ข่าว

ชาวบ้านทนไม่ไหว นายทุนรังวัดรุกที่สาธารณะ

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ชาวบ้านทนไม่ไหว นายทุนรังวัดรุกที่สาธารณะ ร้องหน่วยงานรัฐยังไม่คืบ ไร้การแก้ไข เตรียมยื่นฟ้อง 157 เจ้าหน้าที่รัฐ และคู่กรณีด้วย

วันที่ 24 ต.ค. 62   นายวรยุทธ บุญวงษ์ใส ทนายความชื่อดังจากคดีหวย 30 ล้าน ครูปรีชา ใคร่ครวญ  พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ รังวัดและชาวบ้าน ต.สวนพริก อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา  ได้เข้ามาตรวจสอบรังวัดที่ดินหน้าวัดป้อมรามัญ ซึ่งแต่เดิมพื้นที่ของวัดทั้งหมดมีเนื้อที่ 14 ไร่ แต่หลังจากถนนทางหลวงชนบท อย.2003 ตัดผ่าน เนื้อที่ได้หายไปหลังจากวัดใหม่อีกครั้งเหลือแค่ 12 ไร่ โดยที่ดินบางส่วนหายไปยังเหลือเป็นสามเหลี่ยมหน้าวัด ที่ใช้เป็นสิ่งปลูกสร้างศาลาเอนกประสงค์ เพื่อให้ชาวบ้าน และหน่วยงานราชการเข้ามาใช้ประโยชน์ร่วมกัน ชาวบ้านทนไม่ไหว นายทุนรังวัดรุกที่สาธารณะ

ชาวบ้านทนไม่ไหว นายทุนรังวัดรุกที่สาธารณะ

ชาวบ้านทนไม่ไหว นายทุนรังวัดรุกที่สาธารณะ

ชาวบ้านทนไม่ไหว นายทุนรังวัดรุกที่สาธารณะ

สถานที่ดังกล่าว มีข้อพิพาทระหว่างชาวบ้านกับนายทุนที่เคยมารังวัดที่แล้วรุกล้ำเข้ามายังที่ลำรางสาธารณะ จนเลยข้ามมาปักมุดยังที่ของวัด  โดยชาวบ้านได้ยื่นคัดค้านการรังวัดครั้งล่าสุด จนถือว่าการรังวัดเป็นโมฆะ แล้วยื่นหนังสือถึงผู้ว่าราชการ ผ่านศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อให้ตรวจสอบแก้ไขพื้นที่ที่เป็นปัญหาข้อพิพาท จนป่านนี้ก็ยังไม่มีอะไรคืบหน้า ชาวบ้านจึงให้เจ้าหน้าที่รังวัดมารังวัดสอบเขตใหม่ โดยเจ้าหน้าตำรวจ  นายพิชญ์พงศ์ เทิดรัตนพงศ์ ปลัดอาวุโส  นายประพันธ์ เธียรประยูร  ปลัดอำเภอพระนครศรีอยุธยา  กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เข้ามาดูแลความสงบเรียบร้อย

ชาวบ้านทนไม่ไหว นายทุนรังวัดรุกที่สาธารณะ

ชาวบ้านทนไม่ไหว นายทุนรังวัดรุกที่สาธารณะ

ชาวบ้านทนไม่ไหว นายทุนรังวัดรุกที่สาธารณะ

ชาวบ้านทนไม่ไหว นายทุนรังวัดรุกที่สาธารณะ

นายวรยุทธ บุญวงษ์ใส ทนายความชื่อดัง กล่าวว่า ทางวัดและชาวบ้านได้ยื่นฟ้องเจ้าหน้าที่ของรัฐในมาตรา 157 ต่อศาลอาญาทุจริต และคู่กรณีด้วยที่กรทำการบุกรุก ซึ่งขณะนี้อยู่ในการพิจารณาของศาล  โดยวันที่13 พฤศจิกายน ก็จะมีการสอบพยานเพิ่มเติม  โดยในวันนี้ทางวัดได้ให้เจ้าหน้าที่รังวัดที่ดินของอยุธยา มารังวัดสอบเขตเพื่อให้มันชัดเจนขึ้นในโฉนดส่วนที่ขาด เพราะเดิมที่ทางวัดมีพื้นที 14 ไร่กว่า แต่เจ้าอาวาสรูปเก่าเห็นว่าถนนตัดผ่านก็เลยให้ใช้เป็นประโยชน์สาธารณะให้ประชาชนสัญจรไป แต่ยังคงเหลืออยู่ประมาณ 2 ไร่กว่า แต่ก็ยังไม่สละสิทธิ์ในการครอบครอง ยังคงครอบครองอยู่เช่นเดิม  และยังมีพื้นที่ๆญาติโยมที่เลื่อมใสศรัทธา ได้บริจาคที่ให้กับทางวัดเราก็จะได้รังวัดและออกโฉนดต่อไป

ชาวบ้านทนไม่ไหว นายทุนรังวัดรุกที่สาธารณะ

ชาวบ้านทนไม่ไหว นายทุนรังวัดรุกที่สาธารณะ

ชาวบ้านทนไม่ไหว นายทุนรังวัดรุกที่สาธารณะ

ชาวบ้านทนไม่ไหว นายทุนรังวัดรุกที่สาธารณะ

 

 

ภาพ-ข่าว  เกียรติยศ  ศรีสกุล  ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ