัดสิทธิ์ด้วย ต่อมาทาง ธนาคารกรุงไทย ได้แชร์ข้อความลงบนเพจเฟซบุ๊กของทางธนาคารฯ โดยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย นายผยง ศรีวณิช ระบุว่า

 

 

 

              "ธนาคารได้เฝ้าติดตามการลงทะเบียนมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวในประเทศ ชิมช้อปใช้ พบว่า มีผู้ไม่หวังดีเข้ามาก่อกวนระบบการลงทะเบียน โดยนำเทคโนโลยีเพื่อสร้างความได้เปรียบในการลงทะเบียนมาใช้ ส่งผลให้ประชาชนลงทะเบียนได้ช้ากว่าปกติ ซึ่งธนาคารต้องขออภัยในความไม่สะดวกในครั้งนี้ โดยขณะนี้ ธนาคารอยู่ระหว่างการเฝ้าระวังระบบอย่างใกล้ชิด เพื่อให้เกิดผลกระทบต่อประชาชนน้อยที่สุด"

 

 

 

ป่วน ชิมช้อปใช้ เฟส 2 จับได้แน่นอน

 

 

 

              ขณะเดียวกัน ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง นายลวรณ แสงสนิท ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง ก็ได้ออกมาเปิดเผยว่า ในช่วงเช้าวันนี้เช่นกัน (25 ต.ค.) ซึ่งมีการเปิดให้ลงทะเบียนเข้าร่วมมาตรการ "ชิมช้อปใช้ เฟส 2" เป็นรอบแรกของวันที่สอง กระทรวงการคลัง ได้ตรวจสอบ พบการกระทำจากผู้ไม่หวังดี ด้วยการก่อกวนระบบการลงทะเบียน โดยมีการส่งคำสั่ง เข้าสู่ระบบการลงทะเบียนเป็นจำนวนมากในช่วงเวลาเดียวกัน ทำให้ระบบให้บริการได้ช้ากว่าปกติ ทั้งนี้ กระทรวงการคลังได้เร่งดำเนินการแก้ไข และป้องกันการก่อกวนดังกล่าวแล้ว เพื่อให้ประชาชนได้รับความสะดวกมากที่สุด และยืนยัน ที่จะเปิดการลงทะเบียนอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ได้ผู้ลงทะเบียนจนครบ 3 ล้านคน อย่างไรก็ตาม มาตรการ ชิมช้อปใช้ เฟส 2 เป็นมาตรการที่ได้รับความสนใจจากประชาชนจำนวนมาก จึงขอให้ผู้ที่ไม่หวังดียุติการกระทำดังกล่าว เพื่อให้การลงทะเบียนเป็นไปอย่างต่อเนื่อง

 

 

 

              ล่าสุด ช่วงบ่ายวันเดียวกัน ที่ ธนาคารกรุงไทย สำนักงานใหญ่ รัฐมนตรีกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ พร้อมปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม น.ส.อัจฉรินทร์ พัฒนพันธ์ชัย เดินทางเข้ามาร่วมประชุมหารือถึงกรณีดังกล่าวที่เกิดขึ้นกับทางธนาคารกรุงไทย ซึ่งภายหลังจากการประชุม รัฐมนตรีกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย นายผยง ศรีวณิช ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม น.ส.อัจฉรินทร์ พัฒนพันธ์ชัย เลขานุการรัฐมนตรีกระทรวงการคลัง นายธนกร วังบุญคงชนะ รองผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ ได้ร่วมกันแถลงข่าวถึงกรณีดังกล่าวที่เกิดขึ้น

              โดย นายพุทธิพงษ์ บอกว่า วันนี้มารับทราบข้อมูล มารวบรวมข้อมูล รวมถึงได้มอบข้อมูลให้กับทาง ปอท. และผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ให้ไปดำเนินการต่อหลังจากนี้ เพื่อติดตามตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีโดยเร็วที่สุด พอทราบถึงตัวคนกระทำบ้างแล้ว แต่ยังไม่ขอระบุว่าเป็นบุคคลใด แต่เป็นคนไทย และก็มีความรู้ความสามารถค่อนข้างสูง อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่าระบบของทางธนาคารกรุงไทย ดีมาก เนื่องจากเมื่อเกิดเหตุดังกล่าว ทางระบบก็ยังสามารถดำเนินระบบต่อได้ และยังสามารถตรวจทราบข้อมูลที่เข้ามาก่อกวนได้ทั้งหมด ซึ่งจากการตรวจสอบ จากปัญหาที่พบ ก็คือมีช่องทางที่สร้างมาเพื่อหลอกลวงประชาชน ว่าจะสามารถเข้าได้ไว และรับสิทธิ์ได้ก่อนคนอื่น จึงทำให้ประชาชนอาจหลงเชื่อ และสับสน ส่วนตัวจึงอยากขอให้ประชาชน ใช้ช่องทางปกติที่ทางโครงการจัดทำให้เท่านั้น พร้อมขอให้ประชาชนมั่นใจ และไม่ต้องกังวล เร็วๆ นี้จะนำตัวคนผิดมาดำเนินคดีได้อย่างแน่นอน

 

 

 

              ด้าน นายผยง บอกว่า ธนาคารกรุงไทยใช้ระบบและเทคนิคด้านสูง เข้ามาตรวจจับความผิดปกติ รวมถึงได้เก็บข้อมูลไว้ทั้งหมด ซึ่งก็ได้มอบให้ทางกระทรวงฯ และ ปอท. เพื่อนำไปดำเนินการต่อไปแล้ว

              ในส่วนของ พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ บอกว่า วันนี้ได้มาตรวจสอบพยานหลักฐาน ซึ่งก็ได้พอสมควร แต่ต้องยืนยันว่าระบบของทางธนาคารกรุงไทยเข้มแข็งมาก สำหรับผู้ที่กระทำการแบบนี้ เบื้องต้นจะมีความผิดตามมาตรา 10 จำคุกไม่ 5 ปี ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท ซึ่งถ้าหากมีความชัดเจน ก็จะออกหมายจับต่อไป ส่วนตัวเชื่อว่าลักษณะนี้ทำคนเดียวไม่ได้ พร้อมระบุไม่เกินสัปดาห์ จะมีความคืบหน้าถึงกรณีนี้แน่นอน

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ