ส.ส.พลังประชารัฐช่วยเหยื่อแชร์ลูกโซ่ถูกขู่ฆ่า

          เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 8 ตุลาคม ที่ห้องประชุมไชยานุกิจ นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานการประชุมศึกษาแนวทางมาตรการป้องกัน ปราบปราม และช่วยเหลือประชาชนผู้ตกเป็นผู้เสียหายจากการถูกหลอกลวงในความผิดลักษณะแชร์ลูกโซ่ โดยมี นายภูดิท อินสุวรรณ์ ส.ส.พลังประชารัฐ จ.พิจิตร นายเกิดโชค เกษมวงศ์จิตร รองอธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ และ นายพัฒนา อิศรางกูร ณ อยุธยา อธิบดีอัยการคุ้มครองสิทธิฯ พร้อมด้วยผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และเจ้าหน้าที่จากกองพิทักษ์สิทธิและเสรีภาพ รวมทั้งกลุ่มกฎหมายกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ เข้าร่วมประชุม

          สำหรับการประชุมในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาแนวทาง มาตรการป้องกัน ปรามปราม และช่วยเหลือประชาชนผู้ตกเป็นผู้เสียหายจากการถูกหลอกลวงในความผิดลักษณะแชร์ลูกโซ่ โดยที่ประชุมเห็นชอบในหลักการของร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดในลักษณะแชร์ลูกโซ่ แต่มีข้อสังเกตในประเด็นเรื่องของหน่วยงานที่มีอยู่ ได้ทำงานตามอำนาจหน้าที่หรือไม่ ปัญหาอุปสรรคที่ทำให้พี่น้องประชาชนได้รับความเดือดร้อน กฏหมายที่มีอยู่ได้แก้ปัญหาให้พี่น้องประชาชนเพียงพอหรือไม่ อย่างไร ซึ่งทางกรมคุมครองสิทธิจะนำกลับไปพิจารณา และกำหนดให้มีการประชุมเพื่อหารือกันอีกครั้งในโอกาสหน้า ก่อนที่จะมีการเดินทำประชาพิจารณ์กับพี่น้องประชาชนต่อไป 

          อย่างไรก็ตามในที่ประชุมดังกล่าวได้มีการเปิดคลิปวิดีโอที่ นายศาตรา ศรีปาน ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ จ.สงขลา พูดหารือปัญหาแชร์ลูกโซ่ในสภาผู้แทนราษฏร์ด้วย ว่าปัญหาแชร์ลูกโซ่ระบาดมากในพื้นที่จ.สงขลา โดยระบุว่า ถ้าเป็น ส.ส. แล้วช่วยชาวบ้านไม่ได้อายเขา  

          นอกจากนี้ช่วงท้ายการประชุม นายภูดิท ได้เล่ากรณีไปช่วยเหลือผู้เสียหายในกรณีเงินดิจิทัล ที่มีการหลอกลวงใน จ.พิจิตร จนทำให้ผู้ว่าราชการจังหวัดได้ดำเนินการจับกุมไปแล้ว แต่ยังมีการหลอกลวงกันอยู่ จึงอยากให้รัฐบาทจริงจังเรื่องนี้ ซึ่งตนเองมายุ่งเรื่องนี้ ก็เคยเจอคนโทรมาขู่ฆ่า และขอให้หยุดช่วยเหลือผู้เสียหาย ซึ่งตนเองไม่กลัว และจะเร่งช่วยเหลือผู้เสียหายทุกคนใน จ.พิจิตร เพราะตนถือว่าเป็นตัวแทนจากประชาชน ต้องทำเพื่อประชาชน เนื่องจากเรื่องการฉ้อโกงประชาชน เป็นเรื่องเร่งด่วนของรัฐบาลที่แถลงไว้ต่อรัฐสภา เมื่อมีการเปิดสภาสมัยหน้า ตนจะเอาเรื่องนี้หารือกับสภาผู้แทนราษฎรต่อไป