ข่าว

เสี่ยอสังหาฯภูเก็ตแฉแก๊งทนายอ้างบิ๊กตร.ออกโฉนด

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

นักธุรกิจสังหาริมทรัพย์ภูเก็ต แฉแก๊งทนายต้มตุ๋น อ้างชื่อบิ๊กตำรวจออกโฉนดที่ดิน สูญเงินกว่า 80 ล้านบาท

          นายชาญวิทย์ กิจเลิศสิริวัฒนา นักธุรกิจสังหาริมทรัพย์ เข้าร้องเรียนต่อสื่อมวลชน เพื่อแฉพฤติกรรม ของนายณรงค์ฤทธิ์ หรือกร เนติเกียรติวงศ์ ทนายความพร้อมพวก หลอกลวง ต้มตุ๋น และแอบอ้าง นายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ว่า สามารถดำเนินการออกโฉนดที่ดิน บนเกาะนาคาน้อย อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต เมื่อปี 2559 เพื่อครอบครองเป็นกรรมสิทธิ์

เสี่ยอสังหาฯภูเก็ตแฉแก๊งทนายอ้างบิ๊กตร.ออกโฉนด

           โดยนายณรงค์ฤทธิ์ เข้ามาตีสนิทและอ้างว่า รู้จักกับนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ และผู้มีอำนาจ ที่ออกโฉนดที่ดินดังกล่าวได้ ประมาณ 50 ไร่ ซึ่งเป็นใบ ภบท.5 แต่ต้องแลกกับค่าดำเนินการ ซึ่งผู้เสียหายก็หลงเชื่อ และให้ดำเนินการให้ ซึ่งตลอดระยะเวลา 2-3 ปีที่ผ่านมา เสียเงินไปแล้วรวมกว่า 80 ล้านบาท โดยมีการนำผู้เสียหาย พบพลตำรวจเอกนายหนึ่ง ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือกับผู้เสียหาย ว่าสามารถดำเนินการได้ แต่ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา กับไม่มีการลงพื้นที่รังวัด  หรือดำเนินการจากสำนักที่ดินอำเภอถลาง จนกระทั่งมีหนังสือจากสำนักงานที่ดินอำเภอถลาง ลงในเดือน พฤศจิกายน 2561 โดยอ้างว่า ขอเลื่อนการรังวัดไปก่อน จนมาทราบที่หลังว่า เป็นเอกสารปลอม 

          จนกระทั่งความแตก ในเดือนธันวาคม 2561 เพราะนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ที่พาไปพบในตอนแรก ลงพื้นที่มาจับกุมตนเองในข้อหา บุกรุกพื้นที่ป่า เกาะนาคาน้อย จึงรู้ว่า นายณรงค์ฤทธิ์กับพวก ร่วมกันหลอกลวง ซึ่งพลตำรวจเอกนายดังกล่าวไม่มีส่วนรู้เห็นด้วย  และยังสั่งการให้ชุดสืบสวนสอบสวน ติดตามกลุ่มนายณรงค์ฤทธิ์ หลังตนเองไปแจ้งความ ที่สภ.รัตนาธิเบศร์ ซึ่งศาลแขวงจังหวัดนนทบุรี ได้อนุมัติหมายจับนายณรงค์ฤทธิ์ในข้อหาฉ้อโกงแล้ว 

      ทั้งนี้ฝากเตือนไปยังประชาชน ที่มีความคิดจะออกโฉนดในลักษณะเดียวกันกับตนเอง ให้ระมัดระวังขบวนการของนายณรงค์ฤทธิ์และพวก เพราะเชื่อว่า อาจไปก่อเหตุในลักษณะเดียวกับตนอีก

เสี่ยอสังหาฯภูเก็ตแฉแก๊งทนายอ้างบิ๊กตร.ออกโฉนด

          ด้าน พล.ต.ต.นันทเดช ย้อยนวล รอง ผบช.ภ.8  เปิดเผยว่า จากกรณีที่หน่วยป้องกันรักษาป่า ภก. (ถลาง) ตรวจพบการบุกรุกพื้นที่ป่าบนเกาะนาคาน้อย อ.ถลาง จ.ภูเก็ต และต่อมามีการแจ้งความดำเนินคดีกับบริษัท ภูเขาหกลูก จำกัด และนายชาญวิทย์ กิจเลิศสิริวัฒนา กรรมการผู้จัดการบริษัทฯ เป็นผู้ต้องหาในคดี โดยพบว่ามีการกระทำความผิดเกิดขึ้นหลายครั้งตั้งแต่ช่วงเดือนเมษายน 2560 จนถึงเดือนพฤศจิกายน 2561 นั้น

          จากการสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน พบว่านอกจากบริษัท ภูเขาหกลูกฯ ผู้ต้องหาที่ 1 และนายชาญวิทย์ฯ ผู้ต้องหาที่ 2 แล้ว ยังพบว่ามีผู้ร่วมกระทำความผิดเพิ่มเติม คือ นายณรงค์ฤทธิ์ เนติเกียรติวงศ์ ซึ่งเป็นทนายความของผู้ต้องหาที่ 1 

          ต่อมาเมื่อวันที่ 24 ก.ย. ที่ผ่านมา นายณรงค์ฤทธิ์ฯ เดินทางมาเข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.ถลาง ตามหมายเรียก เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาในความผิดฐาน "ร่วมกันก่อสร้าง แผ้วถาง หรือเผาป่า หรือเข้ายืดถือครอบครอง เพื่อตนเองหรือผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต” เป็นผู้ต้องหาที่ 3 ในคดี

          พล.ต.ต.นันทเดช เปิดเผยอีกว่า สำหรับคดีดังกล่าวพล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. (มค.) ได้เคยลงพื้นที่เร่งรัดการดำเนินคดี และให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย โดยเฉพาะกรณีการบุกรุกที่ดินของรัฐ ซึ่งก็ว่ากันไปตามพยานหลักฐานต่างๆ และกรณีที่มีความไม่ชัดเจนในส่วนของรายละเอียด ก็ได้สั่งการให้มีการอ่านแปลภาพถ่ายทางอากาศ เพื่อให้เกิดความชัดเจน ส่วนกรณีข้อพิพาทของเอกชนซึ่งมีการฟ้องร้องกันไปมาก็ว่ากันไปตามกระบวนการของกฎหมาย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ก็ดำเนินการอยู่แล้ว

          อย่างไรก็ตาม ในการลงพื้นที่ครั้งนั้น ยังได้มีการพบหลักฐานบางอย่าง ที่จะเชื่อมโยงไปสู่การออกเอกสารสิทธิที่ดินบนเกาะนาคาน้อย ซึ่งคาดว่าจะมีความกระจ่างมากขึ้น รวมทั้งในกรณีของการปลูกสิ่งปลูกสร้างบนเกาะโดยไม่ได้รับอนุญาตนั้น ในส่วนของทางเทศบาลตำบลป่าคลอก ก็ได้มีการแจ้งความดำเนินคดีต่อทางผู้กระทำผิดแล้วพร้อมสั่งให้สอบสวนขยายผลเอาผิดกับทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวพัน มาดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เช่นกัน ส่วนความถูกต้องของเอกสารสิทธินั้น เป็นหน้าที่ของทางกรมที่ดินในการตรวจสอบต่อไป

          มีรายงานว่า สำหรับทนายณรงค์ฤทธิ์ ยังพบว่ามีพฤติกรรมชอบแอบอ้าง และยังชอบอ้างว่ามีความสนิทกับ พล.ต.อ.ศรีวราห์ ว่าสามารถช่วยคดีให้ลูกความได้ เมื่อพล.ต.อ.ศรีวราห์ ทราบเรื่องดังกล่าว จึงสั่งการสืบสวนสอบสวน จึงพบว่ามีส่วนร่วมในการกระทำความผิดฐานบุกรุกป่าฯ จึงให้ดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ